บมจ. อินดิจี (IDG) เผยผลงาน 9 เดือนแรกปี 68 รายได้รวม 94.23 ล้านบาท กำไร 10.98 ล้านบาท แรงหนุนจากรายได้บริการที่ขยายตัวเด่น สะท้อนดีมานด์ Digital Transformation ที่ยังแข็งแรงต่อเนื่อง IDG เร่งเดินหน้าปรับสัดส่วนรายได้สู่บริการมาร์จิ้นสูงและสร้าง Recurring Income พร้อมปลดล็อกโอกาสใหม่จากเมกะเทรนด์ด้านเอไอ และระบบงานธุรกิจพร้อมใช้งาน ปัจจุบันลูกค้าองค์กรให้ความสำคัญกับระบบและบริการที่เห็นผลเร็ว ทำให้ IDG ปรับกลยุทธ์สู่โซลูชันแบบ "Quick Win" ควบคู่การขยายงานที่ปรึกษา-ฝึกอบรม-พัฒนาเร่งด่วน ที่เติบโตโดดเด่น ตอกย้ำความคล่องตัวในการแข่งขัน มั่นใจการขยายแพลตฟอร์ม WORK+ / BIZ+ / LIFE+ ช่วยผลักดันรายได้เติบโตต่อเนื่องในปี 2568 และเป็นขุมพลังขับเคลื่อน New Growth Engine ต่อเนื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า
นายวิธาน ฉั่วเจริญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินดิจี จำกัด (มหาชน) หรือ IDG ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร และผู้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับองค์กร เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก ปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568) บริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้รวม 94.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 86.56 ล้านบาท หรือเติบโต 8.85% (YoY) โดยมีแรงส่งสำคัญจากรายได้งานบริการที่เติบโตโดดเด่นอยู่ที่ 69.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 61.06 ล้านบาท หรือ เติบโต 14.09% YoY สะท้อนความต้องการด้าน Digital Transformation ที่ขยายตัวในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นบริการให้คำปรึกษา การเชื่อมต่อระบบ การพัฒนาระบบเสริม และงานบริการที่คิดค่าบริการตาม Man-days ซึ่งเป็นงานที่มีคุณภาพกำไรสูงกว่าการขายสินค้า ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 10.98 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน สะท้อนเสถียรภาพของธุรกิจท่ามกลางสภาพตลาดที่ปรับตัวรวดเร็ว โดย IDG มีแผนเดินหน้าปรับสัดส่วนรายได้ไปยังบริการที่ให้มาร์จิ้นสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านผลประกอบการไตรมาส 3/2568 รายได้จากการให้บริการยังเติบโตได้ดี โดยทำได้ 24.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 21.64 ล้านบาท หรือ เติบโต 12.2% YoY ส่งผลให้รายได้รวมไตรมาสอยู่ที่ 29.96 ล้านบาท แม้รายได้จากการขายสินค้าจะชะลอลงตามกำลังซื้อที่ลดลง แต่บริษัทเชื่อมั่นว่าการปรับสัดส่วนรายได้ไปยังกลุ่มบริการ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งขององค์กรในระยะยาว โดยมีกำไรสุทธิไตรมาสนี้อยู่ที่ 3.39 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมโครงสร้างรายได้ทั้ง 4 ประเภท ประกอบด้วย รายได้จากการขายซอฟต์แวร์ โดยยอดขายผลิตภัณฑ์ Microsoft เพิ่มขึ้น สะท้อนการเติบโตของตลาด Cloud และบริการ Subscription แม้รายได้ซอฟต์แวร์พัฒนาเองลดลง จากกำลังซื้อภาคธุรกิจขนาดกลางที่ชะลอตัว แต่การขยายตัวของ Microsoft เป็นประตูสำคัญในการต่อยอดโซลูชันและบริการเสริมในอนาคต
รายได้จากการบริการพัฒนาระบบดิจิทัล ปรับกลยุทธ์จากลูกค้าองค์กรปรับงบไปยังงานระยะสั้นที่เห็นผลเร็ว และลดความเสี่ยงโครงการระยะยาว ทำให้รูปแบบการซื้อบริการเปลี่ยนไป IDG เร่งปรับตัวทันที ด้วยการพัฒนาบริการแบบโมดูลาร์ งานเสริมระบบ (Enhancement) และบริการลักษณะ Quick Win เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมตลาดใหม่
รายได้จากค่าบริการบำรุงรักษาระบบและซอฟต์แวร์ เป็นรายได้ประจำ สัญญาบริการระยะยาวรับรู้เป็นรายไตรมาส เพิ่มขึ้น 1.45 ล้านบาท หรือ 8.40% YoY จากลูกค้าเดิมใช้งานต่อเนื่อง และลูกค้าใหม่จากงานพัฒนาที่ต่อยอดเป็นสัญญาบำรุงรักษา หนุน Recurring Income ที่ช่วยสร้างเสถียรภาพและลดความผันผวนของธุรกิจ
ขณะที่ รายได้จากค่าบริการอื่น ๆ ประกอบด้วยงานให้คำปรึกษา (Consulting), การฝึกอบรม (Training), งานพัฒนาแบบเร่งด่วน และบริการระบบคลาวด์ เป็นกลุ่มดาวเด่น และเป็นฐานรายได้ที่เติบโตเร็วที่สุดของ IDG ในปีนี้ เติบโตสูงถึง 90.97% YoY ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว งบประมาณควบคุมได้ และลดความเสี่ยงจากโครงการระยะยาว
"อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัลยังอยู่ในช่วงขยายตัวสูง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure), AI Transformation, Cloud และ Data Center ปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุยกับลูกค้าเพิ่มเติม และเห็นความต้องการโซลูชันของ IDG เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีความได้เปรียบจากการเป็นพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งกับทาง Microsoft ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงองค์กรขนาดใหญ่ และต่อยอดสู่บริการมูลค่าเพิ่ม เช่น Data Analytics, Workflow Automation และการเชื่อมต่อระบบระดับองค์กร รวมถึงแพลตฟอร์มที่บริษัทฯ พัฒนาเอง ได้แก่ WORK+ / BIZ+ / LIFE+ ซึ่งเป็นโซลูชันสำหรับงานภายในองค์กร ที่ช่วยสร้างรายได้ประจำและลดความผันผวนของธุรกิจในอนาคต โดยปี 2568 วางเป้าหมายเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งส่วนของรายได้และกำไร และตั้งเป้ารายได้อีก 3 ปีข้างหน้าเติบโตได้ 2 เท่า" นายวิธาน กล่าวทิ้งท้าย
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอกลุ่มระบายความร้อนด้วยของเหลว จาก Motivair ด้วยโซลูชั่นและบริการที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ HPC และเวิร์กโหลด AI
ITEL ตอกย้ำผู้นำธรรมาภิบาล คว้า 5 ดาว "ดีเลิศ" 5 ปีต่อเนื่อง
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกาศเปิดตัว "สถาปัตยกรรมอ้างอิง" ใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมระบบจัดการพลังงานและควบคุมการระบายความร้อนด้วยของเหลว รองรับ NVIDIA Mission Control และ NVIDIA GB300 NVL72
เดลล์ เทคโนโลยีส์ พลิกโฉมดาต้าเซ็นเตอร์ ครั้งใหญ่ อัดนวัตกรรม เพิ่มขุมพลังให้ไพรเวทคลาวด์ ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น
เปิดให้บริการในไทยแล้ว OCX: Open Connectivity eXchange มิติใหม่ของบริการเชื่อมต่อตรงสู่ระบบคลาวด์ โดย BBIX Thailand
FLOYD ราคาหุ้นร้อนแรง เดินหน้าธุรกิจต่อเนื่อง ส่งสัญญาณ Q3 แนวโน้มสดใส
NT ร่วมกับ Telehouse เชื่อมตรงเส้นทางเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ เสริมความแข็งแกร่งโครงข่ายสื่อสารไทย สู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) แต่งตั้ง วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เสริมความแข็งแกร่งการกระจายสินค้า UPS และโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วประเทศ