ปภ. เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์คลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surge)

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--ปภ.

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งอ่าวไทยอย่า ตื่นตระหนก หลงเชื่อข่าวลือ เพราะหากเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งขึ้น สามารถตรวจจับการเคลื่อนตัวของพายุได้ล่วงหน้า 5 – 7 วัน จึงสามารถอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที พร้อมจัดเตรียมกำลัง ประสานเครือข่ายติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดตั้งชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ ซึ่งสามารถสนธิกำลังให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยขนาดใหญ่ได้ทันที นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรณีนักวิชาการได้ออกมาแจ้งเตือนว่าในช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคมนี้ พื้นที่ริมชายฝั่งทะเลาอ่าวไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูง ที่เรียกว่าคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือสตอร์มเซิร์จ (Storm Surge) ซึ่งมีกำลังรุนแรงใกล้เคียงกับพายุไซโคลนนาร์กีสที่พัดถล่มประเทศพม่า ว่าจากการติดตามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ความรุนแรงของพายุจะขึ้นอยู่กับกำลังลมและความชื้น ซึ่งกำลังลมและความชื้นในอ่าวไทยมีปริมาณน้อยกว่าในอ่าวเบงกอลของประเทศพม่า ทำให้ภัยพิบัติดังกล่าวมีความรุนแรงลดน้อยลง สำหรับพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง ได้แก่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรีถึงสงขลา สำหรับกรุงเทพฯยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ปากอ่าวแคบ ทำให้ไม่เอื้อต่อการเกิดสตอร์มเซิร์จ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมป้องกันและรับมือภัยพิบัติดังกล่าว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามประสานงานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา และกรมอุทกศาสตร์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามการเคลื่อนตัวของพายุหมุนเขตร้อน อย่างใกล้ชิด หากมีความเสี่ยงที่จะเกิดสตอร์มเซิร์จจะสามารถประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า ๕ – ๗ วัน จึงสามารถที่จะขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของ และอพยพผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อดำเนินการตามแผนเฉพาะกิจฯ ป้องกันและแก้ไขปัญหา จัดวางระบบเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัย ปรับข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่ปลอดภัย ตลอดจนได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่และประสานเครือข่ายทั้งอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล (OTOS) มิสเตอร์เตือนภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดเตรียมกำลังคน และความพร้อมด้านอุปกรณ์ เครื่องมือ ให้มีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้ในทันทีที่เกิดเหตุการณ์ พร้อมทั้งยังได้จัดตั้งชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ (Emergency Response Team : ERT) ซึ่งสามารถปฏิบัติงานสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันที ที่สำคัญ ปภ. ยังได้ จัดให้มีการฝึกซ้อมแผนอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงได้เรียนรู้ขั้นตอนกระบวนการ ในการอพยพหลบหนีภัย ตลอดจนได้เร่งเสริมสร้างให้ชุมชนในพื้นที่เสี่ยงภัยมีความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติฉุกเฉินในเบื้องต้น สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเล ให้ปฏิบัติตน ดังนี้ ก่อนเกิดภัย ควรติดตามรับฟังพยากรณ์อากาศ ประกาศแจ้งเตือนภัยคลื่นพายุซัดฝั่งจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์สิ่งของเครื่องใช้ที่สำคัญเอาไว้ให้เป็นที่ เพื่อที่ จะสามารถนำมาใช้งานได้ ทันที่ที่เกิดภัยพิบัติ และให้ความร่วมมือกับการฝึกซ้อมแผนการอพยพหลบภัย ตลอดจนศึกษาเรียนรู้เส้นทางอพยพหนีภัย พื้นที่ปลอดภัย และวิธีการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นในเบื้องต้น ขณะเกิดภัย หากได้รับแจ้งเตือนภัยการเกิดสตอร์มเซิร์จ ประชาชน ไม่ควรตื่นตระหนกตกใจ ตั้งสติให้มั่น ดำเนินการอพยพตามแผนและขั้นตอน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากต้องมีการอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยจริง ให้ทยอยออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเป็นระเบียบ โดยอพยพไปยังพื้นที่ที่ห่างจากชายฝั่งทะเลพอสมควรหรือบริเวณที่สูงกว่าปกติ หากอยู่ในทะเล แล้วเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง ให้รีบนำเรือไปหลบคลื่นในบริเวณที่อับลม หรือบริเวณพื้นที่ที่ปลอดภัยทันที สุดท้ายนี้ ขอฝากเตือนประ ชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ หมั่นติดตามรับฟังข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+กระทรวงมหาดไทยวันนี้

กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน

นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ.สสล. กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและรับมือปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สสล. ได้บูรณาการความร่วมมือและการยกระดับปฏิบัติการแบบ Single Command โดย กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบวันต่อวัน และบูรณาการข้อมูล hotspot

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดก...

เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและก... สงกรานต์นี้ เดินทางอย่างไร้กังวล! FWD ประกันชีวิต แจกประกันอุบัติเหตุฟรี 30,000 สิทธิ์ — เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการเดินทาง เพื่อช่วยลดควา...

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจ... สกสว.พร้อมเป็นโซ่ข้อกลางรับมือเอลนีโญ สานทัพมหาดไทยหนุนทำแผนปฏิบัติการ — สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดการประชุมทำแผนป...

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย คุณ... ไทยเบฟ สนับสนุนทีม USAR ช่วยเหลือแผ่นดินไหวตุรกี — บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย คุณประวิช สุขุม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด...