ASIANET : เรย์ธีออนซื้อธุรกิจเท็กซัสอินสตรูเม้นต์หวังครองตลาดอาวุธโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »


เล็กซิงตัน--7 ม.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/เอเชียเน็ท


เมื่อวานนี้บริษัทเรย์ธีออน คอมพานี และบริษัทเท็กซัส อินสตรูเม้นต์ส อินคอร์ ปอเรเต็ดได้ประกาศว่า คณะกรรมการบริหารของทั้ง 2 บริษัทได้อนุมัติข้อตกลงให้บริษัท เรย์ธีออนเข้าซื้อสินทรัพย์ในหน่วยธุรกิจผลิตอาวุธอิเล็คทรอนิคส์ของบริษัทเท็กซัส อินสตรู เม้นต์สเป็นเงินสดมูลค่า 2.95 พันล้านดอลล่าร์

ทั้งนี้ การเข้าครอบครองธุรกิจดังกล่าวจะทำให้เรย์ธีออนมีรายได้ต่อปีทั้งหมด เพิ่มขึ้นสู่ระดับประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลล่าร์ และจะสร้างเสริมความแข็งแกร่งในการ เป็นผู้นำทางอุตสาหกรรมผลิตอาวุธอิเล็คทรอนิคส์ของเรย์ธีออน ในขณะที่จะเป็นการสนับ สนุนจุดยืนของทางบริษัทในการเติบโตต่อไปในอุตสาหกรรมที่กำลังมีการรวมตัวกันดังกล่าว ด้วย และคาดว่าการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้จะไม่ทำให้ผลประกอบการต่อหุ้นของทางเรย์ธีออน ลดลงในปีนี้แต่อย่างใด รวมทั้งจะเอื้อประโยชน์มากขึ้นต่อผลประกอบการต่อหุ้นภายหลัง จากนี้ด้วย อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะต้องผ่านการพิจาณราทบทวนตามกฎ ต่อต้านการผูกขาดฮาร์ต-สก็อตต์-โรดิโน และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสที่ 2 ของ ปีนี้

ด้านนายเดนนิส เจ พิคาร์ด ประธานและซีอีโอของเรย์ธีออนได้แสดงความ เห็นว่า ทางบริษัทได้ย้ำเสมอมาว่าจะยังคงเป็นบริษัทชั้นนำในวงการอุตสาหกรรมผลิต อาวุธต่อไป โดยทางบริษัทจะซื้อธุรกิจระดับโลกที่กำลังเติบโตและประสบความสำเร็จ ในการแข่งขันในตลาดอาวุธอิเล็คทรอนิคส์หลักๆหลายแห่ง ที่ทางบริษัทไม่ได้มีส่วนร่วม ในตลาดนั้นมากนัก โดยการรวมกิจการของทางบริษัทนั้นจะเป็นส่วนเสริมให้ทางบริษัท ขยายธุรกิจผลิตอาวุธอิเล็คทรอนิคส์ได้ต่อไปอีก และทางบริษัทก็ยอมรับในผลงานของ ทีมงานของบริษัทเท็กซัส อินสตรูเม้นต์ส ดีเฟนส์ ซิสเต็มส์ แอนด์ อิเล็คทรอนิคส์มานาน แล้วและมีความยินดีที่บริษัทเท็กซัส อินสตรูเม้นต์สจะเข้ามาร่วมดำเนิงานอยู่ในเครือ ข่ายเดียวกับเรย์ธีออน

นอกจากนี้ นายพิคาร์ดยังกล่าวว่า การเข้าเทคโอเวอร์ธุรกิจอาวุธอิเล็ค ทรอนิคส์ของบริษัทเท็กซัส อินสตรูเม้นต์สจะเป็นการเปิดตลาดอาวุธแห่งใหม่ๆทั่วโลกและ จะทำให้ยอดจำหน่ายอาวุธอิเล็คทรอนิคส์ต่อปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8 พันล้านดอลล่าร์ และทำ ให้ยอดขายอาวุธสะสมในปัจจุบันเพิ่มสู่ระดับ 9.3 พันล้านดอลล่าร์ด้วย

ส่วนนายโธมัส เจ เอ็นจิบุส ประธานและซีอีโอของบริษัทเท็กซัส อินสตรู เม้นต์สได้กล่าวว่าการดำเนินการในครั้งนี้นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ โดยบริษัทเรย์ธีออนจะได้ รับเทคโนโลยีและพนักงานที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมผลิตอาวุธไปเป็น จำนวนมาก ซึ่งพนักงานก็จะได้รับโอกาสในหน้าที่การงานในการร่วมงานกับบริษัทอาวุธ รายใหญ่ด้วย

ด้านนายเดวิด ดับบลิว เวลพ์ ผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแห่ง ใหม่ในเครือเรย์ธีออนภายใต้ชื่อบริษัทเรย์ธีออน ทีไอ ซิสเต็มส์นั้นจะรายงานขึ้นตรงต่อนาย พิคาร์ด ซึ่งนายเวลพ์ได้กล่าวว่า ทางบริษัทมีความยินดีที่จะร่วมงานกับเครือเรย์ธีออน โดย การร่วมงานทางธุรกิจจะทำให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถเสนอเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ให้กับลูก ค้าหลากหลายกว่าที่แต่ละบริษัทจะสามารถเสนอให้ลูกค้าเอง ซึ่งแนวโน้มและความเป็นไป ได้ต่อไปในอนาคตก็เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง และทำให้ทางบริษัทก็มีความกระตือรือร้นที่จะ เริ่มการร่วมงานกันด้วย

ทั้งนี้ บริษัทเท็กซัส อินสตรูเม้นต์ส ดีเฟนส์ ซิสเต็มส์ แอนด์ อิเล็คทรอนิคส์ กรุ๊ป ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเลวิสวิลล์ รัฐเท็กซัส คาดว่ามีรายได้เมื่อปีที่แล้ว ประมาณ 1.8 พันล้านดอลล่าร์ โดยทางบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายระบบป้องกันภัยชั้นนำ ที่ รวมถึงอาวุธนำวิถี, ขีปนาวุธต้านรังสี และขีปนาวุธโจมตี, เรดาร์ทางอากาศ, ระบบ วิสัยทัศน์กลางคืน และระบบอิเล็คทรอนิคสำหรับปฏิบัติการสงคราม ซึ่งทางบริษัทมีพนักงาน ประมาณ 12,000 คน โดยส่วนใหญ่ประจำอยู่ในรัฐเท็กซัส

ส่วนบริษัทเรย์ธีออน อิเล็คทรอนิคส์ ซิสเต็มส์ (อาร์อีเอส) นั้นเป็นผู้นำใน ด้านขีปนาวุธแบบอากาศสู่อากาศ และขีปนาวุธป้องกันเรือ พร้อมทั้ง AMRAAM,ไซด์วินเดอร์, ขีปนาวุธสแตนดาร์ด มิสไซล์และสแปร์โรว์ รวมทั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ อาทิ แพทริออต และฮ็อค โดยทางบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเป็นจำนวนมากในด้านเรดาร์บนพื้นดิน และบนเรือ, ระบบการสื่อสารทางทหาร และการควบคุมปฏิบัติการทางเรือ และระบบคลื่นเสียงหา ตำแหน่งวัตถุใต้น้ำ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการด้านระบบป้องกัน ให้กับลูกค้า ซึ่งรวมถึงระบบลาดตระเวนและการตรวจตรา,ระบบสั่งการ,ควบคุมและระบบ สื่อสาร,การดัดแปลงเครื่องบินรุ่นพิเศษและระบบมาตรการตอบโต้ต่างๆ

นอกจากนี้ บริษัทเรย์ธีออน แอร์คราฟท์ คอมพานี (อาร์เอซี) ยังจัดให้มีการ ฝึกอบรมทางด้านการบินให้แก่กองทัพด้วย โดยระบบ Joint Primary Air-craft Training System (เจพีเอทีเอส) ซึ่งเป็นการฝึกอบรมสำหรับกองทัพอากาศและกองทัพ เรือสหรัฐของทางอาร์เอซี ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันในปี 1995 เป็นมูลค่าหลาย พันล้านดอลล่าร์ ส่วนบริษัทเรย์ธีออน เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคเตอร์ (อาร์อีแอนด์ซี) นั้นก็เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาทางด้านเทคนิคชั้นนำของรัฐบาล ซึ่งให้บริการในด้านการดำเนิน งานและบำรุงรักษาระบบป้องกันต่างๆ ของสหรัฐ

บริษัทเรย์ธีออนนั้นได้ทำการแข่งขันในธุรกิจหลากหลายประเภทและอาร์อีแอนด์ ซีก็เป็นหนึ่งในบริษัทวิศวกรรมก่อสร้าง,ดำเนินการและบำรุงรักษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจาก นี้ ยังได้ดำเนินธุรกิจในด้านเชื้อเพลิงและพลังงานนิวเคลียร์, ปิโตรเลียมและก๊าซ, โพลี เมอร์และสารเคมี,เวชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพ,โลหะ,เหมืองแร่และอุตสาหกรรมเบา, อาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับบริโภค รวมทั้งกระดาษและเยื่อกระดาษ สำหรับบริษัทเรย์ธีออน แอร์คราฟท์นั้นเป็นบริษัทผู้นำของโลกในด้านการบินทั่วไป โดยเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ที่สุดในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว ในขณะที่บริษัทเรย์ธีออน แอพไพลแอนซ์ เป็นบริษัทผลิต เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพเยี่ยม ซึ่งรวมถึงตู้เย็น,เตาไมโครเวฟ,เตาหุงต้ม,เครื่องล้าง จานและเครื่องซักผ้ายี่ห้ออามาน่า รวมถึงอุปกรณ์ซักแห้งยี่ห้อสปีด ควีน,เฮิร์บส์และยูนิแม็ค ด้วย

ส่วนบริษัทเรย์ธีออน คอมพานี ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเล็กซิงตัน รัฐ แมสซาชูเส็ทส์นั้น เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับสูงระดับนานาชาติซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1.2 หมื่นล้านดอลล่าร์ โดยมีพนักงานประมาณ 75,000 คน ซึ่งดำเนินงานในธุรกิจ 4 ประ เภททั่วโลก ซึ่งได้แก่ ธุรกิจด้านอิเลคทรอนิคส์การพาณิชย์และการป้องกันประเทศ,วิศว กรรมและก่อสร้าง,อากาศยานและเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักๆ

ทางด้านบริษัทเท็กซัส อินสตรูเม้นท์ อินคอร์ปอเรเต็ด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ อยู่ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสนั้น เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับสูงที่มีความทันสมัยแห่งหนึ่งของ โลก โดยได้ดำเนินการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศต่างๆมากกว่า 30 แห่ง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์และบริการของทางบริษัทได้รวมถึงเซมิคอนดัคเตอร์, ระบบอิเลคทรอนิคส์ ด้านการป้องกันประเทศ,เครื่องมือซอฟท์แวร์, ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และผลิต ภัณฑ์อิเล็คทรอนิคส์สำหรับผู้บริโภค,เครื่องควบคุมไฟฟ้าและวัสดุโลหะผสมต่างๆ--จบ--

--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง--


ข่าวคณะกรรมการ+อุตสาหกรรมวันนี้

TIJ ผนึก WJP และ กกร. รวมพลังภาครัฐ-เอกชน ยกระดับหลักนิติธรรมไทย สร้างความเชื่อมั่นในระดับสากล

สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ประกาศความร่วมมือกับ World Justice Project (WJP) และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการยกระดับ "หลักนิติธรรม" ของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบกฎหมายไทย ควบคู่กับการเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของประเทศในสายตานานาชาติและ OECD ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนพลังของพันธมิตรในการผลักดันหลักนิติธรรมให้

บอร์ดบีโอไอไฟเขียวโครงการลงทุนใหม่ ส่งท้า... บีโอไอเคาะลงทุนใหม่ส่งท้ายปีกว่า 2.4 แสนล้าน เลือก 16 โครงการใหญ่เข้า FastPass ปลดล็อกลงทุน — บอร์ดบีโอไอไฟเขียวโครงการลงทุนใหม่ ส่งท้ายปี มูลค่ากว่า 2.4 ...

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลมาให้บริการในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล สอดคล้องกับบริบทของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลมาให้บริการในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ...

รองนายกฯ เอกนิติ และเลขาฯ บีโอไอ พบหารือก... สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นเยือนไทย พบ "เอกนิติ-บีโอไอ" เจรจาลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ — รองนายกฯ เอกนิติ และเลขาฯ บีโอไอ พบหารือกับคณะนักลงทุนจากสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่...

นายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ ผู้ตรวจราชการกร... กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สร้างพันธมิตรพัฒนากำลังคน EV-HRD เป้าหมาย 150,000 คน — นายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานร่วมในพิธีลงนามบ...

รวมพลังเครือข่ายร่วมกับเอกชนต่อต้านคอร์รั... การดำเนินงานและแผนขับเคลื่อน "คณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อน ไม่ทน" — รวมพลังเครือข่ายร่วมกับเอกชนต่อต้านคอร์รัปชัน สร้างประเทศไทยโปร่งใสแข่งขัน...

รองนายกฯ เอกนิติ นำคณะบีโอไอ เยือนแดนมังก... บีโอไอเผยผลสำเร็จโรดโชว์แดนมังกร ดึงซัพพลายเชนหุ่นยนต์ ดิจิทัล ดันร่วมทุนพลังงานสะอาด — รองนายกฯ เอกนิติ นำคณะบีโอไอ เยือนแดนมังกรนครเซี่ยงไฮ้ นักลงทุนจีน...