อุบัติเหตุในกรุงเทพฯ ยังเกิดซ้ำซากในหลายแยก เร่งรณรงค์แก้ปัญหาและแก้พฤติกรรมเสี่ยง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--กทม.

สถิติอุบัติเหตุต้นปี 51 ยังเกิดจากการตัดหน้าหรือตามกระชั้นชิด การขับรถเร็ว แซงผิดกฎหมาย เร่งแก้ปัญหาและรณรงค์ การแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมประสานตำรวจตรวจจับ ตั้งด่านเข้มทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่อุบัติเหตุซ้ำซาก นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารเกี่ยวกับการรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า สถิติสาเหตุ 10 อันดับสูงสุดที่เกิดอุบัติเหตุในเขตกรุงเทพมหานคร ปี 2550 จำแนกตามสาเหตุพบว่า สาเหตุการขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 7,302 ราย คิดเป็น 19.51% ตัดหน้าระยะกระชั้นชิด จำนวน 7,224 ราย คิดเป็น 19.30% ตามติดกระชั้นชิด จำนวน 6,924 ราย คิดเป็น 18.50% การแซงรถอย่างผิดกฎหมาย จำนวน 4,485 ราย คิดเป็น 11.98% และฝ่าฝืนสัญญาณไฟ/เครื่องหมายจราจร จำนวน 2,213 ราย คิดเป็น 5.91% เมาสุรา จำนวน 2,151 ราย คิดเป็น 5.75% ไม่ขับรถจักรยานยนต์ในช่องทางซ้ายสุด จำนวน 2,034 ราย คิดเป็น 5.43% ขับรถผิดช่องทาง จำนวน 1,949 ราย คิดเป็น 5.21% ไม่ให้สัญญาณจอด/ชะลอ/เลี้ยว จำนวน 1,880 ราย คิดเป็น 5.02% และฝ่าฝืนป้ายหยุดทางแยก จำนวน 1,270 ราย คิดเป็น 3.39% สำหรับบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งย้อนหลัง 3 เดือน จำแนกตามพื้นที่เขต พบว่าเกิดอุบัติเหตุมากเรียงจากมากไปน้อย คือ พื้นที่เขตคลองเตย บน ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 24 ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 22 ห้าแยก ณ ระนอง พื้นที่เขตบางพลัด บน ถ.จรัญสนิทวงศ์ แยกบางพลัด พื้นที่เขตบางซื่อ บน ถ.เทิดดำริ แยกเทิดดำริ พื้นที่เขตวัฒนา บน ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 23 พื้นที่ ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 55 พื้นที่เขตมีนบุรี บน ถ.สุวินทวงศ์ หน้าบริษัทอาหารยอดคุณ พื้นที่เขตพระโขนง ถ.สุขุมวิท 62 พื้นที่เขตห้วยขวาง บริเวณ จุดกลับรถ หน้าห้างฟอร์จูน พื้นที่เขตตลิ่งชัน บน ถ.บรมราชชนนี ต่างระดับฉิมพลี พื้นที่เขตบางกะปิ บน ถ.ลาดพร้าว ปาก ซ.ลาดพร้าว 101 พื้นที่เขตราชเทวี บริเวณแยกราชเทวี ส่วนสถิติสาเหตุ 10 อันดับสูงสุดที่เกิดอุบัติเหตุในเขตกรุงเทพมหานคร ประจำเดือนมกราคม ปี 2551 พบว่าการตัดหน้า ระยะกระชั้นชิด จำนวน 599 ราย คิดเป็น 21.67% ตามกระชั้นชิด จำนวน 538 ราย คิดเป็น 19.46% ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 507 ราย คิดเป็น 18.34% แซงรถอย่างผิดกฎหมาย จำนวน 292 ราย คิดเป็น 10.56% ขับรถผิดช่องทาง จำนวน 181 ราย คิดเป็น 6.55% ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ/เครื่องหมายจราจร จำนวน 163 ราย คิดเป็น 5.90% ไม่ขับรถในช่องทางซ้ายสุด จำนวน 128 ราย คิดเป็น 4.63% เมาสุรา จำนวน 121 ราย คิดเป็น 4.38% ไม่ยอมให้รถที่มีสิทธิไปก่อน จำนวน 118 ราย คิดเป็น 4.27% และไม่ให้สัญญาณจอด/ชะลอ/เลี้ยว จำนวน 117 ราย คิดเป็น 4.23% ทั้งนี้ในการประชุมคณะผู้บริหารได้มีความเห็นร่วมกันในการหาแนวทางการแก้ปัญหาและรณรงค์ การแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยแนวทางการแก้ไขส่วนของกายภาพ สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจและดำเนินการแก้ไข รวมถึงการประสานกับตำรวจในการตั้งด่านตรวจ การรณรงค์วินัยจราจร และเมาไม่ขับ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่หรือบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ข่าวถนอม อ่อนเกตุพล+กรุงเทพมหานครวันนี้

ช่อง 5 เปิดรายการใหม่ "ฟังชัด ๆ ถนอมจัดให้" พร้อมสะท้อนสังคมช่วยเหลือประชาชน

ช่อง 5 นำเสนอรายการใหม่เดินหน้าพร้อมเป็นสื่อกลางให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความทุกข์ของประชาชนกับ "ฟังชัด ๆ ถนอมจัดให้" ดำเนินรายการโดย ถนอม อ่อนเกตุพล ซึ่งมีประสบการณ์ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนมากว่า 30 ปี นำเสนอเรื่องราวสะท้อนปัญหาสังคมและความเดือดร้อนของชาวบ้านผ่านทางสามช่วงของรายการ ช่วงแรกเป็นการสรุปข่าวสารที่น่าสนใจเป็นประโยชน์ทันต่อเหตุการณ์ จากนั้นเป็นการสัมภาษณ์บุคคลที่อยู่ในกระแสเพื่อให้ผู้ชมได้รับทราบข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆ และต่อด้วยการเปิดรับสาย

กทม. เผยผลสรุปผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือหลังได้รับผลกระทบจากเหตุชุมนุม

นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 14/2553 ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้...

กทม.เร่งหาพื้นที่ค้าขายให้ผู้ค้าเซ็นเตอร์วัน

นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษก กทม. กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็น สี่แยกราชประสงค์ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และร้านค้าย่านสยามสแควร์ ปรากฏว่าขณะนี้มีภาคเอกชนหลายราย อาทิ ผู้ประกอบการค้าอาคารซิตี้คอมเพล็กซ์ ประตูน้ำ...

กทม. เปิด BRT สายสาทร-ราชพฤกษ์ 15 พ.ค. มั่นใจงานที่เหลือไม่กระทบการเดินรถ

กทม. เปิดบริการ BRT สายแรก สาทร-ราชพฤกษ์ 15 พ.ค. นี้ มั่นใจงานที่เหลือไม่กระทบการเดินรถ คาดเปิดเต็มรูปแบบ 2 ม.ค. ปีหน้า พร้อมสรรพระบบ ITS ระบบ AFC ตั๋วโดยสารแบบแตะ ระบบลิฟท์สำหรับผู้พิการและจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่แยกสาทร...

ผู้บริหารกทม. เห็นชอบกรอบวงเงินงบปี 54 ที่ 4.6 หมื่นล้าน

นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า คณะผู้บริหารเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2554 ตามที่สำนักงบประมาณพิจารณานำเสนอ โดยมีกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 54 ที่สำนักงบประมาณพิจารณา จำนวน 46,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบบริหารจัดการ 10,271...

ตั้งเป้าปี 55 ใช้น้ำที่ผ่านการบำบัดเพิ่มเป็น 5% ของน้ำเสียที่บำบัดได้

กทม. เตรียมขอจัดสรรงบ 4.5 ล้าน ของปี 54 ศึกษาความเหมาะสมของการนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดมาใช้ประโยชน์และปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ใช้ประโยชน์ได้เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าปี 55 เพิ่มปริมาณการใช้น้ำที่ผ่านการบำบัดเป็น 5% ของน้ำเสียที่บำบัดได้...

กทม.เดินหน้าพัฒนาโครงการระบบขนส่งมวลชน

เตรียมจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมโครงการระบบขนส่งมวลชนกทม. คาดแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน-1 ปี พร้อมขอสภากทม.เห็นชอบเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนระบบหลักและระบบรอง ในพื้นที่และนอกเขต กทม. นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกของกรุงเทพมหานคร แถลงผล การประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร...

กทม. ตั้งเป้าเปิดโรงพยาบาลบางขุนเทียนให้ทัน ก.พ.56 ทุ่มงบจ้างเอกชนออกแบบอาคาร

กทม. ทุ่มงบประมาณกว่า 18 ล้านบาท จ้างเอกชนออกแบบอาคาร พร้อมสั่งการทุกฝ่ายเร่งดำเนินการ ตั้งเป้าเปิดบริการโรงพยาบาลบางขุนเทียนให้ทัน ก.พ.56 หวังเป็นผู้นำด้านการแพทย์เพื่อสูงอายุครบวงจรของภูมิภาค นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุง...

คืบหน้า BRT ช่องนนทรี – ราชพฤกษ์ 87% ได้ยลโฉมตัวรถ 28 เม.ย. 53

กทม. ยืนยันเปิดให้บริการรถ BRT อย่างไม่เป็นทางการแบบไม่เก็บค่าโดยสาร 15 พ.ค. 53 โดยเร่งรัดก่อสร้างงานที่จำเป็นในการเปิดให้บริการก่อน เบื้องต้นงานภาพรวมเสร็จ 87% จากนั้น 1 ก.ย. 53 ให้บริการค่าโดยสาร 10 บาท ตลอดสาย ก่อนเดินรถเต็มรูปแบบ 2 ม...

ประชาชนแจ้งเบาะแสความมั่นคงมายังสายด่วน กทม. 1555 เกือบ 300 เรื่อง

นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า ในเดือนที่ผ่านมา กทม. ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์ สายด่วน กทม. 1555 นับจากวันที่เปิดศูนย์ 24 ก.พ. 28 มี.ค. 53 มีเรื่องร้องทุกข์ทั้งหมด 45,079 เรื่อง...