ทีม SEhRT กรมอนามัย ฟื้นฟูหาดใหญ่หลังน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง เพื่อคืนพื้นที่สะอาด ปลอดภัย

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่คลี่คลาย ทีม SEhRT กรมอนามัยได้ลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการฟื้นฟูหาดใหญ่แบบเต็มกำลัง เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง ควบคู่กับการดูแลกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กปฐมวัย ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะเสี่ยงทางสุขภาพ โดยดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อสำรวจ ประเมิน และเฝ้าระวังความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในชุมชนเมืองและพื้นที่สาธารณะ โดยให้ความสำคัญกับระบบน้ำอุปโภคบริโภค สุขาภิบาลอาหาร การจัดการขยะและสิ่งปฏิกูล ความปลอดภัยของอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงสภาพแวดล้อมหลังน้ำท่วม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไปและกลุ่มเปราะบางที่มีความไวต่อความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน เด็กเล็กและกลุ่มเปราะบางอาจได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่น

"ทีม SEhRT กรมอนามัย ดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ทั้งศูนย์เด็กเล็ก สถานศึกษา ศาสนสถาน ตลาด และชุมชนเมือง อาทิ วัดมหัตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) วัดท่าเคียน วัดศรีสว่างวงศ์ (วัดเกาะเสือ) วัดฉื่อฉาง มัสยิดนูดร์ตักวา มัสยิดมะห์มูดียะห์ มัสยิดอังศอร์ค โดยส่วนใหญ่มีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี และชุมชนร่วมแรงทำความสะอาดได้ดี การเฝ้าระวังน้ำประปาพบคุณภาพน้ำประปามีคลอรีนอิสระคงเหลือ 0.5-1.0 ppm. ทีม SEhRT จึงได้ให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงคุณภาพน้ำ และการใช้คลอรีนฆ่าเชื้อ การรวมพลังชุมชนทำความสะอาดศาสนสถาน การปฏิบัติตามสุขอนามัยส่วนบุคคล ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ และการป้องกันโรคติดต่อหลังอุทกภัย พร้อมรับทราบความต้องการยาสามัญประจำบ้านและเวชภัณฑ์พื้นฐานของประชาชน" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้ชาวหาดใหญ่ ทีม SEhRT กรมอนามัยยังคงเดินหน้าส่งเสริมสุขภาพประชาชนและให้คำแนะนำด้านสุขภาพ อาทิ การใช้น้ำสะอาดปลอดภัย การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิว การดูแลบาดแผลอย่างถูกวิธี และการใช้ยาสามัญประจำบ้าน อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคที่สัมพันธ์กับน้ำ อาหาร และสิ่งแวดล้อมหลังอุทกภัย รวมทั้ง สร้างความรอบรู้และสื่อสารความเสี่ยงด้านสุขภาพ ให้กับครอบครัว ครู ผู้ดูแล และผู้นำชุมชน เพื่อให้สามารถเฝ้าระวังอาการเจ็บป่วยของเด็กปฐมวัยและกลุ่มเปราะบางได้อย่างใกล้ชิด ให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทันท่วงที หากพบความผิดปกติ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน การสร้างความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาพ และเน้นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ในอนาคต เพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลตนเองและชุมชนได้อย่างเข้มแข็งต่อไป

• ข่าวอัมพร เบญจพลพิทักษ์
• ข่าวอนามัยสิ่งแวดล้อม
• ข่าวกระทรวงสาธารณสุข
• ข่าวสถานการณ์น้ำท่วม
• ข่าวศูนย์เด็กเล็ก