TMI เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2568 รายได้รวม 141.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิพุ่งแตะ 5.98 ล้านบาท โตแรง 526.55%

บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI โดยนายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน โดยมีกำไรสุทธิ 5.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 526.55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 0.59 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 141.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.50% จาก 137.06 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
การเติบโตของรายได้ในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งมอบงานโครงการทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับกลยุทธ์ส่งเสริมการขายที่หลากหลาย และรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้การบริหารซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในส่วนของรายได้อื่น ๆ บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 0.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 0.39 ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากกำไรในสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าในการปรับลดต้นทุนในทุกมิติอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นทั้งด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืนในระยะยาว ส่งผลให้ต้นทุนขาย ต้นทุนในการจัดจำหน่าย และต้นทุนทางการเงินลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 17.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 450% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 3.14 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการขยายตัวของรายได้จากการส่งมอบงานในโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ว่า บริษัทจะยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่กับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาศักยภาพในการสร้างรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน
โดยคาดว่าแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงสดใส โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์หลอดไฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของบริษัท ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงปลายปี จากความต้องการใช้ไฟประดับตกแต่งสถานที่ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น คริสต์มาส ปีใหม่ และงานเฉลิมฉลองของทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ TMI
"บริษัทมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ พร้อมขยายตลาดในกลุ่มธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเสริมสร้างการเติบโตขององค์กรให้มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว" นายธีระชัย กล่าว