แมนพาวเวอร์ ประกาศความสำเร็จครบรอบ 60 ปี ตอกย้ำความเป็นหนึ่งด้านการจัดการและบริหารงานบุคคลระดับโลก มั่นใจศักยภาพปี 2552 เตรียมปรับกลยุทธ์สู้ศึกตลาด HR

12 Dec 2008

กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์

แมนพาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ มลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา บริษัทจัดหางานชั้นนำและมีชื่อเสียงระดับโลก ประกาศความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการดำเนินธุรกิจมากว่า 60 ปี พร้อมเผยทิศทางนโยบายและ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2552 มั่นใจปัจจัยบวกและศักยภาพทางเศรษฐกิจ หลังเปิดตัวบริการใหม่ “ที่ปรึกษาด้านการวางแผนอาชีพ” ในประเทศไทยพร้อมคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจ HR ปีหน้ามีโอกาสขยายอีกกว่า 13%

มร. เจฟ จอร์เรส ประธานบริหารบริษัท แมนพาวเวอร์ อิงค์ เปิดเผยถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี บริษัทแมนพาวเวอร์ อิงค์ ว่า “นับตั้งแต่เราเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 1948 โลกของการทำงานได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่ภารกิจของเรายังคงเดิม คือ การมุ่งเน้นนำเสนองานที่ดีให้กับผู้คนและการคัดสรรบุคคลากรที่มีความสามารถตรงตามความต้องการให้กับองค์กรต่างๆ โดยในแต่ละปี แมนพาวเวอร์สามารถฝึกอบรมคนได้ถึง 9 ล้านคนและจัดสรรคนเข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆ ได้ถึง 5 ล้านคนทั่วโลก ด้วยความได้เปรียบทางธุรกิจของแมนพาวเวอร์ที่มีสำนักงาน 4,500 แห่งกระจายอยู่ใน 80 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก ตลอดจนบริการที่มีความหลากหลาย ทำให้บริษัทสามารถสนับสนุนองค์กรต่างๆ ทั่วโลกให้บรรลุเป้าหมาย และช่วยเสริมประสิทธิภาพและผลิตภาพให้กับแรงงานโดยรวมได้อย่างทั่วถึง

และในฐานะที่เป็นผู้นำระดับโลกในตลาดการจ้างงาน แมนพาวเวอร์ยังได้นำแนวคิดใหม่ๆ มาทดสอบตลาดเป็นการเฉพาะได้ก่อนที่จะนำมาใช้ในวงกว้างทั่วโลก อาทิ การสำรวจสภาวะการจ้างงานรายไตรมาส (Employment Outlook Survey) ซึ่งการสำรวจนี้ถือเป็นการศึกษาตลาดการจ้างงานที่ครอบคลุมมากที่สุด โดยในแต่ละไตรมาสมีผู้จ้างงานเกือบ 55,000 รายใน 33 ประเทศและเขตการปกครองเข้าร่วมการศึกษานี้ นอกจากนี้ แมนพาวเวอร์ยังให้บริการลูกค้าในระดับท้องถิ่นโดยการนำปัจจัยต่างๆ เข้ามาร่วมพิจารณา อาทิ ธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ในตลาดแรงงาน กฎระเบียบต่างๆ และกฎเกณฑ์ด้านภาษี รวมถึงการให้คำแนะนำปรึกษากับภาครัฐในด้านนโยบายตลาดแรงงาน ทั้งในประเทศที่เป็นเศรษฐกิจใหม่และในประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยในปีที่ผ่านมา แมนพาวเวอร์ถือเป็นบริษัทข้ามชาติแห่งแรกที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการจัดหาพนักงานชั่วคราวได้ในประเทศจีน”

นอกจากนี้ แมนพาวเวอร์ยังได้ลงทุนเพิ่มเติมเพื่อการฝึกอบรมและพัฒนาแรงงานอย่างยั่งยืน การกอบกู้สถานการณ์จากภัยพิบัติต่างๆ การช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และการยืนหยัดต่อต้านการค้ามนุษย์ อันเป็น 4 หลักการในการช่วยเหลือสังคม ที่แมนพาวเวอร์ได้ยึดมั่นมาตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจกว่า 6 ทศวรรษ นายจอร์เรสกล่าวสรุป.

ในส่วนความเคลื่อนไหวเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีในการดำเนินธุรกิจของแมนพาวเวอร์ ล่าสุด ทางบริษัทแมนพาวเวอร์ อิงค์ นำโดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ นายเอลเมอร์ วินเทอร์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ นายมิทเชลล์ ฟรอมสไตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารรุ่นที่ 2 และนายเจฟ จอร์เรส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบัน ได้ขึ้นเป็นเกียรติทำหน้าที่สั่นกระดิ่ง (The Closing Bell?) ปิดตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของบริษัท และในฐานะบริษัทจัดการและบริหารงานบุคคลระดับโลกที่มีมูลค่าการตลาดสูงถึง 21,000 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้บริษัท แมนพาวเวอร์ อิงค์ เพิ่งได้รับเกียรติขึ้นทำเนียบ 500 บริษัทชั้นนำของนิตยสารฟอร์จูน (Fortune 500) โดยแมนพาวเวอร์อยู่ในลำดับที่ 120 จากการจัดอันดับบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกาประจำ ปี 2008 หลังจากเพิ่งคว้ารางวัล “Top Companies for women” จากนิตยสาร Pink ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับบทบาทของสตรีในการทำงานของประเทศสหรัฐอเมริกา ในการเป็นองค์กรที่สนับสนุนและส่งเสริมบทบาทและหน้าที่ของสตรี และรางวัล “The 2008 World’s Most Ethical Companies” จากการจัดอันดับของนิตยสาร FORBES และสถาบันเอธิสเฟียร์ ให้เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแนวความคิดในการดำเนินธุรกิจ ความก้าวหน้าทางด้านนวัตกรรมต่างๆ ที่มีส่วนทำให้ประชาชน กลุ่มผู้หางานได้รับประโยชน์สูงสุด และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อกลางปีที่ผ่านมา.

ทางด้าน มร.ไซมอน แมทธิวส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงผลการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยว่า “จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินโลก ทำให้หลากหลายบริษัทต้องเร่งปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อดำเนินธุรกิจ ซึ่งทางแมนพาวเวอร์ในฐานะของบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ให้บริการด้านการจัดการและบริหารงานบุคคลได้มีการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ พร้อมทั้งมีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง เช่นกัน โดยได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายและแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์

ทั้งนี้ ในส่วนของการประเมินสถานการณ์และแนวโน้มทางเศรษฐกิจในปี 2552 นั้น ทางบริษัท คาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตของภาคธุรกิจนี้กว่า 13% ในปีหน้า เพราะยังมีความเชื่อมั่นในนโยบายเร่งด่วนในการฟื้นฟูศักยภาพทางเศรษฐกิจ และคาดหวังว่าจะมีปัจจัยบวกเกิดขึ้นในตลาดสรรหาบุคลากร พร้อมกันนี้ทางบริษัทฯ ได้เร่งพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ เพิ่มเติมแก่ลูกค้าและมีรูปแบบที่สอดรับกับสถานการณ์ทางการตลาด โดยล่าสุดได้เปิดตัวบริการ “ที่ปรึกษาด้านการวางแผนอาชีพ (Career Transition Service)” ซึ่งเป็นบริการรูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทยที่ให้บริการกับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารงานภายในองค์กร ซึ่งคาดการณ์ว่าบริการรูปแบบใหม่นี้ จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และสามารถเป็นหนึ่งในบริการของแมนพาวเวอร์ที่สามารถสร้างความได้เปรียบในเชิงธุรกิจแก่บริษัทได้

สำหรับ ผลการดำเนินงานการในปี 2551 ซึ่งถือเป็นปีที่ 10 ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และปีที่ 60 ในการดำเนินธุรกิจของแมนพาวเวอร์ ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยสามารถขยายการรับรู้ทั้งในส่วนขององค์กรและรูปแบบการให้บริการสู่กลุ่มลูกค้าในประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้นถึง 30% ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ในขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าต่างประเทศและบริษัทข้ามชาติก็ยังคงให้ความไว้วางใจในบริการของแมนพาวเวอร์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังจัดกิจกรรมเสริมแก่ผู้สมัครงานอีกหลายช่องทางด้วยกัน อาทิ การรับสมัครงานผ่านระบบอินเตอร์เนต การจัดโรดโชว์ การออกบูธสัญจรรับสมัครงาน และการรับสมัครโดยการ Walk in ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา นายไซมอนกล่าว.

แมนพาวเวอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ให้บริการด้านการจัดการและบริหารงานบุคคลระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ มลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา โดยมีเครือข่ายสำนักงานที่ให้บริการ 4,500 สาขา ใน 80 ประเทศทั่วโลก พร้อมให้บริการกับลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ถึง 400,000 รายต่อปี โดยกลุ่มแมนพาวเวอร์แบ่งการดำเนินธุรกิจใน 5 บริษัท ได้แก่ แมนพาวเวอร์ (Manpower), แมนพาวเวอร์ โปรเฟสชั่นแนล (Manpower Professional), อีแลน (Elan), เจฟเฟอร์สัน เวลส์ (Jefferson Wells) และ ไรท์ เมเนจเม้นท์ (Right Management)

ปัจจุบัน แมนพาวเวอร์ ประเทศไทย จัดเป็นบริษัทจัดหางานชั้นนำและมีชื่อเสียงของประเทศ โดยได้เริ่มต้นการให้บริการด้านการจัดการและบริหารงานบุคคล มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยปัจจุบันมีสำนักงานเปิดให้บริการทั้งหมด 13 แห่ง ในกรุงเทพฯ 7 แห่ง, จังหวัดชลบุรี 2 แห่ง, จังหวัดอยุธยา 1 แห่ง, จังหวัดลำพูน 1 แห่ง, จังหวัดสงขลา 1 แห่ง และจังหวัดนครราชสีมา 1 แห่ง โดยเน้นกลยุทธ์การให้บริการที่พร้อมตอบรับกับความต้องการระหว่างกลุ่มบริษัทต่างๆ ที่ต้องการบุคลากร และกลุ่มผู้หางาน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

เจดับบลิวที ประเทศไทย : เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์

คุณพรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา (บี) โทร. 02-204-8210 / 086-813-1981 หรือ

คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ (จันทร์) โทร. 02-204-8221 / 089-127-2089

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net