อย.เตือนอย่าหลงเชื่อยาคุมกำเนิดทำให้หน้าอกโต ผิวพรรณดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพ--12 ม.ค.--กระทรวงสาธารณสุข อย.เตือนผู้บริโภค อย่าหลงเชื่อสรรพคุณยาเม็ดคุมกำเนิด ที่อ้างช่วยทำให้หน้าอกโตผิวพรรณสวยงาม เพราะถือเป็นการโอ้อวดสรรพคุณที่เกินจริง อีกทั้ง ยังไม่มีเอกสารหลักฐานทางวิชาการที่พิสูจน์ชัดได้ ย้ำถ้าไม่ถูกวิธี อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ น.พ.บรรพต ตันธีรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีประชาชนผู้บริโภคบางกลุ่ม เข้าใจผิดคิดว่า การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นประจำจะช่วยให้หน้าอกโต ไม่มีสิว และผิวพรรณสวยงามได้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อเป็นยาบำรุง หรือเพื่อเร่งฮอร์โมนเพศหญิง เป็นการใช้ยาในทางที่ผิด เนื่องจากยาเม็ดคุมกำเนิด มีสรรพคุณในการป้องกันการตั้งครรภ์ ซึ่งช่วยในการวางแผนครอบครัว นอกจากนี้การใช้ยาคุมกำเนิด ยังมีข้อจำกัดห้ามใช้กับผู้ที่เป็นโรคตับเสื่อม, มะเร็งเต้านม, มะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์, ผู้ที่มีเลือกออกผิดปกติทางช่องคลอด, สตรีกำลังตั้งครรภ์, โรคเกี่ยวกับสมอง, โรคหัวใจ, โรคโลหิตจางที่มีการขาดกรดโฟลิก, โรคไต และโรคลมชัก ผู้ที่จะเริ่มใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดครั้งแรกควรให้บุคลกรทางสาธารณสุขเป็นผู้แนะนำการใช้ยา เพราะยาเม็ดคุมกำเนิดมีหลายชนิด แต่ละชนิดอาจะเหมาะสมกับบุคคลที่มีสภาพร่างกายต่างกัน และเมื่อใช้ยาคุมกำเนิดแล้ว ต้องระวังใช้ให้ถูกวิธี การใช้ยาคุมกำเนิดผิดวิธี ผิดขนาด จะไม่ได้ผลในการคุมกำเนิด ส่วนการใช้ยาคุมกำเนิดเกินกว่าขนาดที่กำหนดให้ใช้จะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้ รองเลขาธิการฯ กล่าวย้ำว่า อยากจะเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อสรรพคุณที่อวดอ้างเกินจริงควรใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ประโยชน์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ และหลีกเลี่ยงการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เพราะอาจทำให้ได้รับยาเกินขนาด เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ก่อนการใช้ยา และปฎิบัติตามคำแนะนำวิธีใช้อย่างเคร่งครัด--จบ--

ข่าวกระทรวงสาธารณสุข+กระทรวงสาธารณวันนี้

"ใครกรนต้องรู้! มจธ. พัฒนา 'หมอนรองคออัจฉริยะ' สั่นเตือนก่อนคุณหยุดหายใจ"

"การกรน" เป็นสัญญาณของภัยเงียบที่ร้ายแรงกว่าที่หลายคนคิด เพราะคือเสียงเตือนของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea OSA) ที่กำลังเป็นปัญหาด้านสุขภาพของคนทั่วโลก โดยเฉพาะเพศชาย อายุ 30 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือผู้ที่มีโครงสร้างทางเดินหายใจแคบ ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลเฉพาะด้านการนอนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงของ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง และอุบัติเหตุจากการหลับใน ในประเทศไทยเอง งานวิจัยของ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ประชากรไทยมากถึง 10-30%

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธ... สบส. เผยผลสำรวจพฤติกรรมการถูกกลั่นแกล้ง พบเด็กไทยเสี่ยงทำร้ายตัวเองมากกว่า 1 ใน 4 — กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมเครือข่ายเฝ้าระวัง...

กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหก... ส.อ.ท. ผนึกภาครัฐ-เอกชน-นักวิจัย จัด BIOTEC FTI Forum ดันเทคโนโลยีชีวภาพสร้างอนาคตเศรษฐกิจไทย — กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ...

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข "ชัยชน... สธ. เปิดตัว "Smart Healthcare TTM" ยกระดับการให้บริการแพทย์แผนไทย ด้วยเทคโนโลยี AI — รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข "ชัยชนะ เดชเดโช" เปิดตัว "Smart He...