รมว.คลังเผยมุมมองเศรษฐกิจไทยยังมั่นคง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมสัมมนามกับผู้บริหารระดับสูงในภาคธุรกิจและตลาดทุนรวมเกือบ 200 คน ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ Top Executives' Networking Forum 2004 และให้ความมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความมั่นคง เน้นต้องกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับอนาคต และขอให้ทุกฝ่ายเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้วยการให้ข้อมูลแก่สาธารณชน รวมทั้งผลักดันให้บริษัทใน SET50 ให้เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้เป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการ Top Executives' Networking Forum 2004 ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11 - 13 มิถุนายน 2547 ที่ จ.เพชรบุรี และกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "มุมมองสมคิด อนาคตเศรษฐกิจไทย" เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2547 โดยเห็นว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ขณะนี้ยังมั่นคง โดยมองว่าจะต้องมีการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ในขณะนี้ และต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้วยการให้ข้อมูลแก่สาธารณชน นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องเร่งสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว โดยเอกชนต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ได้เน้นให้บริษัทในSET50 เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง และให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนภาคเอกชนในการเสริมสร้างขีดความสามารถอย่างเต็มที่ นายสมคิดกล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขเศรษฐกิจทุกตัวอยู่ในสถานการณ์ที่ดีมาก ๆ ทั้งมหภาคและจุลภาค ทั้งในด้านการลงทุน การบริโภค และการคลังซึ่งมีความมั่นคง โดยรัฐบาลสามารถเก็บรายได้เกินเป้าถึง 1.2 แสนล้านบาท ด้านหนี้สาธารณชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศลดลงเหลือร้อยละ 44 จากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 50-60 ช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจ ด้านทุนสำรองก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 42 พันล้านเหรียญสหรัฐ "สำหรับเรื่องปัญหาราคาน้ำมัน ทุกฝ่ายต้องปรับตัวและช่วยกันควบคุมดุแล เช่น เร่งการส่งออก เพื่อให้สามารถชดเชยการนำเข้าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ปัญหาในขณะนี้ต่างกับสถานการณ์ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจครั้งก่อน จึงไม่ควรต้องวิตกหรือเสียความมั่นใจ ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ประมาท ทั้งนี้ ประเทศไทยจะต้องกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับอนาคต โดยจะต้องมีการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การปรับกระบวนการและวิธีการทำงานของระบบราชการ พร้อมทั้งจะต้องมีการเปลี่ยนบทบาทให้ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปลี่ยนบทบาทจากการปล่อยสินเชื่อมาเป็นการพัฒนาชนบท" นายสมคิดกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังได้กล่าวอีกว่า ในภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการภาคเอกชนนั้น จะต้องให้สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย รวมถึงสมาคมธนาคารไทย เป็นแกนนำในการกระตุ้นให้ภาคเอกชนมีความแข็งแรงและเร่ง re-engineer ตัวเอง เร่งสร้างงานวิจัยและพัฒนา ให้สมาชิกมีการร่วมกันตั้งกองทุนในการสร้างนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมในกลุ่มต่าง ๆ โดยรัฐบาลจะร่วมลงทุนด้วย และให้กรมสรรพากรช่วยในด้านการลดหย่อนภาษี นายสมคิดกล่าวเน้นว่า "ที่สำคัญคือการผลักดันให้บริษัทที่อยู่ในกลุ่ม SET50 ซึ่งเป็นพลังที่ไม่เคยถูกมาใช้นั้น เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการประหยัดน้ำมัน ตั้งเป้าให้ทุกบริษัทลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 10 การเป็นผู้นำในการให้ความสำคัญกับสังคม การเป็นผู้นำในการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เช่นการพัฒนาบุคลากร และการเป็นผู้นำในด้านการส่งเสริมบรรษัทภิบาล โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือโดยการลดหย่อนภาษี ทั้งนี้ ด้านการสร้างบรรษัทภิบาลนั้น จะต้องเน้นการให้ความสนใจจากตนเอง ไม่ใช่ต้องให้มีการบังคับ เน้นให้มีการบรรจุในนโยบายและเป้าหมายของบริษัทในปีหน้า โดยมีเป้าหมายให้สังคมได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่ให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังต้องมีการปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงแต่รายงานข้อมูลเท่านั้น ต้องมีการตั้งกองทุนที่ให้รางวัลแก่บริษัทที่ได้คะแนนบรรษัทภิบาลดีเด่น รวมทั้ง ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนต่างประเทศ ได้รับทราบ โดยเน้นให้นักลงทุนได้เข้ามาเห็นภาพที่แท้จริงของบรรษัทภิบาลใน SET50" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวด้วยว่า จะให้ตลาดหลักทรัพย์จัดโรดโชว์ Thailand Focus โดยให้เชิญบริษัทมาร่วมงาน และจะเชิญ fund managers จากต่างประเทศให้มาเห็นประเทศไทยด้วยตาของตนเอง และให้มีโอกาสได้พบนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ รวมทั้งให้มีตัวแทนของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ได้นำเสนอข้อมูล และพาไปชมการทำงานจริง เช่น ที่นิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น โดยเน้นให้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องการเปิดเผยข้อมูล และเลือกวันที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอข้อมูลดังกล่าว ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ-- -นท-

ข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้

คณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์มีมติแต่งตั้ง "ดร.มหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์" ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

คณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีมติแต่งตั้ง ดร.มหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป นายอัครุตม์ สนธยานนท์ ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารในการประชุมวันนี้ (18 ธันวาคม 2568) มีมติแต่งตั้ง ดร.มหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (กรรมการผู้จัดการลำดับที่ 15 ของ ธอส.) โดยความ

ไมโครซอฟท์ ตอกย้ำพันธสัญญาสำคัญในการพัฒนา... ไมโครซอฟท์ ย้ำพันธสัญญา นำพลังแห่ง AI และนวัตกรรมล้ำหน้า เร่งขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศไทย — ไมโครซอฟท์ ตอกย้ำพันธสัญญาสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคา... SME D Bank ร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกระทรวงการคลัง — นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ...