ผู้บริหารสูงสุดของยูเอ็นดีพีเยือนไทยเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือให้มากขึ้น ระหว่างหน่วยงานขององค์กรสหประชาชาติ และรัฐบาลไทย

11 Sep 1997

กรุงเทพ--11 ก.ย.--สำนักโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ

ผู้บริหารสูงสุดของยูเอ็นดีพี นายเจมส์ กุสตาฟ สเปท (James Gustave Speth) กำหนดจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในวันที่ 10 ถึง 12 กันยายน ศกนี้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือให้มากขึ้นระหว่างรัฐบาลไทยและหน่วยงานขององค์กรสหประชาชาติในประเทศไทย

นายสเปทได้รับพระราชทานวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลฝ่าละอองพระบาทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี เพื่อขอพระราชทานดำริเรื่องงานด้านพัฒนากับผลกระทบต่อประเทศไทย และขอกราบบังคมทูลเกี่ยวกับการปฏิรูปบทบาทขององค์การสหประชาชาติและยูเอ็นดีพี

ในวันเดียวกัน นายสเปทจะเข้าพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ ในฐานะรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหัวหน้าหน่วยงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทยด้วย

สืบเนื่องมาจากแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ผู้บริหารสูงสุดของยูเอ็นดีพี นายเจมส์ กุสตาฟ สเปท ได้ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของแนวทางของประเทศไทย อาทิ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคน พัฒนาศักยภาพในการสร้างความเข้มแข็ง การมีส่วนร่วมของชุมชนในท้องถิ่น และการขจัดความยากจน

ในโอกาสนี้ นายสเปท จะเข้าพบกับฯ นายกรัฐมนตรี พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เพื่อหารือและผลักดันวัตถุประสงค์ของแผนความร่วมมือไทย-สหประชาชาติ หรือ Thai-UNCAP ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล และเพื่อยืนยันความประสงค์ขององค์การสหประชาชาติในแผนงานของ Thai-UNCAP ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการร่วมมือในการขจัดความยากจน นายสเปทจะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหาร Thai-UNCAP โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประธาน

ในวันที่ 11 กันยายนศกนี้ เวลา 8.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ณ ตึกสันติไมตรี จะมีการแถลงข่าวโดยผู้บริหารสูงสุดของยูเอ็นดีพี ซึ่งจะกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเดินทางมายังประเทศไทย ต่อจากนั้น จะเข้าพบอธิบดีกรมวิเทศสหการ นายพิเชต สุนทรพิพิธ เพื่อหารือและทบทวนกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและยูเอ็นดีพีของปี ค.ศ. 1977-2001

ส่วนกำหนดการอื่น ๆ ท่านผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร ดร.พิจิตต รัตตกุล จะให้เกียรตินำนายสเปทและหัวหน้าผู้แทนขององค์กรสหประชาชาติเข้าร่วมประชุมกับสำนักงานเขตและชุมชนยานนาวา รวมทั้งเยี่ยมชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรึกษาร่วมกันในเรื่องเร่งด่วนด้านการพัฒนาชุมชนและเตรียมโครงการตามแผนความร่วมมือของไทย-สหประชาชาติ (Thai-UNCAP)

ปัจจุบันนายสเปท ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของยูเอ็นดีพี เป็นวาระที่สอง

ยูเอ็นดีพี เป็นองค์การพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดที่ให้ความช่วยเหลือทางวิชากการแก่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีสำนักงานมากกว่า 130 ประเทศ ให้การสนับสนุนด้านการเงินโดยมียอดเงินประมาณสองพันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี งานที่เป็นเป้าหมายหลักของยูเอ็นดีพี ได้แก่ การขจัดความยากจน การพัฒนาประชารัฐ การพัฒนาสตรี และการเสริมสร้างสิ่งแวดล้อม

นายสเปทได้เป็นผู้ก่อตั้งสถาบัน World Resources Institute ในปี ค.ศ. 1982 และดำรงตำแหน่งเป็นประธานต่อมา เมื่อปี 1993 จึงเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของยูเอ็นดีพี ในระหว่าปี 1997-1981 นายสเปทเป็นสมาชิกท่านแรกและสองปีต่อมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานของ Council on Environmental Quality ในสังกัดของประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ มีหน้าที่กำกับดูและประสานงานเกี่ยวกับโครงการสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นเขายังเคยเป็นอาจารย์ภาคกฎหมายที่มหาวิทยาลัยจอรจ์ทาวน์ (George Town University) ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี

นายสเปทสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเยล (Yale University) และเคยเป็น Rohdes Scholar ของมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด (Oxford University) ในระหว่างปี 1969-1970 ทำงานในตำแหน่งจ่าศาลให้กับ US Supreme Court Justice Hugo.L Black และต่อมาได้ตำแหน่งเป็นทนายอาวุโสให้กับ Natural Resources Defense Council องค์กรสิ่งแวดล้อมที่เขาได้มีส่วนร่วมก่อตั้งขึ้น--จบ--