คาโอเผยผลวิจัยผู้หญิงไทยนิยมใช้โฟมล้างหน้ามากขึ้น ส่งผลให้ตลาดทำความสะอาดผิวหน้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--ฮาคูโฮโด (กรุงเทพฯ) บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคภายใต้เครื่องหมายตราพระจันทร์ ได้เผยแพร่รายงานวิจัยผู้บริโภคในหนังสือ "Consumer Insight Report ฉบับที่ 3 เจาะลึกพฤติกรรมผู้หญิงกับการล้างหน้า" ผลของการวิจัยพบว่า ภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและบำรุงผิวหน้าที่มีมูลค่ากว่า 4,311 ล้านบาท ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าประเภทผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (โฟมล้างหน้าและสบู่) ที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่า ผู้หญิงไทยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าประเภทโฟมล้างหน้ามากกว่าสบู่ในการทำความสะอาดผิวหน้าเพิ่มมากขึ้นจาก 41% ในปี พ.ศ.2541 เป็น 51% ในปี 2544 โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในชนบทที่พบว่ามีอัตราการใช้โฟมล้างหน้ามากขึ้นกว่าปี พ.ศ. 2543 ถึง 6% อัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์ล้างหน้าประเภทโฟมล้างหน้า จึงเป็นตัวสะท้อนถึงพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของผู้หญิงไทยที่เริ่มเปลี่ยนแปลง และยังส่งผลให้ภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (โฟมล้างหน้าและสบู่) ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นถึง 94% หรือมีมูลค่าทางการตลาดประมาณ 1,700 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าทางการตลาดที่สูงที่สุดในตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มูลค่ารวมกว่า 1,800 ล้านบาท ผลการวิจัยยังได้เจาะลึกถึงเหตุผลที่ผู้หญิงไทยหันมาใช้โฟมล้างหน้ามากขึ้น พบว่า ผู้หญิงโดยส่วนใหญ่รู้สึกว่าการใช้โฟมล้างหน้านั้นสามารถกำจัดสิ่งสกปรก และบำรุงผิวหน้าได้ดีกว่า อีกทั้งยังสะดวกสบายในการพกพา โดยการตัดสินใจซื้อโฟมล้างหน้านอกจากจะคำนึงถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้หญิงไทยให้ความสำคัญมากขึ้นก็คือ ทำให้หน้าไม่แห้งตึง อ่อนโยนและไม่ระคายเคืองต่อผิว สำหรับสถานที่เลือกซื้อโฟมล้างหน้าพบว่า ผู้บริโภคมีความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเลือกซื้อโฟมล้างหน้าในซุปเปอร์มาเก็ตและมินิมาร์ที่กระจายตัวอยู่ในแหล่งชุมชนต่างๆ ขณะที่ผู้บริโภคที่คำนึงเรื่องความประหยัด ก็มีทางเลือกในการซื้อสินค้าตามร้านดิสเคาน์สโตร์ที่มีการขยายตัวมากขึ้นในปัจจุบันได้อีกด้วย การศึกษาวิจัยผู้บริโภคเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและบำรุงผิวหน้าดังกล่าว เป็นการรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้หญิงไทยอาศัยในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อายุระหว่าง 14-45 ปี จำนวน 1,500 คน เกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและบำรุงผิวหน้า โดยมุ่งเน้นในส่วนของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ประเภทโฟมล้างหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พรรณราย ทวีโชคกิจเจริญ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ฮาคู โฮ โด (กรุงเทพฯ) จำกัด โทร. 661-6790-8 ต่อ 708--จบ-- -ตม-

• ข่าวผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า
• ข่าวบริษัท คาโอ อินดัสเตรียล
• ข่าวคาโอ คอมเมอร์เชียล
• ข่าวคาโอ อินดัสเตรียล
• ข่าวโฟมล้างหน้า