ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ การบูรณาการ โครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และเอส เอ็ม แอล (SML)

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

นายคณวัฒน์ วศินสังวร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงผลการประชุมเชิงปฏิบัติการการบูรณาการโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และ เอส เอ็ม แอล (SML) เมื่อวันพุธที่ 29 ตุลาคม 2551 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นท์ การประชุมครั้งนี้มีถือเป็นการประชุมเฉพาะกิจครั้งแรกของรัฐบาล เนื่องจากมีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจในระดับชุมชนและท้องถิ่น โดยได้มีการแลกเปลี่ยนระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ และบูรณาการโครงการดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด รัฐบาลจะสนับสนุนการลดรายจ่ายของประชาชนโดยการพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองฯ ให้สามารถบริการประชาชนเพิ่มขึ้นทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพชีวิต ซึ่งผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปีงบประมาณ 2551 ได้จัดสรรและโอนเงินให้แล้ว 78,920 กองทุน มีกระแสเงินหมุนเวียนสะสมจากเงินกองทุนในปัจจุบัน 464,568.20 ล้านบาท และมียอดเงินทุนในกองทุนรวมทั้งสิ้น 132,440.48 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่สำคัญเพิ่มเติม เช่น การให้กู้ต่อยอดแก่กองทุนที่ขึ้นทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว การสนับสนุนการสร้าง ความเข้มแข็งทางการเงินกองทุนหมู่บ้านฯ ที่เชื่อมโยงเครือข่ายทางการเงินของกองทุนหมู่บ้านฯ เป็นสถาบันการเงินชุมชน การสร้างองค์ความรู้ของชุมชนในแนวดิ่งและแนวนอน การสร้างนักวิชาการชุมชน เป็นต้น เพื่อให้มีแหล่งเงินที่มีต้นทุนต่ำและแหล่งความรู้เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจะส่งเสริมการเพิ่มรายได้ของประชาชนด้วยการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ซึ่งในปัจจุบัน มีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนกว่า 37,000 ราย มีจำนวนผลิตภัณฑ์มากกว่า 76,000 ผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้จากการจำหน่ายกว่า 70,000 ล้านบาท ต่อปี โดยมีมาตรการที่สำคัญ เช่น ฟื้นฟูศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดอย่างน้อย 75 แห่ง และให้ความสำคัญการบริหารจัดการศูนย์ OTOP ในลักษณะหุ้นส่วนในพื้นที่ การจัดงาน OTOP CITY ในระดับกลุ่มจังหวัดต่างๆ การสนับสนุนการรวมตัวของวิสาหกิจชุมชนเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปขายตามภูมิภาคต่างๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ให้เป็น Provincial Star และหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อให้การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP มีช่องทางการตลาดที่มากขึ้น นอกจากนี้แล้ว รัฐบาลพยายามขยายโอกาสการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนมากขึ้นผ่านโครงการ SML โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมา มีหมู่บ้านที่ได้รับการอนุมัติโครงการและโอนเงินแล้ว 40,006 หมู่บ้าน เป็นเงิน 9,397.35 ล้านบาท และในปีงบประมาณปัจจุบัน สามารถโอนเงินงบประมาณ 9,000 กว่าล้านบาท ให้หมู่บ้าน 39,421 แห่งได้เลย โดยสามารถโอนทันทีในวันนี้ประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนเงินงบประมาณที่เหลือของปีงบประมาณ 2552 อีก 6,000 กว่าล้านบาท จะช่วยดูแลการจัดทำข้อเสนอโครงการให้เรียบร้อยและทันเวลา โดยให้ชุมชนใช้แผนชุมชนที่มีอยู่เป็นแนวทางในการกำหนดโครงการ เป็นต้น เพื่อจะเอื้อประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพของประชาชน ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุนการผลิต เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการทั้ง 3 โครงการให้ประสบผลสำเร็จและเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งรัดดำเนินการอย่างรอบคอบและโปร่งใส ในขณะที่กระทรวงการคลังจะพิจารณาร่วมกับธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนให้เข้ามาสนับสนุนด้านเงินทุนทั้งในรูปแบบของการให้กู้ยืม และการมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งก็จะทำให้โครงการต่าง ๆ มีเม็ดเงินมากขึ้น รวมทั้งการเชื่อมโยงกับโครงการที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพและสุขภาพของชีวิตประชาชนด้วย “ ผมมั่นใจว่า การบูรณาการโครงการต่างๆ อย่างเป็นระบบของรัฐบาล จะทำให้ประชาชนในระดับฐานรากมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสิ่งสำคัญที่สุดคือโครงการเหล่านี้ได้สร้างกระบวนการเรียนรู้ให้แก่สมาชิกในชุมชน ทั้งในด้านการประกอบอาชีพ การบริหารจัดการ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งจะนำไปการมีคุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีขึ้นในที่สุด และในโอกาสหน้า คงจะมีการจัดการประชุมในลักษณะเช่นนี้อีก ซึ่งมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลต้องการเร่งรัด และระดมความเห็นจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งภาคการเกษตร ภาคการลงทุน และภาคอื่นๆ ”

ข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง+หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์วันนี้

ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่ม SM ลดอัตราดอกเบี้ย - ลดเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี

ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 31 ธันวาคม 2568 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขานรับนโยบายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์

ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภั... สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมเปิดงาน MONEY EXPO 2025 BANGKOK — ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... "รมว.คลัง" เยี่ยมชมบูธกรุงไทย "ALIVE อิสระทางการเงินที่ยั่งยืน" ในงาน Money Expo 2025 — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... ธนาคารกรุงไทย ร่วมฉลองครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง เคียงข้างไทยในทุกก้าวสำคัญ — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียร...

ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิ... ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น" มากสุดเป็นประวัติการณ์ — ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น"...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... 19 ปีแห่งความภูมิใจ ปตท. คว้า 6 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น มุ่งดำเนินธุรกิจยั่งยืนอย่างสมดุล — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค...

นายภูวนารถ ณ สงขลา บรรณาธิการบริหาร สำนัก... บางกอกทูเดย์จัดเสวนา "2568 สัญญาณอันตรายรัฐบาล ในสายตากูรูการเมือง" — นายภูวนารถ ณ สงขลา บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ เป็นประธานจัดงานฉลองครบรอบ...