บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทย เผยเลื่อนกำหนดวันเทรดให้เร็วขึ้นเป็น 7 สิงหาคม ด้วยกระแสการตอบรับจากนักลงทุนที่มีอย่างล้นหลาม
นายเกียรติพงศ์ น้อยใจบุญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีมติจากคณะกรรมการบริษัทฯ และที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นที่เรียบร้อย ในการเลื่อนวันเทรดหุ้นของบริษัทฯ ให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม โดยคาดว่าจะเลื่อนขึ้นจากเดิมในวันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม เป็นวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยให้เหตุผลของการเลื่อนกำหนดการเทรดหุ้นให้เร็วขึ้น มาจากกระแสการตอบรับจากนักลงทุน และหวังเกาะกระแสการลงทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
“ภายหลังจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยปรับตัวสูงสุดถึง 700.83 จุด ในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบรรยากาศการลงทุนมีแนวโน้มที่สดใส จึงเกิดแนวทางการหารือภายในทีมผู้บริหาร และที่ปรึกษาทางการเงิน ในการเลื่อนเทรดให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม โดยกำหนดวันเทรดหุ้น AKR คาดว่าจะเป็นในวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม เนื่องจากหุ้น AKR ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจำนวนมาก อีกทั้งการเกาะกระแสการลงทุนที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นนี้เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาวการณ์ลงทุนหุ้น AKR” นายเกียรติพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ มองจุดแข็งของหุ้น AKR ที่ความเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายมาเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดจำหน่ายสูงสุดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2544- 2547 โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ประกอบกับแผนการขยายธุรกิจในอนาคตสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน โดยบริษัทฯ ได้มีการลงทุนก่อสร้างโรงงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์มูลค่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2550 ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจจำหน่ายเซลล์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของบริษัทฯ ที่จะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2550 จะยิ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดด อีกทั้งยังถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับหุ้น AKR
เนื่องจากในปัจจุบันทั่วโลกมีการตื่นตัวเรื่องการหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์เนื่องจากเป็นพลังงานบริสุทธิ์ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ อีกทั้งถือเป็นพลังงานที่มีความยั่งยืนไม่มีวันหมด ประกอบกับทิศทางการขยายตัวของความต้องการเซลล์แสงอาทิตย์เพิ่มสูงขึ้นมากในต่างประเทศ โดยใน 5 ปีที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมเฉลี่ยร้อยละ 30 ต่อปี ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจังของรัฐบาลทั่วโลกทำให้ความต้องการเซลล์แสงอาทิตย์ทั่วโลก โดยในปี 2547 ทั่วโลกมีการผลิตและจำหน่ายเซลล์แสงอาทิตย์ 1,195 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าอุตสาหกรรมรวม 290,000 ล้านบาท และคาดว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า (ปี 2553) จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 5,300 เมกะวัตต์ เฉลี่ยเพิ่มขึ้น ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี โดยมีกลุ่มลูกค้าที่สำคัญ คือ ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายการส่งออกของบริษัทฯ เช่นกัน
อนึ่ง บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิต 3,000 เมกะโวลต์แอมแปร์ต่อปี พร้อมด้วยธุรกิจต่อยอดในรูปแบบการบริการในเชิงพลังงานครบวงจร อาทิ งานซ่อมบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าทุกระบบ มอเตอร์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า งานออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมทั้งระบบ Medium และ Low Voltage งานที่ปรึกษาด้านระบบบริหารจัดการทั้งระบบบริหารคุณภาพ การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นต้น พร้อมด้วย บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการประกอบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ทั้งชนิดผลึกเดี่ยวซิลิคอนและชนิดผลึกโพลีซิลิคอน พร้อมด้วยโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาค
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คชภพ สงวนวงศ์
พรพรรณ ฉวีวรรณ
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร. 0-2662-2266
www.124comm.com