กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--กระทรวงแรงงานฯ
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เผยผลการดำเนินงานของสำนักงานบริหารแรงงานไทยในสิงคโปร์ ในรอบ 6 เดือนมีผลงานมากมายทั้งด้านการช่วยเหลือแรงงาน การพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้แรงงานไทยและการรักษาตลาดเก่าเจาะตลาดใหม่ให้แรงงานไทย
นายอิระวัชร์ จันทรประเสริฐ ปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เปิดเผยว่า จากการรายงานของสำนักงานแรงงานไทยในสิงคโปร์(สนร.) ในรอบ6 เดือน(ต.ค. 44 มี.ค. 45)ที่ผ่านมาว่า ประเทศสิงคโปร์ได้มีนโยบายลดคนงานต่างชาติภาคก่อสร้าง(ไร้ฝีมือ)ลง 50% ภายใน 10 ปี เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นผลให้อัตราการว่างงานสูงขึ้นถึง 4.7% ในเดือนธันวาคม 2544 ซึ่งนับว่าสูงสุดในรอบ 15 ปีของสิงคโปร์ ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวทาง สนร. จึงจำเป็นต้องดำเนินกลยุทธ์เจาะตลาดใหม่ทดแทนตลาดเดิมและดำเนินการทุกรูปแบบเพื่อรักษาตลาดเดิมไว้ ซึ่งปรากฎว่าในช่วงเวลาดังกล่าวตลาดแรงงานอู่ซ่อมเรือ/ต่อเรือ กลับมีความต้องการแรงงานมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสดีที่สามารถเจาะตลาด Marine Industry เพื่อทดแทนตลาดเดิม ส่วนตลาดแรงงานภาค ก่อสร้างที่แรงงานไทยต้องแข่งขันกับแรงงานชาติอื่นๆโดยเฉพาะแรงงานราคาถูกจากบังคลาเทศ,อินเดีย ตั้งแต่ ต้นปี 2545 ปรากฎว่าสิงคโปร์ระมัดระวังเรื่องการก่อการร้าย แรงงานจากบังคลาเทศจึงถูกเข้มงวดและเป็นโอกาสดีของ แรงงานไทยในช่วงเวลาดังกล่าว และในรอบ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2545 แรงงานไทยเดินทางไปทำงานเป็นอันดับ 2 รองจากไต้หวันคือ 1,790 ตำแหน่ง โดยแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานได้รับการชื่นชมว่าเป็นแรงงานที่ดี มีความรับผิดชอบและมีค่าจ้างสูงกว่าชาติอื่น ส่วนจุดอ่อนของแรงงานไทยคือเรื่องการดื่มสุราจนไม่สามารถควบคุม ตนเองและทำงานได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพแรงงานไทย ทาง สนร.ไทยในสิงคโปร์ได้ร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายพันธมิตร/อาสาสมัครจากภาคเอกชน,นักศึกษาไทยในสิงคโปร์ จัดการศึกษาให้แรงงานไทยได้เรียนในระดับประถม มัธยมต้น-ปลาย ในหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน ซึ่งมีผู้เข้าเรียนจำนวน 170 ราย และยังได้เปิดหลักสูตรปริญญา มสธ. ให้แรงงานไทยด้วยโดยมีผู้ลงทะเบียนเรียนจำนวน 13 ราย พร้อมกับได้ร่วมกับโค้ชและทีมชาติไทยในสิงคโปร์จัดฟุตบอลหลีกให้แรงงานไทยได้ร่วมแข่งขันและร่วมเชียร์ และจัดกิจกรรมบันเทิง รณรงค์ต้านยาบ้า-สุรา-ไฮโล-อาชญากรรม จัดหมอลำซิ่งและคณะตลกไปแสดง จัดงานสงกรานต์เพื่อแรงงานไทยในสิงคโปร์ขึ้นในวันที่ 14 เม.ย.45 โดยมีแรงงานไทยร่วมงานกว่า 10,000 คน นอกจากนี้ทางสำนักงานแรงงานไทยในสิงคโปร์ยังได้ประสานกับสถาบันการเงินให้คำปรึกษา ในเรื่อง การเก็บออม การบริหารหนี้สิน และการโอนเงินกลับประเทศในอัตราพิเศษด้วย โดยในรอบ 6 เดือนแรก แรงงานไทยที่ทำงานในสิงคโปร์กว่า 50,000 คน สามารถส่งเงินกลับประเทศประมาณ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ยังได้ ติดตามสิทธิประโยชน์ให้แก่แรงงานไทยด้วยเช่นติดตามเงินค่าจ้างที่ค้างจ่าย 281 รายเป็นเงิน 4,596,277 บาท ติดตามค่าทดแทนกรณีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บ 61 รายเป็นเงิน 12,693,216 บาท ติดตามเงินค่าทดแทนกรณีเสียชีวิต 7 ราย เป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท ติดตามเงินภาษีให้แรงงานไทย 307 รายเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท และสามารถช่วยเหลือ แรงงานไทยที่ถูกหลอกในสิงคโปร์ให้ได้กลับประเทศไทย 6 ราย นายอิระวัชร์ กล่าว--จบ--
-สส-