จับตาการปฏิรูปโครงสร้าง ศก.จีน สศก. เผยบทวิเคราะห์ ผลกระทบไทยในฐานะคู่ค้าสำคัญ

Press Releases »

          สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผย บทวิเคราะห์ผลกระทบปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจีนต่อภาคเกษตรไทย ระบุ ไทยพึ่งพาการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ไปจีน ซึ่งมีมูลค่าส่งออกเป็นอันดับหนึ่งสัดส่วนร้อยละ 11 ต่อปี แต่หากมองระยะยาวจะเกิดผลดีต่อประเทศไทยในฐานะคู่ค้าที่สำคัญ
          นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันจีนนับมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ประมาณ 1,400 ล้านคน อีกทั้งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดประเทศหนึ่ง ดังนั้น การบริโภคในประเทศจีน ไม่ว่าจะมาจากภาคครัวเรือนหรือภาคเอกชนจะเป็นตัวกระตุ้นความต้องการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากภายนอกประเทศเพื่อผลิตเป็นสินค้าและบริการตอบสนองต่อความต้องการของคนในประเทศหรือผลิตเพื่อการส่งออก สร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้า และนำเงินตราเข้าประเทศ 
          สำหรับในทศวรรษแรกหลังการเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (WTO) จีนมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยสูงมากอยู่ร้อยละ 10.40 ต่อปี ก่อนลดระดับความร้อนแรงทางเศรษฐกิจลงมาอยู่ร้อยละ 7.4 ในปี 2557 นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนอาจลดลงไปถึงร้อยละ 6.8 ในปี 2558 และเหลือร้อยละ 6.3 ในปี 2559 ซึ่งสาเหตุอาจไม่ได้มาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มรับรู้ได้ถึงผลกระทบแล้ว 
          การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจีนจะเน้นให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้ การจัดสรรทรัพยากรทางเศรษฐกิจไปยังกลุ่มต่างๆ อย่างเท่าเทียม ร่วมกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและรักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากความไม่สอดคล้องระหว่างโครงสร้างและระบบเศรษฐกิจ อันเป็นผลมาจากยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมหนักเป็นหลัก ทำให้เศรษฐกิจในระยะยาวไม่มีความมั่นคง การเติบโตไม่ต่อเนื่อง ส่งผลต่อสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ไม่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจภาคบริการ ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต และขยายธุรกิจภาคบริการลงสู่เขตชนบทเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น เป็นการกระจายรายได้และลดช่องว่างระหว่างชุมชนเมืองและชนบทลง อย่างไรก็ตาม การที่จีนหันกลับมาปฏิรูปโครงสร้างภายในประเทศ จะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง ลดการนำเข้าสินค้าบางส่วนที่ใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม และหันกลับไปผลิตสินค้าตอบสนองต่อความต้องการในประเทศเองมากขึ้น 
          ดังนั้น ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจีนในครั้งนี้ เนื่องจากไทยพึ่งพาการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ไปจีน ซึ่งมีมูลค่าส่งออกเป็นอันดับหนึ่งและคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 11 ต่อปี ของมูลค่าส่งออกรวมทั้งหมด โดยในปี 2557 มูลค่าส่งออกรวมของไทยไปจีนเท่ากับ 806,438 ล้านบาท หดตัวลงร้อยละ 2.21 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่าส่งออกรวมในปี 2558 (ม.ค. – เม.ย.) เท่ากับ 241,896 ล้านบาท หดตัวลงต่อเนื่องร้อยละ 10.57 
          หากจำแนกการส่งออกเป็นสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ และสินค้านอกการเกษตร พบว่า การส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์มีมูลค่าส่งออกหดตัวลงร้อยละ 4.43 ในปี 2557 และในปี 2558 (ม.ค. – เม.ย.) หดตัวรุนแรงขึ้นต่อเนื่องถึงร้อยละ 20.26 ขณะที่มูลค่าส่งออกสินค้านอกการเกษตร พบว่า หดตัวลงร้อยละ 1.09 ในปี 2557 และในปี 2558 (ม.ค. – เม.ย.) หดตัวลงต่อเนื่องร้อยละ 5.04 ถึงแม้การส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง แต่ดุลการค้าสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ยังคงเกินดุลเมื่อเปรียบเทียบกับการส่งออกสินค้านอกภาคเกษตรที่ขาดดุลเสมอ แสดงให้เห็นว่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทยไปจีนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและลดการขาดดุลการค้าให้กับภาคส่งออกของไทยได้ ทั้งนี้ ปี 2558 (มกราคม - เมษายน) การส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ไทยนั้น ยังเกินดุล 62,621 ล้านบาท
          ในเรื่องดังกล่าว ผลกระทบของการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจีนที่มีต่อภาคเกษตรไทย สะท้อนให้เห็นชัดในภาคการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตรเพื่ออุตสาหกรรมที่ใช้เป็นวัตถุดิบในภาคการผลิตของจีน เช่น ยางธรรมชาติ แต่ในกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจีน และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจีนมองว่าสินค้าเกษตรไทยมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ถึงแม้บางช่วงอาจชะลอการบริโภคอยู่บ้างตามภาวะเศรษฐกิจจีนในขณะนั้น แต่คาดว่าเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ และหากมองในระยะยาว การปฏิรูปของจีนจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจมีเสถียรภาพและมีคุณภาพมากขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นผลดีต่อประเทศไทยในฐานะคู่ค้าที่สำคัญ 
          ดังนั้น ภาคเกษตรไทยจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจีน ศึกษาความต้องการสินค้าเกษตรเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมใหม่หลังปรับโครงสร้างการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มในตัวสินค้าเกษตรและอาหารโดยเฉพาะสินค้าเกษตรแปรรูป สร้างความภักดีในตราสินค้าเกษตรไทย (Brand loyalty) ให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน เข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนในทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจการเกษตรด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนทางเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่องในระยะยาว พัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับจีนให้มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมและพัฒนาตลาดทางเลือกสินค้าเกษตร เช่น เกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดสารพิษ เกษตร สีเขียว เป็นต้น
 
           ตารางมูลค่าสินค้าส่งออก สินค้านำเข้า และดุลการค้า ไทย – จีน ปี 2556 – 2558

สินค้า

2556

2557

2557

2558

(ม.ค.-เม.ย.)

(ม.ค.-เม.ย.)

1. สินค้าส่งออกทั้งหมด

824,672

806,438

270,497

241,896

   1.1 สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์

276,230

263,980

98,405

78,471

      - สินค้าเกษตรและอาหาร

97,101

123,314

40,732

43,436

      - สินค้าเกษตรเพื่ออุตสาหกรรม

179,129

140,666

57,673

35,034

   1.2 สินค้านอกการเกษตร

548,443

542,458

172,092

163,425

2. สินค้านำเข้าทั้งหมด

1,155,296

1,251,528

382,977

426,614

   2.1 สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์

43,414

48,367

14,385

15,849

      - สินค้าเกษตรและอาหาร

43,165

48,079

14,309

15,765

      - สินค้าเกษตรเพื่ออุตสาหกรรม

249

288

76

84

   2.2 สินค้านอกการเกษตร

1,111,882

1,203,161

368,593

410,765

3. ดุลการค้า

-330,624

-445,091

-112,481

-184,719

   3.1 สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์

232,815

215,613

84,020

62,621

      - สินค้าเกษตรและอาหาร

53,936

75,235

26,423

27,671

      - สินค้าเกษตรเพื่ออุตสาหกรรม

178,879

140,378

57,597

34,950

   3.2 สินค้านอกการเกษตร

-563,439

-660,704

-196,501

-247,340

ที่มา: ศูนย์สารสนเทศการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
 

ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม "AgriDataProv" ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล

นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง "ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data: สู่จังหวัดยุคดิจิทัล" ณ ห้องประชุม Nada Ballroom โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น นาดา ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร โดยการจัดงานของศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ พร้อมด้วยหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วม ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคของการวิเคราะห์และใช้ประ

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมอาชีพประมง เพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ หนุนสร้างรายได้เกษตรกร — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสห...

นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศร... สศท.3 หนุนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 'สับปะรดท่าอุเทน' GI ขึ้นแท่นผลไม้เศรษฐกิจเด่น จ.นครพนม — นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... 3 ปี ผลสำเร็จแปลงใหญ่ทุเรียนหนองโสน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วรวมกว่า 23.79 ล้านบาท — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กร...

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกร... ไทย - จีน จับมือสร้างความสัมพันธ์ พร้อมเปิดตลาดสินค้าด้านการเกษตร — ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกั...