กระทรวงสาธารณสุขไทยพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ให้ประเทศยากจน

15 May 2002

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--สธ.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาธารณสุข กล่าวสุนทรพจน์ในเวทีการสาธารณสุขทั่วโลก พร้อมเป็นประเทศถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ราคาถูกให้ประเทศยากจนโดยไม่คิดมูลค่า ขณะนี้มีหลายประเทศติดต่อมาแล้ว

นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวสุนทรพจน์แสดงผลงานพัฒนาระบบการสาธารณสุขของประเทศไทย ในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลกสมัยที่ 55 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีผู้นำการสาธารณสุขระดับรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงจาก 191 ประเทศ ร่วมประชุมประมาณ 1,000 คน โดยประเด็นที่ไทยประสบผลสำเร็จมี 2 เรื่อง คือ การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ราคาถูก ประสิทธิภาพสูง ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอดส์ สำหรับการผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ของไทยนั้น ครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะประกาศเกียรติยศความสำเร็จให้ทั่วโลกได้รับทราบโดยทั่วกันว่า ประเทศไทยมีจุดยืนคือ การผลิตยาได้ในราคาถูก เป็นการผลิตเพื่อมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอดส์ของไทยได้เข้าถึงยา มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น การผลิตและจำหน่ายดำเนินการภายใต้หลักการไม่ละเมิดสิทธิบัตรยาใด และประเทศไทยยินดีที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ รวมทั้งยาจีพีโอ-เวียร์ ซึ่งเป็นยาสูตรรวมยาต้านไวรัสเอดส์ 3 ชนิด อยู่ในเม็ดเดียวกัน ให้ประเทศยากจนที่ต้องการผลิตยาโดยไม่คิดมูลค่าให้ประชาชนฟรีอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอดส์ได้เข้าถึงยามากขึ้น

ทางด้านนายแพทย์ธงชัย ทวิชาชาติ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ได้ 13 รายการ เฉพาะยาจีพีโอ-เวียร์อย่างเดียว ผลิตไปแล้ว 1 ล้านเม็ด คาดอีก 2 เดือน จะผลิตได้มากถึง 3 ล้านเม็ด ส่วนยาต้านไวรัสเอดส์ตัวอื่นตั้งเป้าหมายผลิตให้ได้ปีละ 5 ล้านเม็ด เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ ซึ่งต่อปีจะมีผู้ป่วยเอดส์ราวร้อยละ 20 ที่ต้องการยาจีพีโอ-เวียร์ ดังนั้น ต่อปีจะต้องผลิตให้ได้ถึง 14 ล้านเม็ด--จบ--

-สส-