บริษัท อินโด ตัมบังรายา เมกา ทีบีเค เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียอย่างเป็นทางการแล้ว เสนอขายหุ้นจำนวน 225.985 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 14,000 รูเปียะห์

18 Dec 2007

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--บ้านปู

บริษัท อินโด ตัมบังรายา เมกา ทีบีเค ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. บ้านปู ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ว่า “ITMG” ในวันนี้ นายสมยศ รุจิรวัฒน์ President Director ของบริษัท อินโด ตัมบังรายา เมกา ทีบีเค หรือ ITM พร้อมทั้งคณะกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหาร ตลอดจนผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียร่วมเป็นสักขีพยานในการนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในตลาดหลักทรัพย์จาการ์ต้า พร้อมร่วมสังเกตการณ์การซื้อ-ขายหลักทรัพย์ “ITMG” บนกระดานหุ้นเป็นครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งในโอกาสนี้ นายสมยศ ได้กล่าวว่าหลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆ ในการนำเสนอขายหุ้นให้แก่สาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) แล้ว รู้สึกมีความมั่นใจในการที่ ITM จะสามารถเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในกลุ่มธุรกิจเหมืองแร่และพลังงานของอินโดนีเซียได้อย่างแน่นอน

“กระบวนการทำ IPO ของ ITM ถือว่าประสบความสำเร็จตามความคาดหมายของคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องในการทำ IPO ครั้งนี้ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการซื้อหุ้น ITM เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงของการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์และการกำหนดราคาเสนอขาย จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายของการเสนอขายหุ้น” นายสมยศ กล่าว

ทางด้าน คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ เชื่อว่าจากองค์ประกอบที่สำคัญของ ITM ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพ และมาตรฐานการบริหารจัดการในระดับสากล เช่น นโยบายบรรษัทภิบาล (CG) นโยบายคุณภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม (QSE) และนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) จะส่งผลให้ บริษัทฯ มีรากฐานที่แข็งแกร่ง สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และจะนำมาซึ่งการเพิ่มคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ได้ในที่สุด “ในโอกาสนี้ เราขอขอบขอบคุณนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่ให้ความสนใจและไว้วางใจในหุ้น ITM ซึ่งการเสนอขายหุ้นของบริษัทฯ ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญที่จะส่งเสริมให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นาย Sutoyo Sutedjo ประธานกรรมการบริษัทฯ กล่าว

ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้นอย่างชัดเจน และทำให้กำไรจากการผลิตลดลง ในขณะเดียวกันได้ทำให้ราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้น ปริมาณความต้องการใช้ถ่านหินอย่างต่อเนื่องในตลาดเอเชีย-แปซิฟิค ประกอบกับปัญหาการขนส่งถ่านหินของออสเตรเลียที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศส่งผลให้ราคาซื้อ-ขายถ่านหิน ณ. ปัจจุบัน (Spot Price) ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

สิ่งสำคัญของการเสนอขายหุ้น

การเสนอขายหุ้นของ ITM ครั้งนี้เป็นหุ้นใหม่ร้อยละ 100 ซึ่งประกอบด้วยนักลงทุนต่างชาติ (ร้อยละ 65) และนักลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย (ร้อยละ 35) โดยการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบันได้ปิดลงเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 และการเสนอขายหุ้นให้แก่นักลงทุนรายย่อยได้ดำเนินการเมื่อวันที่ 11-13 ธันวาคม พ.ศ. 2550

จากการเสนอขายหุ้นจำนวน 225,985,000 ในราคาเสนอขายหุ้นสุดท้ายที่ราคาหุ้นละ 14,000 รูเปียะห์ (54.45 บาท ต่อหุ้น ที่ อัตราแลกเปลี่ยน 1,000 รูเปียห์ = 3. 8893 บาท) นั้น ITM คาดว่าจะได้รับเงินจากการทำ IPO ครั้งนี้ จำนวน จำนวน 337.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปใช้ในการดำเนินการต่างๆ ดังนี้

  • 65 - 70 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้ในการพัฒนา ปรับปรุง และขยายท่าเรือบอนตัง
  • 20 - 25 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้ในการก่อสร้าง และดำเนินการโรงไฟฟ้าบอนตัง
  • 20 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้พัฒนาเหมืองถ่านหินอินโดมินโค ส่วนตะวันออก
  • 40-50 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้ในการพัฒนาแหล่งถ่านหินบารินโต และ
  • ส่วนที่เหลือ จะนำไปใช้สำหรับและการจ่ายคืนหนี้ และการขยายธุรกิจซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองแหล่งถ่านหินและโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย หากมีโอกาสและโครงการที่เหมาะสม