เอสเอ็มอี แบงก์ เช็คสุขภาพธุรกิจ SMEs ชี้เถ้าแก่อ่อนการตลาด ขาดทายาทสานต่อกิจการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

เอสเอ็มอี แบงก์ เผยผลการตรวจสภาพธุรกิจ 2,280 กิจการทั่วประเทศ พบ ผู้ประกอบการยังอ่อนการทำตลาด ยอดขายไม่กระเตื้อง อีกทั้งขาดทายาทธุรกิจสืบทอดกิจการ นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) เปิดเผย ผลการตรวจสภาพธุรกิจ SMEs ของปี 2550 ที่ผ่านมาว่า จากการเข้าไปตรวจสภาพธุรกิจผู้ประกอบกว่า 2 พันราย เฉลี่ยจังหวัดละ 30 กิจการ อยู่ในภาคการผลิต 38% และภาคบริการ 33% พบว่า ผู้ประกอบการประสบปัญหาด้านการทำตลาดอันดับหนึ่ง ซึ่งสะท้อนได้จากตัวเลขในปีที่ผ่านมาว่า ยอดขายสินค้ายังคงมียอดขายเท่าเดิมและใกล้เคียง คิดเป็น 41% ขณะที่จำนวนลูกค้าลดลง 10% เมื่อเทียบกับปี 2549 นอกจากนี้จากการเข้าไปตรวจสภาพธุรกิจเชิงลึกพบว่า 52% ผู้ประกอบการไม่มีตราสินค้าปรากฏบนผลิตภัณฑ์ ไม่มีกิจกรรมการส่งเสริมการตลาด ได้แก่ ไม่มีโฆษณา 71% ไม่มีการประชาสัมพันธ์ 70% ไม่มีการส่งเสริมการขาย 69% ไม่มีการเก็บข้อมูลการตลาด 52% ข้อมูลทั้งหมดสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าผู้ประกอบการยังไม่มีความรู้ในการทำตลาดมากนัก ซึ่งสอดรับกับการตอบแบบสอบถามถึงความต้องการต่อธนาคารที่ไม่ใช่ด้านสินเชื่อ พบว่าผู้ประกอบการสนใจอบรมด้านการตลาดอันดับ 1 จำนวน 965 กิจการ บริการองค์ความรู้เฉพาะด้านการตลาด 937 กิจการ บริการที่ปรึกษาด้านการตลาด 915 กิจการ รองลงมาได้แก่ บริการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ 687 กิจการ “เราถือว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว ซึ่งปีที่ผ่านมาธนาคารเดินหน้าช่วยเหลือด้านการตลาดกับลูกค้าอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมสัมมนาด้านการตลาด การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การออกบูธ การนำลูกค้าไปเปิดตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ลูกค้า SMEs มีความต้องการสูง” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสภาพธุรกิจด้านการบริหารจัดการ พบว่า กิจการส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ 3-10 ปี คิดเป็น 56% พบว่า 24% ไม่มีทายาทหรือผู้สืบทอดกิจการ หรือถึงแม้จะมีทายาทแต่ก็ไม่ยอมทำกิจการที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายของธนาคารในการผลักดันทายาทเหล่านั้นก้าวสู่การเป็นเถ้าแก่สืบทอดกิจการ ขณะที่ 45% มีทายาทสืบทอดแต่ไม่พร้อมดำเนินกิจการในปัจจุบัน กลุ่มนี้ธนาคารพร้อมสนับสนุนด้านเงินทุนและองค์ความรู้ธุรกิจทุก ๆ ด้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-265-3000 ต่อ 3601-4

ข่าวธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย+ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางวันนี้

SME D Bank ห่วงใยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ออกมาตรการเร่งด่วน 'พัก-ตัด-ลด-ขยาย-เติม' บรรเทาความเดือดร้อน ประคองธุรกิจ ก้าวข้ามวิกฤตมั่นคง

SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย ห่วงใยประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน "พัก-ตัด-ลด-ขยาย-เติม" เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน ตัดเงินต้นสูงสุด 30% คู่เติมทุนฟื้นฟูกิจการ ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบ

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่... SME D Bank ขอแจ้งหยุดให้บริการสาขาน่าน เป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ — ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรื...