สิงคโปร์--13 ส.ค.--ซีเอ็นดับบลิว/เอเชียเน็ท
นายอาร์. เอ็ดเวิร์ด ฟลัด ประธาน และนายโรเบิร์ต เอ็ม ฟรีดแลนด์ ประธาน คณะกรรมการของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ และหุ้นส่วนที่ลงทุนร่วมกับทางบริษัท ได้ทำสัญญาในการจัดหาทุน, การก่อสร้าง และการจำหน่ายทองแดง สำหรับเฟสแรกในโครงการการทำเหมืองแร่และการผลิตที่นิคม ทองแดงโมนีวาในภาคกลางตอนเหนือของประเทศพม่า
ทั้งนี้ ได้มีการทำสัญญานี้กับกลุ่มบริษัทเทรดดิ้งเฮ้าส์ของญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วย บริษัทมารูเบนี คอร์ปอเรชั่น, บริษัทนิชโช อิวาอิ คอร์ปอเรชั่น และบริษัทชิโยดะ คอร์ปอ เรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมโยธาชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่น
กลุ่มบริษัทเทรดดิ้งเฮ้าส์ของญี่ปุ่นที่นำโดยบริษัทมารูเบนีนี้ จะให้เงินกู้แก่โครง การนี้ 90 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อใช้เป็นทุนในการก่อสร้างเฟสแรกของเหมือง ทั้งนี้ บาง ส่วนของเงินกู้นี้จะนำไปใช้ในการชำระเงิน 78 ล้านดอลล่าร์สหรัฐตามสัญญาการก่อสร้าง, การจัดหา, และงานด้านวิศวกรรม ซึ่งเป็นสัญญาที่ทางบริษัทได้ทำไว้กับกลุ่มบริษัทที่ประกอบ ด้วยบริษัทชิโยดะและบริษัทมารูเบนี ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทดังกล่าวซึ่งเข้ารับผิดชอบด้านการก่อ สร้างและการดำเนินการในเหมืองนั้น จะให้การรับประกันถึงกำหนดการเสร็จสิ้นโครงการ และรับประกันการดำเนินงาน ทั้งในเรื่องวันเริ่มต้นเปิดดำเนินการ, กำลังการผลิตของ โรงงาน และคุณภาพของทองแดงขั้วบวกที่ผลิตออกมาจากนิคมแห่งนี้ด้วย
บริษัทมารูเบนียังได้ทำสัญญาขายระยะยาวซึ่งครอบคลุมถึงทองแดงขั้วบวกที่จะ ผลิตออกมาในช่วง 7 ปีแรกของการดำเนินงานด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ ซึ่งได้ลงทุนในการให้เงินสนับสนุนด้านหลัก ทรัพย์ในโครงการนี้ไปแล้ว 28 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเหมือง โมนีวาร่วมกับบริษัทมายนิ่ง เอ็นเตอร์ไพรส์ นัมเบอร์วัน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่ร่วมลงทุน 50 % ในโครงการนี้ ทั้งนี้ คณะกรรมการของทางบริษัทและกระทรวงการลงทุนกับกระทรวงการ คลังของพม่าได้ให้ความเห็นชอบแล้วในการทำสัญญาด้านการให้เงินสนับสนุน, การก่อสร้าง และการตลาดในครั้งนี้
นายฟลัดกล่าวว่า "โอกาสในการเป็นผู้สนับสนุนด้านเงินทุนให้กับโครงการ โมนีวานั้น เป็นที่น่าดึงดูดมากในสายตาของบริษัทเทรดดิ้งเฮ้าส์รายใหญ่ของโลกบางราย ซึ่งบริษัทเหล่านี้ต่างก็ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้ และทางบริษัทเรา รู้สึกประทับใจมากกับความกระตือรือร้นของผู้ที่สนใจในโครงการนี้ ซึ่งทางบริษัทเราคาดว่า จะได้รับความสนใจในวงกว้างยิ่งขึ้นเมื่อทางเราได้ประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อขอรับข้อ เสนอให้ทุนขยายโครงการนี้ในเฟสที่ 2"
นายฟรีดแลนด์กล่าวว่า ข้อตกลงกับบริษัทเทรดดิ้งของญี่ปุ่นนั้น ถือเป็นความ ก้าวหน้าครั้งสำคัญของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ โดยนายฟรีดแลนด์ได้ระบุว่า "สัญญา เฟส 1 ซึ่งจะทำให้เหมืองโมนีวาเริ่มดำเนินการผลิตได้นั้น จะช่วยทำให้บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์พัฒนาขึ้นจากการเป็นแค่ผู้สำรวจและผู้ร่วมลงทุน มาเป็นบริษัทผู้ผลิตในระหว่าง ประเทศในขณะที่มีเหมืองขนาดใหญ่ระดับโลก และเหมืองนี้ยังตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางการอุป โภคสำคัญของทวีปเอเชียด้วย"
ขณะนี้การก่อสร้างได้เริ่มดำเนินการแล้วที่โรงงาน heap-leach, solvent extraction-electrowinning ในเฟส 1 ที่โมนีวา โดยนิคมเหมืองแร่แห่งนี้มีกำหนด จะเริ่มผลิตทองแดงขั้วบวกได้ภายในช่วง 9 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ เฟส 1 ของโครงการ นี้กำหนดว่า เหมืองแห่งนี้จะเริ่มดำเนินการผลิตเพื่อการพาณิชย์ได้อย่างเต็มกำลังที่อัตรา การผลิต 25,000 ตันต่อปีได้ภายในช่วงสิ้นปีหน้า
บริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ได้เริ่มดำเนินการเจรจาขั้นต้นเพื่อจัดหาทุนและ ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการขยายเหมืองโมนีวาในเฟสที่ 2 แล้ว ซึ่งในขั้นตอนนี้ได้รวมเอา การพัฒนาแหล่งสินแร่เล็ทปาดวงที่อยู่ติดกันด้วย โดยเป็นที่คาดกันว่า เหมืองเล็ทปาดวงนี้จะ ผลิตทองแดงขั้วบวกได้อีก 63,500 ตันต่อปี และจะทำให้โครงการโมนีวาเฟส 1 และเฟส 2 มีอัตราการผลิตรวมกันเท่ากับ 88,500 ตัน (195 ล้านปอนด์) ต่อปี ทั้งนี้ ผลการศึกษา ความเป็นไปได้ทางการเงินของโครงการเฟส 2 ที่จัดทำโดยบริษัทมินพรอค เอ็นจิเนียร์ส จากเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้ประเมินว่า ต้นทุนการดำเนินงานจะตกอยู่ที่ระดับ ราว 43 เซนต์สหรัฐต่อ 1 ปอนด์ ซึ่งเท่ากับว่า จะต้องใช้ทุนขั้นต้น, ทุนในการพัฒนาและ ดำเนินงาน รวมทั้งเงินทุนหมุนเวียนรวมกันราว 300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
สินทรัพย์อื่นของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์นั้นได้รวมถึงโครงการเกี่ยวกับ แหล่งทองและทองแดงรวมทั้งแหล่งแร่อื่นๆในอินโดนีเซีย, คาซัคสถาน, เกาหลีใต้, เวียด นาม และฟิจิด้วย ทั้งนี้ หุ้นของบริษัทอินโดไชน่า โกลด์ฟิลด์ นั้นมีการซื้อขายที่ในตลาดหลัก ทรัพย์โตรอนโต้และตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียภายใต้สัญลักษณ์ ING--จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-จพ/สจ-
MineHarmony มุ่งสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี 5G และ AI เร่งการปลดปล่อยสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมเหมืองแร่
กระทรวงอุตสาหกรรมมอบรางวัลเหมืองแร่สีเขียวแก่โรงงานยิปรอค ในงาน Green Mining Award 2018
กระทรวงทรัพย์ฯ และกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งผลักดันให้ธุรกิจเหมืองแร่ของประเทศไทยก้าวสู่การปฏิบัติที่ยึดหลักธรรมาภิบาล
“ทุ่งคา” คิดนอกกรอบ ปั้นธุรกิจ ปันสุขสู่สังคม