ผลการสำรวจโรคอีดีในชายไทยครั้งล่าสุดพบเป็นโรค 3.5 ล้านคน ภาคกลางครองแชมป์ 48%

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส ผลการศึกษาล่าสุด พบชายไทยเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศสูงถึง 3.5 ล้านคน ภาคกลางครองแชมป์สูงสุด 48% คนผอมมากจะเป็นมากกว่าคนอ้วนขณะที่ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ - เบาหวานมีโอกาสเป็นในระดับรุนแรงถึงสูงสุด ผู้ชายกล้าเปิดใจปรึกษาภรรยา หรือคู่นอนมากขึ้น 40% ผลการศึกษาระบาดวิทยาของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (โรคอีดี) ของชายไทยครั้งล่าสุด ในปี พ.ศ. 2546 ซึ่งดำเนินการโดยสมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ (ประเทศไทย) ได้รับการสนับสนุนจาก 5 บริษัทเวชภัณฑ์ผู้ผลิตและจำหน่ายยารักษาโรคอีดีในประเทศไทย ประกอบด้วย ไฟเซอร์, แกล็กโซสมิธไคล์น, อีไล ลิลลี่, แอ๊บบอต และ ทาเคดา โดยทำการสำรวจในชายไทยที่มีอายุระหว่าง 40 - 70 ปี จำนวน 2,269 ราย ใน 13 จังหวัดครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน พิษณุโลก ชลบุรี ลพบุรี จันทบุรี นครราชสีมา นครพนม อำนาจเจริญ สงขลา นราธิวาส กระบี่ และกรุงเทพมหานคร พบว่า ผลที่เป็นคำตอบด้านอัตราความชุกชุมของโรคอีดีอยู่ที่ 42% หรือประมาณการณ์ว่ามีชายไทยป่วยเป็นอีดี 3.5 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าผลการศึกษาครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 อยู่ที่ 37.5% หรือประมาณ 3 ล้านคน การสำรวจพบว่าอัตราความชุกของโรคอีดีภาคกลางสูงสุดอยู่ที่ 48% ภาคเหนือจะมีน้อยที่สุดอยู่ที่ 36% ซึ่งแตกต่างจากการศึกษาครั้งแรกที่พบสูงสุดในภาคเหนือคือ 45.6% ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และ กทม. อัตราความชุกของโรค จะอยู่ที่ 43 %, 41% และ 42% ตามลำดับ รศ.นพ. อภิชาติ กงกะนันทน์ นายกสมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การศึกษาครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ 5 บริษัทยาจำหน่ายยาอีดีได้ร่วมสนับสนุนให้มีการสำรวจ ซึ่งเป็นการศึกษาขนาดใหญ่ที่สุดของโรคอีดีในประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำผลที่ได้มาเปรียบเทียบกับผลการศึกษาครั้งแรกเมื่อปี 2542 เพื่อประโยชน์ทั้งในการศึกษาเชิงเปรียบเทียบกับต่างประเทศ และเป็นแนวทางในการสร้าง ยุทธศาสตร์ในการบำบัดรักษาโรคอีดีต่อไป "แม้จะพบว่าจำนวนผู้ป่วยอีดีในชายไทยเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว แต่การศึกษาครั้งนี้ก็พบข้อมูลที่น่ายินดีในแง่ของการรักษา โดยพบว่าจำนวนผู้ป่วยโรคอีดีทั่วประเทศที่มารักษากับแพทย์เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3% จากเดิมที่มีน้อยกว่า 1% ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมาก เพราะที่ผ่านมาอุปสรรคสูงสุดของการรักษาผู้ป่วยอีดีก็คือ ผู้ป่วยไม่ยอมรับและไม่กล้ามาพบแพทย์ นอกจากนี้ ยังพบว่า จำนวนผู้ที่เป็นอีดีแล้วไม่ยอมปรึกษาใครนั้นจะมีอัตราลดลงเป็น 32% จากผลการศึกษาเดิมอยู่ที่ 41% และพบว่าผู้ป่วยอีดีที่ต้องการคำปรึกษา ส่วนใหญ่จะปรึกษาภรรยาหรือคู่นอนมากที่สุด คือ 38-40% เพิ่มสูงขึ้นจากการศึกษาครั้งแรกที่มีเพียง 13% แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันครอบครัวไทยเปิดใจยอมรับและตื่นตัวที่จะรักษากันมากขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการรณรงค์เผยแพร่ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคอีดีตลอด 5 ปีที่ผ่านมาของศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชายและองค์กรแพทย์ ทำให้วงการสาธารณสุขและผู้เป็นโรคอีดีมีความตระหนักมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรร่วมรณรงค์ให้มากขึ้น เพราะโรคนี้ยังค่อนข้างใหม่สำหรับคนไทย โดยในการศึกษานี้พบว่ามีเพียง 49% เท่านั้นที่ตอบว่าโรคอีดีสามารถรักษาให้หายได้ ในขณะที่ 44% ตอบว่าไม่แน่ใจ และ 6-7% ระบุว่ารักษาไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้" รศ.นพ.อภิชาติ กล่าว รศ.ดร. เอนก หิรัญรักษ์ นักวิจัยอาวุโสและผู้อำนวยการโครงการ UNINET POLL หัวหน้าโครงการ วิจัยครั้งนี้ เปิดเผยว่า การศึกษาครั้งนี้พบว่า ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคอีดีจะสอดคล้องกับการศึกษาครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 เช่น ในเรื่องของอายุ พบว่าผู้ชายที่มีอายุมากขึ้นจะมีโอกาสโรคอีดีเพิ่มขึ้นด้วย อายุ 40 - 49 ปี พบ 23.39% อายุ 50 - 59 ปี พบ 47.79% และ 60 - 70 ปี พบสูงถึง 76.95% รวมทั้งผู้มีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ก็ยังถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการ เกิดโรคอีดีในระดับ 3 (ระยะรุนแรง) โดยโรคหัวใจพบสูงถึง 71.74% (ระดับ 3ที่ 32.61%) และโรค เบาหวาน 70.09% (ระดับ 3 ที่ 30.37%) ขณะเดียวกัน โรคเครียดก็มีบทบาทต่อโรคอีดีเช่นกัน โดยผู้เครียดมากจะมีโอกาสเป็นโรคอีดีสูงกว่าผู้ที่ไม่เครียดคือ 64.92% และ 38.51% ตามลำดับ ขณะที่คนผอมมากจะมีอัตราการเป็นโรคอีดีมากกว่าคนปกติหรือคนอ้วนโดยพบ 53.7% ส่วนคนปกติ ค่อนข้างอ้วน หรือ อ้วน จะมีอัตราการเป็นโรคอีดีใกล้เคียงกันคือ 42.18% , 41.20% และ 42.57% ตามลำดับ "นอกจากนี้ยังพบเป็นที่แน่ชัดว่า โรคอีดีมีผลต่อจำนวนความถี่ของการประกอบกิจกรรมเพศสัมพันธ์ ผู้ที่ไม่เป็นโรคอีดี อายุ 40-49 ปี ก็จะมีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 7 ครั้งต่อเดือน อายุ 50-59 ปี จะมีเฉลี่ย 5 ครั้งต่อเดือน และ 60-70 ปี เฉลี่ย 3 ครั้งต่อเดือน แต่จำนวนครั้งของการมีเพศสัมพันธ์นี้จะลดลงเรื่อยๆ เมื่ออาการของอีดีอยู่ในระดับที่สูงขึ้น" รศ.ดร. เอนก กล่าวสรุป การศึกษาทางระบาดวิทยาโรคอีดีในชายไทยในครั้งนี้ สมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ (ประเทศไทย) ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัทเวชภัณฑ์ผู้ผลิตและจำหน่ายยารักษาโรคอีดีในประเทศไทย 5 ราย คือ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยารักษาโรคอีดีชนิดรับประทานรายแรกของโลก, บริษัท แกล็กโซสมิธไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายยารักษาโรคอีดีชนิดรับประทาน, บริษัท อีไล ลิลลี่ เอเชีย อิงค์ (สาขาประเทศไทย) ผู้ผลิตยารักษาโรคอีดีชนิดรับประทาน, บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตยารักษาโรคอีดีชนิดอมใต้ลิ้น การศึกษาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในประเทศไทย โดยได้มีการศึกษาสำรวจในลักษณะเดียวกันนี้ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2542 โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ร่วมกับกลุ่มศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ และโรคต่อมไร้ท่อที่ให้คำปรึกษาและอบรมให้ความรู้เรื่องโรคอีดีแก่วงการแพทย์ (Erectile Dysfunction advisory Council and Training of Thailand : EDACTT) และบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : คุณบุษบา สุขบัติ คุณกุนธิรา ณัฐวัฒนานนท์ บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด โทร. 02-6518989 ต่อ 222 , 223 e-mail : [email protected]จบ-- -รก-

ข่าวโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ+พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอสวันนี้

ผลวิจัยใหม่พบยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศชนิดแรกปึ๋งปั๋ง ภายใน 14 นาที

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส การศึกษาวิจัยผู้ชายที่เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ พบว่า ผู้ป่วยกว่า 1 ใน 3 ที่รับประทานยารักษาโรคหย่อนฯ ต้นตำรับซึ่งจำหน่ายมานานกว่า 5 ปีขนาด 100 มก. อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวภายในเวลาเพียง 14 นาที หลังจากรับประทานยา และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งรายงานการวิจัยนี้ ได้ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์ระบบปัสสาวะในอเมริกา เมื่อเร็วๆ นี้ ศ. นพ. แฮริน แพดแมน-นาธาน ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ แห่งวิทยาลัยแพทยศาสตร์เค็ค มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า "ถ้าเวลาในการ

ภาพข่าว : การแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การนำผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับไนตริกออกไซด์มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนายาใหม่"

กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส ศาสตราจารย์เฟอริด มูราด ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ จากการค้นพบคุณสมบัติใหม่ของสารไนตริกออกไซด์ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนายารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทาง...

เจ้าของรางวัลโนเบลจากการค้นพบสารสำคัญซึ่งนำไปสู่การพัฒนายา "ไวอากร้า" แสดงปาฐกในไทย เตรียมพัฒนาสู่ยาปลูกถ่ายอวัยวะ

กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส ศาสตราจารย์เฟอริด มูราด ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ จากการค้นพบคุณสมบัติใหม่ของสารไนตริกออกไซด์ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนายารักษา...

ไฟเซอร์ฯ จัดแฟชั่นโชว์ชุดหรูคู่เพชรพราว ฉลอง 5 ปีแห่งความสำเร็จของ ยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส ไฟเซอร์ฯ ผู้ผลิตยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศชนิดรับประทานตัวแรกของโลก จัดงานกาลาดินเนอร์หรู ฉลองครบรอบ 5 ปีแห่งความสำเร็จในการบุกเบิกการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทาง...

ศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชาย เผยป้องกันโรคหย่อนฯ ก่อนถึงวัยทอง

กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส แพทย์เตือนอย่าอาย โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เกิดในคนจำนวนมากและรักษาได้ จากงานเสวนาสุขภาพเรื่อง "สุขภาพดี ชีวิตวัยทอง" ซึ่งจัดโดยศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชาย ร่วมกับ บริษัท ไฟเซอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ...

(ต่อ2) ข้อมูลประกอบของ "เปเล่" จับมือกับไฟเซอร์รณรงค์เรื่องโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศทั่วโลก

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส "เปเล่" ถ้าเอ่ยชื่อ เอ็ดซอน อารันเตส โด นาสซิเมนโต (Edson Arantes do Nascimento) คงจะไม่มีใครรู้จัก แต่ถ้าเอ่ยชื่อ "เปเล่" หรือไข่มุกดำ แทบทุกคนคงจะร้อง "อ๋อ" เพราะ...

(ต่อ1) ข้อมูลประกอบของ "เปเล่" จับมือกับไฟเซอร์รณรงค์เรื่องโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศทั่วโลก

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส สุขอนามัยและปัญหาต่างๆ ด้านสุขภาพ การมีอายุมากขึ้นและการมีอายุยืนยาว ผู้ชายโดยปกติมีอายุต่ำกว่าผู้หญิงเฉลี่ยประมาณ 7-8 ปี และในบางประเทศผู้หญิงมีอายุยืนยาวกว่า...

ข้อมูลประกอบของ "เปเล่" จับมือกับไฟเซอร์รณรงค์เรื่องโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศทั่วโลก

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส การเกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction or ED) ความหมาย ปัญหาการแข็งตัวขององคชาตอย่างเช่นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หมายถึงการที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัวหรือแข็งตัวได้...

"เปเล่" จับมือกับไฟเซอร์รณรงค์เรื่องโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศทั่วโลก

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส นักฟุตบอลชื่อดัง "เปเล่" ร่วมมือกับบริษัท ไฟเซอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รณรงค์โครงการทั่วโลกเพื่อช่วยขจัดความอายและความเข้าใจผิดๆ ของผู้ที่เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction...