ข้าวโพดราวด์อั้พ เร้ดดี้ 2 ของมอนซานโต้ได้รับการอนุมัติเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ให้นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารแล้ว

01 Nov 2004

กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์

คณะกรรมมาธิการสหภาพยุโรป ประกาศอนุมัติให้มีการนำข้าวโพดราวด์อั้พ เร้ดดี้ NK603 ของบริษัท มอนซานโต้ มาใช้เป็นผลิตภัณฑ์อาหาร หรือส่วนผสมของอาหารภายใต้ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารชนิดใหม่ของสหภาพยุโรปแล้ว ทั้งนี้ ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม NK603 ของบริษัทมอนซานโต้ มีคุณสมบัติในการต่อต้านสารกำจัดวัชพืช โดยมีจำหน่ายในตลาดในชื่อของข้าวโพดราวด์อั้พ เร้ดดี้ 2

นายคงทัศน์ จันทร์ฉาย ผู้จัดการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท มอนซานโต้ ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “มอนซานโต้ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปได้พิจารณาอนุมัติและรับรองความปลอดภัยของข้าวโพดราวด์อั้พ เร้ดดี้ 2 สำหรับใช้เป็นผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งผลต่อกระบวนการอนุมัติพืชดัดแปรพันธุกรรมชนิดอื่นๆ ของคณะกรรมาธิการ

สหภาพยุโรปให้มีการดำเนินการอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น” และเสริมว่า “การตัดสินใจดังกล่าว นอกจากจะสอดรับกับผลการศึกษาขององค์กรควบคุมดูแลระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั่วโลกแล้ว ยังตอกย้ำให้เห็นว่า มีการยอมรับถึงคุณประโยชน์และประสิทธิภาพของข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมดังกล่าวที่มีต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ จากการศึกษาของนักโภชนาการและนักวิจัยชั้นนำหลายท่านบ่งชี้ว่า ข้าวโพด NK603 มีความปลอดภัย ทั้งยังครบถ้วนด้วยสารอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการเทียบเท่ากับข้าวโพดพันธุ์ดั้งเดิม”

การตัดสินใจของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปที่อนุมัติให้ใช้ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม NK603 เพื่อการบริโภคสำหรับคนในครั้งนี้ ยังทำให้กระบวนการอนุมัติให้มีการนำเข้า แปรรูป และนำข้าวโพด ดัดแปรพันธุกรรมพันธุ์ดังกล่าวมาใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยคำอนุมัติดังกล่าวจะนำออกพิมพ์เผยแพร่ในวารสารของสหภาพยุโรปในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ การพิจารณาอนุมัติดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงการอนุญาตให้มีการเพาะปลูกข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมราวด์อั้พ เร้ดดี้ 2 ในสหภาพยุโรป ซึ่งจะแยกนำเสนอเพื่อพิจารณาอนุมัติต่างหาก

“การตัดสินใจของสหภาพยุโรปในครั้งนี้ ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้กับผู้ประกอบการไทยในการเปิดตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารเกษตรสำหรับคนและสำหรับเลี้ยงสัตว์สู่สหภาพยุโรป ซึ่งทำให้ ผู้ประกอบการไทยสามารถเลือกใช้วัตถุดิบที่ได้คุณภาพและราคาเหมาะสมในการผลิตสินค้าป้อนตลาดยุโรป และเป็นการบ่งชี้ว่าสหภาพยุโรปไม่ได้ปิดกั้นการนำเข้าสินค้าเกษตร ทั้งยังเปิดกว้างสนับสนุนพืชดัดแปรพันธุกรรมที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีชีวภาพมากขึ้น” นายคงทัศน์กล่าว และเสริมว่า ”ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของเอเชียที่มุ่งส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารเป็นหลัก ดังนั้น จึงมีความสำคัญสำหรับเกษตรกรไทยอย่างมากที่จะมีโอกาสเพาะปลูกข้าวโพดพันธุ์ใหม่ อาทิ ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม NK 603 และใช้สารเคมีควบคุมแมลงศัตรูพืชที่มีอันตรายลดลง รวมทั้งลดการใช้ปุ๋ยเคมีในการขยายการเพาะปลูก”

ข้าวโพดพันธุ์ราวด์อั้พ เร้ดดี้ เปิดตัวสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในปี 2541 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เกษตรกรยอมรับคุณประโยชน์ที่ได้จากข้าวโพดพันธุ์ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การควบคุมวัชพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถใช้ระบบเพาะปลูกแบบลดการไถพรวนที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างดี โดยจะช่วยลดการกัดเซาะของชั้นดิน เพิ่มคุณภาพน้ำ และช่วยรักษาสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการดำเนินชีวิตของสัตว์ป่า ตลอดจนทำให้มีผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น

คุณประโยชน์ของพืชดัดแปรพันธุกรรม เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้มีการยอมรับกันมากขึ้น จากข้อมูลยอดขายของมอนซานโต้สิ้นสุด ปี 2547 ระบุว่า พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดราวด์อั้พ เร้ดดี้ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่ 7 ในสหรัฐอเมริกา โดยในฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้ คาดว่าจะมีพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 16 ล้านเอเคอร์ (40 ล้านไร่) ขณะที่ในปีเพาะปลูก 2546 มีพื้นที่เพาะปลูกเพียง 12 ล้านเอเคอร์ (30 ล้านไร่)

หมายเหตุ :

มอนซานโต้ (NYSE : MON) เป็นผู้นำระดับโลกในการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีขีดความสามารถในการผลิตสูงขึ้นและผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอนซานโต้ สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.monsanto.com--จบ--