เอกรัฐฯ สรุปรายได้ครึ่งปี 49 โตกว่า 19.2 เปอร์เซ็นต์

16 Aug 2006

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่น

บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทย สรุปรายได้ครึ่งปี 49 กว่า 773.4 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นกว่า 19.2 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2548 ด้วยกำไรสุทธิ 48.5 ล้านบาท เผยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากงานของภาครัฐและการขายในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมย้ำสิ้นปี 49 ตั้งเป้ารายได้โตกว่า 15 เปอร์เซ็นต์

นายเกียรติพงศ์ น้อยใจบุญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2549 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 428.3 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.2เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 44.7 ล้านบาท จึงส่งผลให้รายได้ครึ่งปี 49 (ม.ค.-มิ.ย.) เป็น 773.4 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน 19.2 เปอร์เซ็นต์ ด้วยกำไรสุทธิ 48.5 ล้านบาท

“จากผลประกอบการที่ผ่านมา ถือว่าบริษัทฯ สามารถขยายตัวได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และความตื่นตัวในการบริหารจัดการพลังงานในหน่วยงานและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อธุรกิจและรายได้รวมของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ จากภาครัฐ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายในตลาดต่างประเทศ ที่พบว่าในไตรมาสที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นของยอดขายในต่างประเทศถึง 100 เปอร์เซ็นต์” นายเกียรติพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2549 พบว่ากำไรสุทธิมีการลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในไตรมาส 2 ปี 2549 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 44.7 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ อันเป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ทองแดง, ลวดหุ้นกระดาษ และลวดทองแดง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีมาตรการในการแก้ไขการเพิ่มขึ้นของต้นทุนดังกล่าว โดยในเบื้องต้นบริษัทฯ ได้เพิ่มราคาขายที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์แล้ว

นอกจากนี้ นายเกียรติพงศ์ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ว่า ขณะนี้โรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ของบริษัทฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ โดยจะมีการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อทำการติดตั้งในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อจะแล้วเสร็จและเริ่มการผลิตได้ในปี 2550

อย่างไรก็ตาม ในปี 2549 บริษัทฯ มีแนวนโยบายที่จะมุ่งขยายตลาดในทุกสายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ อีกทั้งเพื่อการสนับสนุนภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานครบวงจรของเมืองไทย ภายหลังการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แล้วเสร็จในปี 2550

“บริษัทฯ มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าผลประกอบการปี 2549 จะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในทุกสายธุรกิจของบริษัทฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าที่ขณะนี้มียอดคำสั่งซื้อจนถึงปลายปี 49 ประกอบกับล่าสุดบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าและการทำบริการสัญญาในโครงการใหม่ๆ ให้กับลูกค้าภาครัฐบาลและเอกชน ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ภาพรวมรายได้ในปี 2549 เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ไม่น้อยกว่า 15 เปอร์เซ็นต์” นายเกียรติพงศ์ กล่าว อนึ่ง บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจพลังงานครบวงจรของเมืองไทย ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิต 3,000 เมกะโวลต์แอมแปร์ต่อปี พร้อมด้วยธุรกิจต่อยอดในรูปแบบการบริการในเชิงพลังงานครบวงจร อาทิ งานซ่อมบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าทุกระบบ มอเตอร์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า งานออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมทั้งระบบ Medium และ Low Voltage งานที่ปรึกษาด้านระบบบริหารจัดการทั้งระบบบริหารคุณภาพ การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นต้น พร้อมด้วย บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการประกอบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ทั้งชนิดผลึกเดี่ยวซิลิคอนและชนิดผลึกโพลีซิลิคอน พร้อมด้วยโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาค ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2550

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

คชภพ สงวนวงศ์

พรพรรณ ฉวีวรรณ

บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)

โทร 0-2662-2266

www.124comm.com