กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
"แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส" ย้ำภาพผู้นำด้านบริหารโครงการ เปิดตัวโปรแกรมคอมพิวเตอร์สุดไฮเทค เพิ่มศักยภาพการให้บริการลูกค้าตั้งเป้าสิ้นปี 45 กวาดยอด 15 โครงการใหม่
"แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส" เทงบกว่า 3 ล้าน สร้างปรากฏการณ์ใหม่แก่วงการธุรกิจบริหารโครงการของไทย เปิดตัวโปรแกรม "ระบบบริหารโครงการอัจฉริยะ" ตอกย้ำผู้นำในธุรกิจดังกล่าว หวังเป้าปลายปี 15 โครงการหรือเพิ่มขึ้น 40% กวาดรายได้กว่า 80 ล้านบาท
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส จำกัด หรือ SPPL หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านการบริหารโครงการชั้นแนวหน้าของไทย เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการให้บริการด้านบริหารโครงการมากว่า 5 ปี ส่งผลให้ แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ทราบถึงความซับซ้อนของปัญหา ตลอดจนความล่าช้าในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า บริษัทฯ จึงริเริ่มพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถเข้ามาช่วยจัดการกับการให้บริการด้านบริหารโครงการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีคุณภาพสูงมากยิ่งขึ้น โดยในวันนี้บริษัทฯ ก็สามารถคิดค้นโปรแกรมดังกล่าวเป็นผลสำเร็จภายใต้ชื่อ "ระบบบริหารโครงการอัจฉริยะ" ซึ่งใช้งบประมาณไปกว่า 3 ล้านบาท โดยปลายปี 2545 นี้ บริษัทฯ จะเริ่มนำโปรแกรมดังกล่าวมาทดลองใช้กับโครงการที่บริษัทฯบริหารงานอยู่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจบริหารโครงการกว่า 80 ล้านบาท และตั้งเป้าบริหารเพิ่ม 15 โครงการ โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 40%
"SPPL เชื่อว่าการสร้าง "ระบบบริหารโครงการอัจฉริยะ" ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านบริหารโครงการของเราให้มีศักยภาพสูงมากยิ่งขึ้น หากมองภาพรวมของธุรกิจบริหารโครงการในปัจจุบัน ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครที่จะกล้าเทงบกว่า 3 ล้านบาทในการสร้างระบบเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างแน่นอน เพราะมันหมายถึงการต้องใช้งบของบริษัทจำนวนมาก แต่สำหรับเรานั้นแตกต่าง เพราะเราเชื่อมั่นว่าระบบดังกล่าวจะสามารถตอบสนองให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด และสิ่งนี้จะใช้เป็นกลยุทธ์สำคัญนอกเหนือจากบุคลากรที่มีคุณภาพที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่กลุ่มเป้าหมาย" นายยงยุทธกล่าว
ทั้งนี้ "ระบบบริหารโครงการอัจฉริยะ" เป็นระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่พัฒนาขึ้นสำหรับงานบริหารอาคารโดยเฉพาะ เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านของการจัดการเกี่ยวกับงานด้านบริหารโครงการ ด้านบัญชีลูกค้า ด้านงบประมาณโครงการ รวมไปถึงการใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารและจัดการภายในอาคารให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยระบบจะบันทึกข้อมูลโครงการ ห้องชุด เก็บไว้เป็นฐานข้อมูล รวมถึง ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการภายในโครงการ รายรับ-รายจ่ายของระบบบัญชีลูกค้าและโครงการต่างๆ นอกจากนี้ ระบบยังช่วยในการจัดการและบริหารงบประมาณส่วนกลางของโครงการฯ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการและการติดต่อสื่อสารระหว่างโครงการต่างๆ ทั้งหมดจำนวน 48 โครงการกับสำนักงานใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ฉับไว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีปัญหาภายในโครงการต่างๆเกิดขึ้น หรือ โครงการนั้นอยู่ใน พื้นที่ที่ห่างไกลจากสำนักงานใหญ่ ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างล่าช้า ระบบนี้ก็จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันการณ์มากขึ้น
ส่วนด้านประสิทธิภาพในด้านการบริการแก่ลูกค้านั้น ลูกค้าสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งสามารถรับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆภายในอาคารผ่าน website ของ SPPL ( www.sansiripropertyplus.com) ได้ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถแสดงความคิดเห็น-ติชม ในการบริหารและจัดการอาคารผ่าน website เพื่อให้โครงการและสำนักงานใหญ่นำมาพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข เพื่อสร้างความพอใจในงานบริการให้กับลูกค้าอย่างสูงสุด
"การนำโปรแกรมดังกล่าวมาใช้ จะช่วยให้บริษัทฯ บริหารเวลาการทำงานให้ดีขึ้น โดยเราตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดโครงการให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่าตลาดยังสามารถขยายตัวได้กว่าเท่าตัว ซึ่งจากผลการสำรวจของฝ่ายพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ เกี่ยวกับตลาดของธุรกิจรับบริหารโครงการ ระดับบน เกรด A และ B ทั้งคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน และอพาร์ตเมนต์ พบว่า ปัจจุบันในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ มีโครงการทั้ง 3 ประเภท รวมอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 1,094 โครงการ ในจำนวนนั้น มีการว่าจ้างบริษัทบริหารโครงการเพียง 260 โครงการ โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 170 โครงการ อาคารสำนักงาน 45 โครงการ และอพาร์ตเมนต์ 45 โครงการหรือรวมแล้วคิดเป็นร้อยละ 24 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 76 จะเป็นโครงการที่เจ้าของสินทรัพย์ทำการบริหารเอง ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 230 โครงการ อาคารสำนักงาน 272 โครงการ และอพาร์ตเมนต์ 301 โครงการ หากพิจารณาดูแล้ว จะพบว่า โอกาสในการทำตลาดด้านบริหารโครงการยังฉายแววสดใส และยิ่งบริษัทฯ มีการพัฒนาทั้งคุณภาพบุคลากร โดยจัดการฝึกอบรมทักษะในด้านการให้บริการอันเป็นเลิศในทุกทักษะอย่างต่อเนื่อง และคิดค้นระบบช่วยจัดการให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เราเชื่อว่าในปลายปี 45 เราน่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มเป้าหมายและไว้วางใจใช้บริการกับเราได้ไม่ต่ำกว่า 15 โครงการอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมาเพียงครึ่งปีแรก เราก็สามารถได้โครงการใหม่ๆ เข้ามาบริหาร 10 โครงการแล้ว ดังนั้นเมื่อถึงปลายปี เราอาจจะสร้างยอดได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ก็เป็นได้" นายยงยุทธกล่าวสรุป
ในปัจจุบัน "แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส มีโครงการที่รับบริหารอยู่ทั้งสิ้น 48 โครงการ มีพื้นที่บริหารรวม 2,839,036 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นอาคารสำนักงาน 7 โครงการ อพาร์ตเมนต์ 4 โครงการ คอนโดมิเนียม 24 โครงการ โครงการหมู่บ้าน 6 โครงการ รีสอร์ท 1 โครงการ งานบำรุงรักษางานระบบ 5 โครงการ และการบริหารและดูแลรักษาสินทรัพย์ 1 โครงการ
"ระบบบริหารโครงการอัจฉริยะ" (Intelligence Property Management System)
เป็นระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่พัฒนาขึ้นสำหรับงานบริหารอาคารโดยเฉพาะ เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านของการจัดการเกี่ยวกับงานด้านบริหารโครงการ, ด้านบัญชีลูกค้า, ด้านงบประมาณโครงการ รวมไปถึงการใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารและจัดการภายในอาคาร เป็นต้น
ประสิทธิภาพในด้านการทำงาน
- ช่วยในการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพและมีระบบมากยิ่งขึ้น
- ระบบจะบันทึกข้อมูลโครงการ, ห้องชุด เก็บไว้เป็นฐานข้อมูล รวมถึง ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการภายในโครงการ , รายรับ-รายจ่ายของระบบบัญชีลูกค้า และโครงการต่างๆ
- ระบบจะช่วยในการจัดการและบริหารเกี่ยวกับงบประมาณส่วนกลางของโครงการฯ เพื่อเป็นประโยชน์ในการนำมาใช้และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- ระบบจะช่วยให้ประสิทธิภาพในการดำเนินการและการติดต่อสื่อสารระหว่างโครงการต่างๆ ทั้งหมดจำนวน 48 โครงการกับสำนักงานใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ฉับไว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่โครงการนั้นอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากสำนักงานใหญ่ ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างล่าช้า หรือหากกรณีเกิดปัญหาขึ้นภายในโครงการต่างๆ ระบบนี้ก็จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันการณ์มากขึ้น
ประสิทธิภาพในด้านการบริการลูกค้า
- ลูกค้าสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายผ่าน website ของ sppl ( www.sansiripropertyplus.com)
- ลูกค้าสามารถรับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆภายในอาคารผ่าน web ได้
- ลูกค้าสามารถแสดงความคิดเห็น-ติชม ในการบริหารและจัดการอาคารผ่าน web เพื่อให้โครงการและสำนักงานใหญ่นำมาพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข เพื่อสร้างความพอใจในงานบริการให้กับลูกค้า
งบการลงทุน ประมาณ 3 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โทรศัพท์ 01-890-3568 หรือ 0-2951-9431--จบ--
-อน-