เอส จี ไอเปิดยุคใหม่แห่งกราฟิกส์: VISUAL AREA NETWORKING

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--เพนเนอร์-แมดิสัน ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ เอส จี ไอเปิดโลกการติดต่อข้อมูลวิช่วลไลเซชั่นจากทั่วโลกโดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชนิดใดก็ได้ ผ่านระบบเครือข่ายที่มีอยู่ เอส จี ไอ ประกาศวิสัยทัศน์ และโปรดักส์ใหม่ล่าสุด 4 ตัวที่สร้างสรรค์บนแนวคิดใหม่ในระบบวิช่วลไลเซชั่นแบบล้ำยุคที่เรียกว่า Visual Area Networking ซึ่งช่วยให้สามารถนำเอาข้อมูลแบบวิช่วลไลเซชั่นมาใช้ได้จากทุกหนทุกแห่งทั่วโลก โดยใช้อุปกรณ์คอมพิวติ้งใดๆ ก็ตามที่มีอยู่บนระบบเครือข่ายมาตรฐาน โดยโปรดักส์ใหม่นี้จะประกอบไปด้วยซอฟต์แวร์กราฟิกส์ขั้นพื้นฐาน ฮาร์ดแวร์ทางด้านกราฟิกส์และระบบเดสก์ทอปที่จะรวมกันสร้างให้วิสัยทัศน์นั้นเป็นความจริง ซอฟต์แวร์ใหม่มีชื่อว่า OpenGL Vizserver? 2.0 จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อกับเครื่องซุป-เปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับงานวิช่วลไลเซชั่นจากที่ใดๆ ก็ได้ทั่วโลกของโลกให้สามารถเรียกดูข้อมูลเสมือนจริง รวมทั้งใช้งานข้อมูลดังกล่าวได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน บ๊อบ บิชอป ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงฝ่ายปฏิบัติการจากเอส จี ไอ กล่าวว่า “เอส จี ไอจะนำเสนอการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของโลกคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ในทุกๆ 3 ปีโดยประมาณ เราเริ่มต้นจากการแนะนำเทอร์มินัลกราฟิกส์ 3D ที่ใช้เอนจิ้นแบบเรขาคณิตเป็นเครื่องแรกในปี 2525 ในวาระโอกาสแห่งการฉลองครบรอบ 20 ปีของ SGI เวลานั้นได้มาถึงอีกครั้ง แนวคิด Visual Area Networking มีส่วนสำคัญยิ่งในการกระจายโอกาสการเข้าถึงข้อมูลเสมือนจริงบนซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีเพียงผู้ใช้ที่ทำงานด้วยระบบวิช่วลไลเซชั่นขนาดใหญ่เท่านั้นที่จะสามารถเรียกใช้งานข้อมูลทำนองนี้ได้” การแก้ปัญหาที่ท้าทายมากที่สุดทางวิทยาศาสตร์ในระบบคอมพิวเตอร์ และในทางอุต-สาหกรรมนั้นจำต้องอาศัยมันสมองชั้นหัวกะทิ และทรัพยากรคอมพิวเตอร์ชั้นเลิศ ทุกวันนี้ ผู้คนต่างเดินทางหรืออยู่ในที่ห่างไกลจากทรัพยากรระบบคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นทุกวัน บรรดานักวิทยาศาสตร์และวิศวกรต่างล็อกเข้าสู่คอมพิวเตอร์ส่วนกลางเพื่อดึงข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายที่ทรงประสิทธิภาพ ทว่าบางครั้งข้อมูลที่ต้องการใช้งานก็มีขนาดใหญ่มาก เป็นจำนวนหลายๆ เทราไบต์ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ในการจัดเก็บ เรียกใช้ ประมวลผล และสร้างภาพเสมือนจริงจากข้อมูลเหล่านี้ ผู้ใช้จำต้องมีระบบคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังในสถานที่ห่างไกลซึ่งตนพำนักอยู่ แนวคิด Visual Area Networking หมายถึงข้อมูลจะถูกเก็บและประมวลผลในที่แห่งหนึ่ง แต่ผู้ใช้สามารถเรียกใช้งานได้ผ่านทางระบบเครือข่ายที่มีอยู่ โดยอาศัยอุปกรณ์ไคลเอนต์ต่างๆ ตั้งแต่แทปเล็ต และแล็ปทอป ไปจนถึงเครื่อง SGI? Reality Center? ขนาดใหญ่ โดยแนวคิดนี้ขจัดความจำเป็นที่ต้องมีข้อมูลหรือระบบวิช่วลไลเซชั่นสำหรับผู้ใช้ปลายทาง หรือระบบเครือข่ายที่มีแบนด์วิทซ์สูงๆ คอยต่อเชื่อมระหว่างจุดใช้งานซึ่งอยู่ห่างไกลกับศูนย์กลางที่เก็บข้อมูล แนวคิด Visual Area Networking หมายถึงข้อมูลจะถูกเก็บและประมวลผลในที่แห่งหนึ่ง แต่ผู้ใช้สามารถเรียกใช้งานได้ผ่านทางระบบเครือข่ายที่มีอยู่ โดยอาศัยอุปกรณ์ไคลเอนต์ต่างๆ ตั้งแต่แทปเล็ต และแล็ปทอป ไปจนถึงเครื่อง SGI? Reality Center? ขนาดใหญ่ โดยแนวคิดนี้ขจัดความจำเป็นที่ต้องมีข้อมูลหรือระบบวิช่วลไลเซชั่นสำหรับผู้ใช้ปลายทาง หรือระบบเครือข่ายที่มีแบนด์วิทซ์สูงๆ คอยต่อเชื่อมระหว่างจุดใช้งานซึ่งอยู่ห่างไกลกับศูนย์กลางที่เก็บข้อมูล บ๊อบ บิชอปกล่าวว่า “ด้วยแนวคิดนี้ เราได้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ากลุ่มงานสร้างสรรค์และงานเทคนิคในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งต่างก็มีกระบวนการทำงานที่กระจายกันอยู่ทั่วโลก แต่ไม่ต้องการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ขึ้นอีกตามจุดที่คนของตนทำงานอยู่ และในบางครั้งอาจมีความจำเป็นต้องติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อรวบรวมข้อมูลเข้าด้วยกันในพริบตาเดียวพูดง่ายๆ ว่า ประสิทธิภาพของเครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่องานวิช่วลไลเซชั่นของเอส จี ไอนั้น ได้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการทำงานของผู้ใช้งานอย่าง ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดในสนามรบ หรือนักธรณีวิทยาผู้วิเคราะห์ชั้นดินชั้นหินในอ่าวเม็ก-ซิโก” ทำงานวิช่วลไลเซชั่นได้ทุกหนแห่ง: การเปลี่ยนแปลงปรัชญาแห่งนวัตกรรมงานกราฟิกส์ แนวคิด Visual Area Networking แสดงการเปลี่ยนแปลงจากการมุ่งเน้นเพียงประสิทธิภาพและความก้าวหน้าของการสร้างภาพจำลอง (render) ให้มีการพิจารณาเพิ่มเติมในเรื่องของสถานที่ และความพร้อมของเซ็ตข้อมูลเสมือนจริงบนระบบเครือ-ข่าย ซึ่งเรียกว่า visual serving อันเป็นแนวคิดที่บุกเบิกขึ้นโดยเอส จี ไอ Visual Area Networking จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลสำเร็จรูปได้โดยทันที โดยการส่งภาพมาเป็นแบบ pixels แทนที่เป็นแบบ raw data ซึ่งจะต้องนำมาทำให้เป็นภาพเสมือนจริงที่ปลายทางอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลเพราะด้วยวิธีการนี้จะทำให้ไม่เกิดข้อมูลที่ซ้ำซ้อนขึ้นในระบบเครือข่าย Visual Area Networking สามารถทำงานกับแอพพลิเคชั่นที่อิงกับ OpenGL? API ทั้งนี้รวมถึงซอฟต์แวร์แพคเกจจากผู้ขายต่างๆ และซอฟต์แวร์เฉพาะของลูกค้า โดยไม่ต้องทำการดัดแปลงแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับโครงสร้างระบบเครือข่ายทั้งที่มีอยู่แล้ว และที่จะติดตั้งเพิ่มเติมได้ แนวคิดนี้ไม่ยึดติดกับอุปกรณ์ไคลเอนต์ ทำให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น แทปเล็ต หรือแล็ปทอปได้ ไปจนถึงเครื่อง SGI Reality Centre ขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ต่างๆ สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ร่วมกันได้ เดบรา โกล์ดฟาร์บ รองประธานกลุ่มงานระบบเอ็นเตอร์ไพร้ซ์ จาก ไอ ดี ซี กล่าวว่า “แนวคิดเรื่อง Visual Area Networking นี้จะเป็นตัวขับแอพพลิเคชั่นและงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานค้นคว้าวิจัยร่วมในด้านต่างๆ เช่น วิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ หรือแม้แต่รูปแบบทางการเงิน” โกล์ดฟาร์บยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เราเชื่อว่าแนวคิดนี้จะขยายโอกาสทางการตลาดทั้งแนวตั้งและแนวนอนของเอส จี ไอ เนื่องจากประสิทธิภาพโดยรวม และข้อได้เปรียบเรื่องราคาต่อประสิทธิภาพ” Visual Area Networking ถูกผลักดันโดยเทคโนโลยีหลักสองประเภทที่ทางเอส จี ไอพัฒนาขึ้น ได้แก่ ระบบวิช่วลไลเซชั่น SGI Onyx 3000 และ OpenGL Vizserver 2.0 - ระบบวิช่วลไลเซชั่น SGI Onyx 3000 พร้อมด้วยเทคโนโลยีแบบโมดูล่าร์ SGI? NUMAflex? เป็นตัวสร้างภาพกราฟิกส์สามมิติที่ซับซ้อน รูปภาพสองมิติที่มีความละเอียด และวิดิโอความละอียดสูงสำหรับแสดงภาพวิช่วลไลเซชั่นที่เร็วและเสมือนจริงมากที่สุดในโลก ระบบโมดูล่าร์ SGI NUMAflex ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างระบบที่เหมาะสมต่อความต้องการแบบค่อยเป็นค่อยไปทีละโมดูลได้ - OpenGL Vizserver 2.0 เป็นซอฟท์แวร์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ SGI Onyx 3000 เพียงเครื่องเดียว สามารถส่งผ่านเซสชั่น ของวิช่วลไลเซชั่นไปยังไคลเอนต์ประเภทต่างๆ ได้ การจำลองภาพ การคำนวณ และความสามารถด้าน I/O ของระบบ SGI Onyx 3000 ก็จะสามารถทำงานได้บนอุปกรณ์ไคลเอนต์ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแลปทอป พีซี เวิร์คสเตชั่น แทปเล็ตแบบไร้สาย และในอนาคตอันใกล้ก็เป็นเครื่อง PDA การประสานงานล้ำยุคบนระบบเครือข่ายเสมือนจริง การทำงานของฝ่ายต่างๆ ภายในองค์กรมักจะไม่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ต่างฝ่ายต่างก็ทำงานกับข้อมูลของตนเอง แล้วจึงจะส่งข้อมูลต่อไปแผนกอื่นภายในองค์กร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของส่วนหนึ่งส่วนใดของโปรดักส์ก็สามารถส่งผลอย่างยิ่งต่องานในส่วนอื่นขององค์กร เช่น การออกแบบส่วนประกอบต่างๆ ของทีมนักออกแบบรถยนต์ ตัวอย่างเช่น ถ้าวิศวกรคนหนึ่งนั่งทำงานอยู่ที่เครื่องพีซีของตนในดีทรอย์ท ได้ทำการเปลี่ยนแปลงตัวถังรถยนต์ นักออกแบบเครื่องยนต์ในเยอรมันก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้นได้บนเครื่อง SGI? และสามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงนั้นว่ามีผลอย่างไรต่อระบบเชื้อเพลิง ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยในโตเกียวก็สามารถระบุความไม่สอดคล้องกันที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างข้อกำหนดน้ำหนักยานพาหนะและแบบตัวถังใหม่ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญในโตเกียวสามารถแจ้งความขัดแย้งดังกล่าวผ่านเครื่องแลปทอปของตน ขณะเดินตรวจในโรงงานผลิตได้ในทันที การนำระบบ Visual Area Networking ไปใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ พลังงาน—คนงานที่บ่อขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนียสามารถใช้เครื่อง PDA ของตนเองเรียกเข้าเครื่อง SGI Onyx 3000 ที่ติดตั้งที่ในบริษัทที่ฮุสตันผ่านการเชื่อมโยงไร้สายได้ การแพทย์—ศัลยแพทย์สามารถใช้เดส์กทอปในห้องผ่าตัดเพื่อดูและจัดการสแกนภาพโดยใช้การจำลองภาพสามมิติบนเครื่อง Onyx 3000 ที่ติดตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลได้ วิทยาศาสตร์—นักดาราศาสตร์ในอริโซนาสามารถประมวลผล และเรียกดูข้อมูลเกี่ยวกับการค้นพบที่กำลังเก็บข้อมูลผ่านกล้องส่องทางไกลในเวลากลางคืนในประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่นั่งทำงานในตอนกลางวันร่วมกับนักดาราศาสตร์คนอื่นๆ ในทวีปอัฟริกาเหนือได้ ทางการทหาร—นายสิบของกองทัพบกสามารถใช้เครื่องแทปเล็ตพีซีไร้สายเพื่อดูรายละเอียดภาพถ่ายของศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ตรงภูเขาข้างหน้าได้โดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากกล้อง Unmanned Aerial Vehicle (UAV) และประมวลผลโดยระบบ Onyx ที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์บัญชาการ ดร. เอง ลิม โกห์ ประธานบริหารฝ่ายเทคโนโลยี จากเอส จี ไอกล่าวว่า “ดวงตาเป็นระบบป้อนข้อมูลสู่สมองที่มีแบนวิทซ์ที่สูงที่สุด” “หากเราสามารถประมวลผลข้อมูลดิบออกมาเป็นภาพวิช่วลกราฟิกส์ได้เร็วขึ้นเท่าใด เราก็จะได้มีภาพกราฟิกส์ที่พร้อมใช้งานได้ในทุกที่และบนอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ เราจะสามารถขยายพลังความเข้าใจและการรับรู้ผ่านระบบเครือข่ายทั่วโลกที่สามารถเข้าถึงได้โดยทันที” เกี่ยวกับเอส จี ไอ เอส จี ไอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ซิลิคอน กราฟฟิกส์ ในวาระฉลองครบรอบปีที่ 20 ก้าวขึ้นมาผู้นำด้านการทำงานคอมพิวติ้งระดับสูง การบริหารข้อมูลที่มีความซับซ้อน รวมทั้งโซลูชั่น การบริการและโปรดักส์เพื่องานวิช่วลไลเซชั่น ที่ช่วยลูกค้าในด้านงานสร้างสรรค์และงานเทคนิคให้สามารถสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจทั้งในเชิงกลยุทธ์และการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่องานออกแบบและผลิตรถหรือเครื่องบินเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น การค้นพบตัวยาหรือแหล่งน้ำมันใหม่ๆ และการพยากรณ์อากาศ งานสร้างสรรค์ความบันเทิงด้วยสเปเชียลเอฟเฟ็กส์ในภาพยนตร์น่าตื่นเต้น การสนับสนุนงานสำคัญสุดยอดของรัฐบาลหรือทางทหาร ระบบของเอส จี ไอ รวมทั้งความชำนาญงานได้เป็นตัวจักรสำคัญแก่โลกแห่งการวิวัฒนาการและการค้นคว้ามาอย่างต่อเนื่อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.sgi.com มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเมาเท่นวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานสาขากระจายอยู่ทั่วโลก Rungnapa Charnwiset Media Relations Supervisor Penner-Madison & Company Limited Tel: 02-711-6891-9 Ext. 110 Fax: 02-381-8791 Email: [email protected] จบ-- -อน-

• ข่าวคอมพิวเตอร์
• ข่าวเอส จี ไอ
• ข่าวเครือข่าย
• ข่าวโปรดักส์
• ข่าวกรุงเทพฯ