สสปน. เร่งขยายตลาดไมซ์ครึ่งปีหลัง หวังดันไทยเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและนิทรรศการในภูมิภาค

สสปน. (TCEB) เร่งขยายตลาดไมซ์ครึ่งปีหลัง หวังดันไทยเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและนิทรรศการในภูมิภาค รุกหนักตลาดการประชุมและการแสดงสินค้าระดับใหญ่ มั่นใจแข่ง สิงคโปร์ ฮ่องกงได้แน่ ผู้อำนวยการ สสปน. เผยผลจากการสร้างฐานข้อมูลบริษัท สมาคมข้ามชาติ มีลุ้นได้งานเพิ่ม พร้อมเร่งพัฒนา สสปน. (TCEB) สู่การให้บริการเบ็ดเสร็จสำหรับธุรกิจไมซ์ (One Stop Service for MICE) นายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. (TCEB) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ สสปน. (TCEB) ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาและส่งเสริมการทำตลาดไมซ์ (Meetings Incentives Convention and Exhibition : MICE) เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศจากกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับสูงนับตั้งแต่ต้นปี 2547 ที่ผ่านมาได้มุ่งเสริมสร้างภาพลักษณ์พร้อมกับขยายตลาดไมซ์ให้กว้างขวางมากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดประชุมและการจัดนิทรรศการในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพพร้อมโดยมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่กระจายอยู่ในกรุงเทพมหานคร และที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ในภูมิภาค เช่นที่ จ.เชียงใหม่ และภูเก็ต ส่วนศูนย์ประชุมในปัจจุบัน เช่น ศูนย์ประชุมนานาชาติอิมแพค เมืองทองธานี ก็มีแผนที่จะขยายพื้นที่เพิ่มเติม ขณะเดียวกันได้มีแรงสนับสนุนจากการที่ประเทศไทยลงนามสัญญาการค้าเสรีกับประเทศอื่นๆ และกำลังดำเนินการอีกหลายประเทศ ประกอบกับการที่รัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในหลายๆ ธุรกิจ เช่น ธุรกิจภาคการเกษตร อุตสาหกรรมยานยนต์ ธุรกิจ SME ธุรกิจอาหาร ธุรกิจแฟชั่น ธุรกิจซอฟต์แวร์ ฯลฯ ที่สำคัญได้จัดตั้ง สสปน. (TCEB) ขึ้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจของภูมิภาค (Regional Business Hub) สสปน. (TCEB) จึงได้ตั้งคำขวัญในการทำตลาดไมซ์ว่าประเทศไทยคือ “New Experience for Meetings” เพื่อให้ชาวต่างชาติเข้ามาสัมผัสสิ่งใหม่ๆ ในประเทศไทย นายพีระพงษ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง สสปน. (TCEB) จะมุ่งเจาะ กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลี เยอรมัน อินเดีย ฯลฯ เพื่อดึงตลาดไมซ์เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) การบินไทย สมาคมส่งเสริมการประชุม- นานาชาติ (ไทย) (TICA) สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) (TEA) ฯลฯ เข้าร่วมงานเทรดโชว์และโรดโชว์ในต่างประเทศเพื่อทำตลาดไมซ์อย่างต่อเนื่อง “นอกจากการมุ่งเน้นตลาดในส่วนของ Meetings และ Incentives แล้ว ในครึ่งปีหลังนี้ สสปน. (TCEB) จะให้ความสำคัญเรื่องการจัดประชุมระดับใหญ่ (Convention) และการจัดแสดงสินค้าขนาดใหญ่ (Exhibition) ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขันกับสิงค์โปร์ ฮ่องกง ได้แล้วหากแต่ต้องให้ความสำคัญในการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น” ขณะเดียวกันมุ่งดำเนินบทบาทของ สสปน. (TCEB) สู่การเป็น One Stop Service for MICE โดยเป็นศูนย์กลางการประสานงานแบบเบ็ดเสร็จทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น กรมศุลกากร การท่าอากาศยานฯ ททท. ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมไมซ์ ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งในส่วนของผู้ที่จะเข้ามาจัดประชุม จัดแสดงสินค้าในประเทศ รวมทั้งสนับสนุนองค์กรและสมาคมในประเทศ ที่จะเข้าไปแข่งขันประมูลงานในต่างประเทศหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนงบประมาณ หรือการช่วยจัดงานเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ ฯลฯ ผู้อำนวยการ สสปน. (TCEB) กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลบริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนในประเทศไทยซึ่งมีประมาณ 3,200 บริษัท พบว่ามีถึงประมาณ 1,300 บริษัท ที่จะมีการจัดประชุมและจัดการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในภูมิภาคเอเซียในช่วง 6-18 เดือนข้างหน้า ดังนั้น สสปน. (TCEB) จะวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะดึงบริษัทเหล่านี้เข้ามาจัดประชุมในประเทศไทย โดยจะเชิญผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจเลือกประเทศที่จะจัดประชุมของบริษัทที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย มาร่วมประชุมเพื่อสำรวจความต้องการ จากนั้นจะทำ FAM Trip (Familiarization Trip) เพื่อนำกลุ่มผู้บริหารดังกล่าวสำรวจพื้นที่เพื่อสัมผัสบรรยากาศจริง ไม่เพียงเท่านี้ในช่วงครึ่งปีหลัง สสปน. (TCEB) จะเพิ่มฐานข้อมูลในส่วนสมาคมข้ามชาติและสมาคมในประเทศ อาทิ แพทยสภา สมาคมเภสัชกร สมาคมจิวเวลรี ฯลฯ เพื่อเป็นฐานในการเจาะตลาดไมซ์ต่อไป นอกจากนี้ในการจัดทำไมซ์ซีดีเพื่อเผยแพร่ข้อมูลศักยภาพประเทศไทยนั้น จะเพิ่มภาษาต่างประเทศมากขึ้น เช่น ภาษาญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ เพื่อเป้าหมายในการขยายตลาดใหม่ๆ จัดทำหนังสือแนะนำเมืองไทย (Planner Guide) เพื่อเป็นคู่มือให้กับผู้ที่เข้ามาในประเทศไทย จัดทำฐานข้อมูลต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจไมซ์ โดยประสานความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งผลที่ทุกฝ่ายจะได้รับคือการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สสปน. (TCEB) ได้รุกทำการตลาดทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศได้รวมกับองค์กร สมาคมต่างๆ เข้าร่วมงานเทรดโชว์และโรดโชว์รวม 4 งาน ตัวอย่างเช่น งาน The World Wide Exhibition for Incentives Travel Meetings & Event (IMEX 2004) ที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ได้สนับสนุนงบประมาณให้กับสมาคม องค์กรต่างๆ ในการเข้าร่วมประมูลงานโดยสามารถดึงการจัดงานเข้ามาประเทศไทยได้สำเร็จทั้งในส่วนของ Meetings, Incentive, Conventions, Exhibition รวมจำนวน 27 งาน คาดว่าผู้เข้าร่วมประชุมจะใช้จ่ายในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 2,800 ล้านบาท รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ สุภาพร หวานเสนาะ โทรศัพท์ 0-2616-6749-50 โทรสาร 0-2615-4941--จบ-- --อินโฟเควสท์ (นท)--

• ข่าวสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
• ข่าวพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา
• ข่าวสมาคมข้ามชาติ
• ข่าวธุรกิจไมซ์
• ข่าวนิทรรศการ