มะนิลา--3 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท
ในการประชุมระดับโลกครั้งที่ 2 ว่าด้วยโรคติดต่อในเด็ก (WCPIDS) ซึ่งจัดขึ้นโดยมีบริษัทเมิร์ค แอนด์ โค.,อิงค์. (MSD) เป็นสปอนเซอร์นั้น ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมการประชุมได้กล่าวว่าผลการวิจัยใหม่ได้บ่งชี้ว่าจำเป็นต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันโรคร้ายจำนวน 6 โรคที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยผ่านทางการสร้างภูมิคุ้มกัน
ในผลการศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน M-M-R(R)II ของ MSD ในการป้องกันโรคหัด, คางทูม และหัดเยอรมันเป็นเวลา 25 ปีนั้น นายเดวิด นาลิน ผู้อำนวยการแผนกวิทยาศาสตร์วัคซีนของบริษัทเมิร์ค แอนด์ โค.,อิงค์. รายงานว่าในประเทศที่มีการใช้วัคซีน MSD อย่างแพร่หลาย จะปรากฏว่าโรคหัด, คางทูม และหัดเยอรมันได้ลดลงเกือบ 100 % โดยมีการแจกจ่ายวัคซีนดังกล่าวไปกว่า 214 ล้านชุดในช่วง 25 ปี
นายเดวิด เจ. เวสท์ ที่ปรึกษาของสถาบันพัฒนาและประเมินผลวัคซีนในรัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐรายงานถึงผลประโยชน์ที่ได้จากการนำวัคซีน COMVAX(TM) ของ MSD มารวมเข้าใช้ในแผนขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยวัคซีนนี้มีส่วนประกอบ 2 ส่วนซึ่งสามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฮีโมฟิลัสประเภทบี (Hib) กับโรคตับอักเสบบีได้ ทั้งนี้ ในพื้นที่ที่วัคซีน Hib ไม่เป็นที่แพร่หลาย โรค Hib ได้เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ Hib ยังอาจทำให้สูญเสียการได้ยิน, สติปัญญาถดถอย, ปอดบวม และติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกายด้วย ส่วนการติดเชื้อตับอักเสบบีนั้นอาจส่งผลให้เกิดอาการดีซ่าน, ตับแข็ง และมะเร็งตับ ทั้งนี้ WHO สนับสนุนให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กโดยให้วัคซีนตับอักเสบบีเป็นประจำ และสนับสนุนให้ประเทศต่างๆพิจารณาเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กด้วยวัคซีน Hib อย่างสม่ำเสมอตามกำลังความสามารถของแต่ละประเทศด้วย
CONVAX(TM) สามารถสร้างภูมิคุ้มกันทั้งโรค Hib และตับอักเสบบีได้โดยการฉีดเพียงน้อยครั้ง โดยการฉีดวัคซีนนี้จะกระทำเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น เทียบกับการฉีด 6-7 ครั้งหากฉีดแยกกัน นอกจากนี้ ในการทดลองยังพบว่าวัคซีน CONVAX(TM) มีประสิทธิภาพดีเมื่อถูกรวมอยู่ในตารางการฉีดซึ่งมีทั้งวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอทางปาก, วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอทางการฉีด, วัคซีนโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน, วัคซีนโรคอีสุกอีใส และวัคซีนโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนด้วย
ดร.เจย์ ลีเบอร์แมน หัวหน้าแผนกโรคติดต่อในเด็กของโรงพยาบาลมิลเลอร์ชิลเดรนส์ ในรัฐแคลิฟอร์เนียได้อภิปรายเกี่ยวกับผลการวิจัยเรื่องการควบคุมโรคตับอักเสบเอ โดยโรคตับอักเสบเอนี้ก่อให้เกิดอาการดีซ่าน, ไข้, ตับอักเสบ และอาการผิดปกติในลำไส้ ซึ่งวัคซีนป้องกันโรคนี้มีแพร่หลายมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และการสร้างภูมิคุ้มกันโรคอย่างไม่สม่ำเสมอจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการเกิดโรคนี้ภายในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ทั้งนี้ ดร.ลีเบอร์แมนกล่าวเสริมว่าอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าประเทศที่มีโรคนี้แพร่ระบาดจะพิจารณาใช้มาตรการเดียวกับที่เพิ่งมีการนำมาใช้ในสหรัฐเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวคือการให้วัคซีนตับอักเสบเอเป็นประจำแก่เด็กอายุสูงกว่า 2 ขวบในรัฐที่มีอัตราการเกิดโรคนี้สูง
วัคซีนใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างการวิจัยในขณะนี้คือวัคซีนป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบซี (meningococcal C) และโรคปอดบวมในเด็ก (pediatric pneumococcal) โดยดร.ลีเบอร์แมนกล่าวว่า ความสำเร็จของโครงการฉีดวัคซีน Hib ในการนำมาใช้ทั่วโลกก่อให้เกิดความหวังว่าโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียทั่วไปจะกลายเป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนในอนาคต
บริษัทเมิร์ค แอนด์ โค.,อิงค์. นั้นเป็นที่รู้จักในชื่อ MSD นอกสหรัฐ และเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ระดับโลกที่เน้นด้านการทำวิจัยโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อหาทางป้องกันรักษาสุขภาพผ่านทางการค้นพบ, การพัฒนา และการจัดจำหน่ายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง
ติดต่อ: เจนนิเฟอร์ ดาร์แกน, MSD Public Affairs - US, โทรศัพท์ 215-652-0059 หรือโทรสาร 215-652-8959--จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-จพ/กก--