ติตัสวิลล์, เอ็น.เจ., 10 ธ.ค.-- พีอาร์นิวส์ไวร์/เอเชียเน็ท
ผู้ที่มีอาการไบโพล่า ดิสออร์เดอร์ (bipolar disorder) หรือเป็นที่รู้จักกันในอาการคลุ้มคลั่งและซึมเศร้า หลังจากได้รับการรักษาโดยยา ริสเพอร์ดัล (Risperdal) หรือยา ริสเพอริโดน (Risperidone) พบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นจากอาการคุ้มคลั่ง ตามที่ได้มีการเสนอผลการวิจัยครั้งแรกไปแล้วในการประชุมจิตเวชศาสตร์ ของสหรัฐอเมริกา ว่าอาการไบโพล่า ดิสออร์เดอร์ เป็นโรคร้ายแรงทางจิตที่มีผลต่อประชากรอเมริกาประมาณ 3.4% อาการดังกล่าวจะทำให้ผู้ป่วยมีการผันแปรของอารมณ์ จากความรู้สึกหดหู่ ไปสู่ภาวะอารมณ์รุนแรง เช่นอารมณ์โกรธจัด อาการหมกมุ่นครุ่นคิด ไม่มีสมาธิ และความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับพละกำลังความสามารถของตน
นายแพทย์โรเบิร์ต เฮิร์ชฟิลด์ (Robert Hirschfield, MD) ศาสตราจารย์ และคณะกรรมการแผนกจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัย ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ เท็กซัส เมดิคัล แบรนช์ (University of Texas Medical Branch) ในเมืองแกลเวสตัน สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "ในช่วงระยะเวลา 3 วันของการเริ่มนำยา ริสเพอริโดน มารักษาอาการป่วยของคนไข้ พบว่าคนไข้แสดงให้เห็นว่าสามารถควบคุมอาการของโรคได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ผลที่เกิดขึ้นตามมาจากอาการคลุ้มคลั่ง เช่นภาวะซึมเศร้า และมีผลต่อสัมพันธภาพในครอบครัว การหย่าร้าง และพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย"
จากการศึกษาในระยะที่ 3 ได้ทดลองให้ผู้ป่วยอาการไบโพล่า 1 (bipolar 1) ที่ระบุตามอาการของผู้ป่วยโดยสถานพยาบาล 259 ราย แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับยา ริสเพอร์ดัล จำนวน 1-6 มิลลิกรัม ทุกวัน คิดเป็นค่าเฉลี่ยปริมาณในการให้ต่อครั้ง 4.1 มิลลิกรัม และผู้ป่วยที่ได้รับยาที่ไม่มีฤทธิ์ (placebo) เป็นเวลา 3 สัปดาห์ และศึกษาอาการของผู้ป่วย ในขั้นแรกของการวิจัยประเมินผ่านระบบ วายเอ็มอาร์เอส (YMRS; Young Mania Rating Scale) ซึ่งเป็นระบบการวัดอาการทางจิตที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยประสิทธิภาพการรัษาในขั้นต้นนั้นแสดงออกมาเป็นค่าเฉลี่ยตัวเลขการเปลี่ยนแปลงค่าวายเอ็มอาร์เอส ภายในวันสิ้นสุดการทดลอง
ผู้ป่วยที่ได้รับยา ริสเพอดัล สามารถพัฒนาตัวเลขในระบบวายเอ็มอาร์เอส ได้ดีกว่าผู้ป่วยที่ได้รับตัวยาที่ไม่มีฤทธิ์ โดยตัวยา ริสเพอร์ดัล ทำให้ค่าวายเอ็มอาร์เอสลดลงได้ 11.1 จุด ในขณะที่ตัวยาที่ไม่มีฤทธิ์ที่ทำให้ตัวเลขลดลงเพียง 5 จุด ซึ่งประสิทธิภาพการรักษาอาการด้วยยา ริสเพอร์ดัล นั้นปรากฏในวันที่ 3 ของการทดลอง ซึ่งตรวจสอบอาการของผู้ป่วยด้วยโดยอุปกรณ์ โกลบอล อิมเพรสชั่น ซีเวอร์ริตี้ (Global Impression-Severity) ของ เดอะ คลินิเชียน (The Clinicians) แพทย์ผู้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวได้รายงานว่า ผู้ป่วยที่ได้รับยา ริสเพอร์ดัล มีอาการดีขึ้นถึง 2 เท่าของคนไข้ในการทดลองที่ได้รับยาไร้ฤทธิ์
นับว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาริสเพอร์ดัลนั้นช่วยในการศึกษาได้มากกว่า และได้มีการรายงานถึงผลข้างเคียงจากการใช้ยาดังกล่าวด้วย คือ อาการง่วงซึม วิงเวียน คลื่นไส้ ระคายท้อง น้ำหนักขึ้น และหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ ในขณะที่กลุ่มคนไข้ที่ได้รับยาไร้ฤทธิ์มีเพียงอาการปวดศีรษะเท่านั้น
สถาบันวิจัยและพัฒนาเวชภัณ์ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson and Johnson) หรือ เจแอนด์เจพีอาร์ดี (J&JPRD) เป็นผู้ควบคุมการศึกษาเรื่องดังกล่าว และจัดจำหน่ายในหลายประเทศโดยบริษัท แจนส์เซ่น ซิแลก (Janssen-Cilag) โดยที่ยา ริสเพอร์ดัล นี้ได้รับการยอมรับจากกว่า 80 ประเทศ สำหรับใช้รักษาโรคจิตชนิด ไชโซพีเนียร์ (schizophrenia) และ ชนิดอื่นๆ ในปัจจุบันนี้มี 13 ประเทศที่นำตัวยาไปรักษาอาการทางจิตชนิดไบโพล่า ดิสออร์เดอร์ เพื่อปรับอารมณ์ของผู้ป่วยให้คงที่ ซึ่งผลการศึกษาเป็นข้อพิสูจน์ว่ายา ริสเพอร์ดัล ใช้บำบัดโรคได้ดีโดยการใช้ยาดังกล่าวเพียงชนิดเดียวรักษาโรค
ปัจจุบันนี้ยา ริสเพอร์ดัล นับว่าเป็นยาที่ใช้รักษาอาการป่วยทางจิตในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งมีทั้งยาชนิดเม็ดที่มีข้อดีหลากหลาย และในหลายประเทศก็มียาฉีดที่เรียกว่า ริสเพอร์ดัล คอนสตา (Risperdal Consta) ด้วยเช่นกัน
*องค์กรไม่อนุญาตในการเผยแพร่ชื่อ หรือชื่อเมือง
**ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส สเปน สวิสเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐเชก ฮังการี รัสเซีย ตุรกี เกาหลี เม็กซิโก ฟิลิปปินส์
แจนเซ่น ซิแลก (Janssen-Cilag) เป็นบริษัทในเครือของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหลายชนิด ระดับโลก และเป็นกลุ่มบริษัทที่มีประวัติการพัฒนา และการตลาด ด้านการรักษาอาการผิดปกติทางจิต การรักษาอาการเจ็บปวด การรักษาเชื้อรา และอาการป่วยของระบบทางเดินอาหาร ผลิตภัณฑ์ชั้นนำของบริษัท เช่น เอเพร็กซ์ (Eprex) หรือตัวยาเอโพติน อัลฟา (epoetin alfa) ยาริสเพอร์ดัล ซึ่งมีตัวยาริสเพอริโดน ยาสโปราน็อกซ์ (Sporanox) ที่มีตัวยาไอทราโคนาโซล (itraconazole) ดูโรเกซิก (Durogesic) หรือตัวยาทรานสเดอร์มัล เฟนทานิล (transdermal fentanyl) โทพาแม็กซ์ (Topamax) ที่มีตัวยา โทพิราเมต (topiramate) พารีเอ็ต (Pariet) หรือตัวยา ราเบพราโซล โซเดียม (rabeprazole zodium) และ เรมินนิล (Reminyl) หรือยากาลันตามีน (galantamine) สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : www.psychiatry24x7.com หรือ www.janssen-cilag.com
ที่มา แจนเซ่น ซิแลก
ติดต่อ บริจิตต์ ไบล์ (Brigitte Byl) บริษัทแจนเซ่น ซิแลก
โทรฯ +32-1460-5910 สำหรับยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา หรือ
อี-เมล์ [email protected]
เว็บไซต์ http://www.psychiatry24x7.com
http://www.janssen-cilag.com
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท (www.asianetnews.net)--
-วจ/รค-