ธนาคารทหารไทยแจ้งการตัดบัญชีค่าความนิยมในงบการเงินงวดครึ่งปีแรก 2550

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--ธนาคารทหารไทย

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งในวันนี้ว่า ผลประกอบการของธนาคารสำหรับงวดครึ่งปีแรก 2550 ซึ่งตรวจสอบแล้ว ได้รับผลกระทบจากการด้อยค่าของค่าความนิยม (Goodwill) ที่เกิดจากการรวมกิจการของธนาคารกับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ จำนวน 12,237 ล้านบาท ซึ่งค่าความนิยมดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดของธนาคารแต่อย่างใด ธนาคารได้ทำการประเมินมูลค่าของค่าความนิยมโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากค่าความนิยมดังกล่าวในอนาคต รวมทั้งได้จัดหาบริษัทที่ปรึกษาอิสระเพื่อจัดทำการประเมิน พบว่า เกิดการด้อยค่าของค่าความนิยมทั้งจำนวน ธนาคารจึงได้ตัดบัญชีค่าความนิยมดังกล่าวทั้งจำนวน แต่จะไม่มีผลกระทบต่อระดับความเพียงพอของเงินกองทุนของธนาคาร เนื่องจากค่าความนิยมไม่ได้เป็นปัจจัยที่ใช้ในการคำนวณระดับความเพียงพอของเงินกองทุน ที่ผ่านมาธนาคารมีการทะยอยตัดค่าความนิยมเป็นระยะเวลา 20 ปี การตัดบัญชีค่าความนิยมอันเนื่องมาจากการด้อยค่าในงวดครึ่งแรกของปี 2550 นี้ จะทำให้ธนาคารไม่มีภาระการตัดจ่ายค่าความนิยมปีละประมาณ 713 ล้านบาทอีกต่อไป จึงเป็นการลดค่าใช้จ่ายตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2550 เป็นต้นไป แม้ว่าจะเกิดการด้อยค่าของค่าความนิยมในงวดครึ่งแรกของปี 2550 กำไรจากการดำเนินงานของธนาคารในงบการเงินรวมก่อนรายการพิเศษ ภาษีและดอกเบี้ย เท่ากับ 4,580 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 12.6% เมื่อเทียบกับ 4,070 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 646,360 ล้านบาท เงินให้กู้รวม 505,160 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของ NPLs มีสาเหตุหลักมาจากการจัดชั้นสินเชื่อ อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับมาตรฐานการจัดชั้นสินเชื่อภายในที่เข้มงวดขึ้นอย่างต่อเนื่องของธนาคาร รวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่อำนวย ซึ่งส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งสำรองประมาณ 8,200 ล้านบาทในงวดครึ่งแรกของปี 2550 และเมื่อรวมกับผลขาดทุนจากการด้อยค่าของค่าความนิยม 12,237 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นทั้งหมด รวมเป็นผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 18,150 ล้านบาท ปัจจุบันธนาคารมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน อยู่ที่10.2% เมื่อเทียบกับ 8.5% ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ในขณะเดียวกัน ธนาคารทหารไทย แจ้งว่าการหารือเรื่องการเสริมความแข็งแกร่งของเงินกองทุน กำลังดำเนินไปและมีความคืบหน้า ซึ่งธนาคารจะประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการให้ทราบต่อไปเมื่อแผนการเพิ่มทุนผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารแล้ว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ สำนักสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 242 3260/ 02 242 3254/ 02 2423260 / 085 813 3020

ข่าวธนาคารทหารไทย+ธนาคารดีบีเอสวันนี้

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,299 ล้านบาท ในไตรมาส 3 รวม 9 เดือน ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 15,399 ล้านบาท ด้านคุณภาพสินทรัพย์มีเสถียรภาพ แนวโน้มหนี้เสียทรงตัว

ขณะที่อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับสูงที่ 151% ยังคงเน้นย้ำพันธกิจหลักในการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นและการช่วยเหลือลูกค้าแก้หนี้อย่างยั่งยืน ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน ปี 2568 โดยธนาคารและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิ 5,299 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ทรงตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รวม 9 เดือน ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 15,399 ล้านบาท ลดลง 4% ยังคงเน้นย้ำการบริหารจัดการด้านต้นทุนเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน... ถอนเงินไม่ใช้บัตร ได้ง่ายและสะดวกขึ้น ผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็มทั่วประเทศ — กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบประสบการณ์ความง่ายและสะดวกให้...

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบ... ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 — ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 หนุนโดยการบริหารจัดการด้าน...