กรมอนามัยแนะน้ำตาลแพงเป็นโอกาสดีที่คนไทยจะลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลลง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ

นายแพทย์สมยศ เจริญศักดิ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยข้อมูลทางโภชนาเกี่ยวกับอัตรา การบริโภคน้ำตาลของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก ๑๒.๗ กิโลกรัม/คน/ปี ในปี ๒๕๒๖ เป็น ๒๖.๑๙ กิโลกรัม/คน/ปี ในปี ๒๕๔๘ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า คนไทยมีการบริโภคน้ำตาลมากขึ้นถึง ๒ เท่า ซึ่งเป็นอัตราที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากการบริโภคอาหารรสหวาน นอกจากจะเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคอ้วนและโรคฟันผุแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเรื้อรังอีกมากมายเมื่ออายุมากขึ้น เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคเบาหวาน ที่สำคัญผู้ที่นิยมรับประทานอาหารรสชาติหวานบ่อย ๆ ภาวะสมดุลของแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ จะเสีย ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ติดเชื้อ ได้ง่าย เกิดอาการเหนื่อยง่าย ไม่กระฉับกระเฉง โดยเฉพาะเด็กที่บริโภคอาหารรสหวานจัด จะทำให้ ความอยากอาหารลดลง เบื่ออาหาร มีภาวะโภชนาการเกิน เป็นผลให้เกิดโรคอ้วน และเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย นายแพทย์สมยศ กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาน้ำตาลในตลาดที่กำลังขาดแคลนในขณะนี้ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ประชาชนจะให้ความสำคัญในการลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลลง และหันมาบริโภคอาหารที่ถูกหลักโภชนาการกันมากขึ้น ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มีนิสัยบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง เช่น นิยม ปรุงอาหารก่อนชิม โดยเฉพาะน้ำตาล ซึ่งมักเติมคราวละมาก ๆ หรือเวลาปรุงประกอบอาหารต้องเติมน้ำตาลด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้น้ำตาลยังแฝงมากับอาหารฟุ่มเฟือยอื่น ๆ ที่ไม่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย อาทิ น้ำหวาน น้ำอัดลม ลูกอม เยลลี่ ตลอดจนการใช้น้ำตาลเติมน้ำชา กาแฟ โอวัลติน ทำให้ได้รับพลังงานเพิ่มขึ้น ทั้ง ๆ ที่ความจริงเราจะได้รับรสหวานจากการกินอาหารในกลุ่มข้าว แป้ง และผลไม้อยู่แล้ว การได้รับความหวานจากอาหารดังกล่าวอีก จะทำให้ได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้น้ำตาลเป็นอาหารที่ไม่ควรบริโภคเกินวันละ ๒๔ กรัม หรือ ๖ ช้อนชาต่อวัน คิดเป็นร้อยละ ๑๐ ของปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน (ที่มา : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมอนามัย โทร.๐ ๒๕๙๐ ๔๐๙๖)--จบ--

ข่าวโรคความดันโลหิตสูง+สมยศ เจริญศักดิ์วันนี้

"ซองเต้ซอส" น้ำปลาโซเดียมและโพแทสเซียมต่ำเพื่อผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคหัวใจ ครั้งแรกของโลก ผลงานนักวิจัย มจธ. ด้วยเทคโนโลยีการแยกสารผ่านเยื่อด้วยไฟฟ้า

จากรายงานของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ปัจจุบัน มีผู้ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังระยะที่ 1-5 สูงถึงกว่า 1,000,000 ราย ซึ่งผู้ป่วยโรคไตนั้น จะต้องลดอาหารที่มีส่วนผสมของโซเดียมและโพแทสเซียม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ที่ผ่านมาสถาบันโภชนาการหลายแห่ง ทั้งในไทยและต่างประเทศ มีความพยายามที่จะใช้นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และโภชนาการในการลดปริมาณโซเดียมและโพแทสเซียมที่ผู้ป่วยได้รับให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม หากแต่ในอาหารเป็นจำนวนมากมีทั้งโซเดียมและโพแทสเซียมอยู่แทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะใน

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับฝ... ขอเชิญร่วมกิจกรรมตรวจสุขภาพฟรี เนื่องในวันพยาบาลแห่งชาติ — คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช ขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจท...

"โรคความดันโลหิตสูง" โรคยอดฮิตในผู้สูงอาย... โรคความดันโลหิตสูงในมุมมองของแพทย์แผนจีน โดย คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว — "โรคความดันโลหิตสูง" โรคยอดฮิตในผู้สูงอายุ หากมองในทางแพทย์แผนปัจจุบัน สาเหตุข...

รับมือสุขภาพอย่างไรเมื่อ "โลกเดือด" ? หลา... รับมือสุขภาพอย่างไรเมื่อ "โลกเดือด" ? — รับมือสุขภาพอย่างไรเมื่อ "โลกเดือด" ? หลายคนอาจกำลังกังวลและตกใจกับข่าวที่เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิด...

โรงพยาบาลไทยนครินทร์ให้การต้อนรับคณะครู น... รพ.ไทยนครินทร์ให้การต้อนรับคณะครู นักเรียน โรงเรียนลาซาล กรุงเทพ — โรงพยาบาลไทยนครินทร์ให้การต้อนรับคณะครู นักเรียน โรงเรียนลาซาล กรุงเทพ ในโอกาสที่เข้าม...

ความเค็มไม่ใช่แค่การเติมเกลือลงไปในอาหาร ... ม.มหิดล หวังคนไทยห่างไกลภัยจากอาหารรสเค็ม ด้วยนวัตกรรม "ชุดทดสอบความชอบรสเค็ม" — ความเค็มไม่ใช่แค่การเติมเกลือลงไปในอาหาร แต่ยังรวมถึงอาหารและขนมที่แฝงไปด...