ภาคประชาสังคมเตือนเหลือเวลาเพียง 100 วันก่อนถึงวันประชุมโลกร้อนที่โคเปนเฮเกน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภาคประชาสังคมเรียกร้องรัฐบาลทั่วโลกเร่งหาข้อสรุปข้อตกลงการลดการปล่อยก๊๋าซเรือนกระจก พร้อมเตือนโลกเหลือเวลาอีกเพียง 100 วันเท่านั้นที่จะบรรลุเป้าหมายเพื่อปกป้องประชากรนับพันล้านทั่วโลกและระบบนิเวศให้พ้นจากผลกระทบร้ายแรงของภาวะโลกร้อน วันนี้ ที่หน้าตึกสำนักงานสหประชาชาติ เด็กนักเีรียนชั้นมัธยมต้นจำนวน 100 คนถือร่มหลากสีสันแปรอักษรเป็นคำ่ว่า “Tck Tck Tck” เลียนเสียงร้องเดินเข็มนาฬิกา และคำว่า “ACT NOW!” หรือ “ลงมือทำเดี๋ยวนี้” นอกจากนี้ยังแปรขบวนเป็นรูปนาฬิกา ทั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำประเทศต่างๆ หันมาใส่ใจอนาคตของโลกอย่างจริงจังมากขึ้น นักเรียนกลุ่มนี้มาจากโรงเรียนเทศบาล 1 จังหวัดนครราชสีมา ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทยและยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งสาส์นไปยังการประชุมเจรจาเรื่องการร่างอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ในปลายเดือนหน้า “ได้เวลาแล้วที่ผู้นำประเทศทั้งหลายต้องตีตั๋วเพื่อไปสรุปข้อเจรจาที่โคเปนเฮเกนด้วยตัวเอง เพราะเห็นแล้วว่าที่ผ่านมาแทบไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยและผลการเจรจาที่ออกมาก็น่าผิดหวังมาตลอดทั้งปี,” ดีน่าห์ ฟูเอ็นเตสฟิน่า เจ้าหน้าที่โฆษกโครงการรณรงค์ Tcktcktck กล่าว “เราอยากเห็นผู้นำประเทศทุกคนอยู่ที่โคเปนเฮเกนและแสดงความเป็นผู้นำในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้โดยการร่วมเซ็นข้อตกลงลดการปล่อยก๊าซที่ให้ผลชัดเจน เป็นธรรมและมีเป้าหมายที่มีข้อผูกมัดทางกฎหมายสำหรับประเทศที่มีส่วนในปัญหานี้มากที่สุด” โครงการยังได้เปิดเผยข้อมูล “100 เหตุผลที่เอเชียจำเป็นต้องมีข้อตกลงโลกร้อนที่เป็นธรรม” โดยได้แบ่งผลกระทบโลกร้อนด้านต่างๆ ในภูมิภาคนี้ทั้งในปัจจุบันและที่จะเกิดต่อไปถ้าไม่มีการจัดการปัญหาอย่างจริงจังและเป็นระบบ มีประเด็นเด่นๆ ที่อ้างอิงจากผลการวิจัยในช่วงที่ผ่านมามากมาย อาทิเช่นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแหล่งผลิตพืชผลการเกษตรหลักของโลก และกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายต่อภัยพิบัติที่มาจากโลกร้อนมากที่สุดเช่นกัน โดย 8 ใน 10 ของเมืองหลวงหลักที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมมากที่สุดในโลกนั้นอยู่ในทวีปเอเชียทั้งหมด รวมถึงกรุงเทพฯด้วย ผลการศึกษาหลายฉบับยังแสดงให้เห็นว่าจำนวนพันธุ์สัตว์และพืชที่แปลกและหายากในเอเชียกำลังถูกคุมคามจากภาวะโลกร้อนที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์และการใช้ที่ดิน และครึ่งหนึ่งของความหลากหลายทางชีวภาพในภูมิภาคนี้ตกอยู่ในอันตราย “เหตุผลที่ต้องบรรลุการเจรจาที่โคเปนเฮเกนนั้นมีเป็นร้อย แต่สิ่งที่ขาดไปคือความมุ่งมั่นของฝ่ายการเมืองที่จะสร้างอนาคตคาร์บอนต่ำและความตั้งใจที่จะลดการปล่อยก๊าซ,” ฟูเอ็นเตสฟิน่ากล่าว สมาชิกของทีมรณรงค์ Tcktcktck ซึ่งส่วนใหญ่เป็นองค์กรภาคเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาต่างเรียกร้องผู้นำชาติต่างๆ บรรลุข้อตกลงที่เป็นธรรมและเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งต้องมีประสิทธิภาพในการลดและชะลอผลกระทบโลกร้อนที่มีต่อผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะคนจน ที่ผ่านมาประเทศพัฒนาแล้วประสบความล้มเหลวในการหามาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เด็ดขาด แม้ว่าจะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าผลกระทบโลกร้อนต่อคนและธรรมชาตินั้นรุนแรง “ประเทศพัฒนาแล้วต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อย 40 เปอร์เซ็นต์จากระดับการปล่อยปี 1990 ให้ได้ภายในปี 2020 เพื่อหลีกเลี่ยงความหายนะทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นี่ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่เราต้องทำถ้าไม่อยากเห็นคนเป็นล้านต้องลำบากหรือล้มตาย และการที่จะทำให้สำเร็จนั้น ชาติที่ร่ำรวยต้องให้การช่วยเหลือด้านการเงินและเทคโนโลยีแก่ประเทศยากจนปรับตัวและปรับเปลี่ยนไปสู่สังคมที่พึ่งพาคาร์บอนน้อยลง” ฟูเอ็นเตสฟิน่าสรุปพร้อมทิ้งท้ายว่า “เรามัวเสียเวลาไม่ได้แล้ว เรายังพอมีเวลาที่จะช่วยชีวิตคนให้รอดตายหรือแม้แต่พลิกสถานการณ์ หากเราตั้งใจจริง ณ เวลานี้เรายังเลือกได้ว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่” ข้อมูลเบื้องต้น - ปัจจุบันนี้ สหภาพยุโรปได้ตกลงใจที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 20 จากระดับที่ปล่อยในปี 1990 ภายในปี 2020 และกล่าวว่าจะเพิ่มตัวเลขขึ้นเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ถ้าประเทศอื่นๆยืนยันที่จะทำอย่างเดียวกันหรือออกมาตรการคล้ายกัน - แม้ว่าประชาชนชาวนิวซีแลนด์จะเรียกร้องให้รัฐบาลของตัวเองเลือกตัวเลขที่ 40 เปอร์เซ้นต์ รัฐบาลก็ยังคงยืนยันอยู่ที่ตัวเลข 20 โดยมีข้อแม้ว่าต้องมีการบรรลุข้อตกลงในการเจรจาในเดือนธันวาคมนี้ มิเช่นนั้นจะลดตัวเลขลงเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ถ้าไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง ออสเตรเลียตกลงจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงไปร้อยละ 25 จากระดับปี 1990 ภายในปี 2020 ด้วยเงื่อนไขมากมายไม่ต่างกับนิวซีแลนด์ - รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่าอเมริกาตั้งเป้าลดปริมาณปล่อยก๊าซในปี 2020 ให้เท่ากับที่ปล่อยปี 1990 โดยสภาผู้แทนราษฎรได้ตกลงเห็นชอบผ่านตัวบทกฎหมายที่ตั้งเป้าสูงกว่าเดิมเล็กน้อย และกำลังอยู่ในขบวนการพิจารณาของวุฒิสภา - ญี่ปุ่นได้ประกาศตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงไปร้อยละ 8 ของระดับที่ปล่อยปี 1990 ภายในปี 2020 แต่มีความเป็นไปได้ว่าถ้าพรรคฝ่ายค้านดีพีเจ (Democratic Party of Japan) ชนะผลการเลือกตั้งทั่วไปวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ อาจมีการให้เพิ่มตัวเลขเป็น 25 เปอร์เซ็นต์แทน - ประเทศที่เศรษฐกิจกำลังมาแรงอย่าง จีน อินเดีย บราซิล เม็กซิโก หรือแอฟริกาใต้ยังไม่ได้ประกาศตัวเลขเป้าหมายที่จะลด แต่ได้เผยถึงมาตรการต่างๆ ที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมาแล้ว อินเดียและจีนต้องการให้ประเทศอุตสาหกรรมตกลงที่ตัวเลข 40 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2020 ไม่ใช่ตัวเลขเล็กน้อยที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ - นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าอุณหภูมิเฉลี่ยโลกจะต้องไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงผลกระทบโลกร้อนและคงไว้ซึ่งระบบดำรงชีพของดาวเคราะห์โลก รัฐบาลกว่า 100 ประเทศได้ให้การรับรองอย่างเป็นทางการว่าจะไม่ให้การปล่อยก๊าซทำให้อุณหภูมิสูงกว่านี้เป็นอันขาด อย่างไรก็ตาม แค่ 2 องศาก็เพียงพอแล้วที่จะส่งผลทำลายล้างสมดุลของระบบนิเวศ และทำให้อนาคตของผู้คนกว่า 660 ล้านคนตกอยู่ในอันตราย - รายงานของ Global Humanitarian Forum เผยว่าภาวะโลกร้อนได้ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 1.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศกำลังพัฒนาเป็นผู้รับภาระนี้กว่าร้อยละ 90 - ในช่วงเวลา 20 – 30 ปีที่ผ่านมา ผลผลิตธัญพืชได้ลดลงในหลายพื้นที่ในทวีปเอเชียเนื่องจากความรุนแรงของปัญหาขาดน้ำที่มากขึ้นโดยบางส่วนมีสาเหตุจากภาวะโลกร้อน (ภัยแล้งรุนแรงจากปรากฎการณ์เอล นิโน อากาศที่อุ่นขึ้น และฝนทิ้งช่วง) เกี่ยวกับ Tcktcktck: โครงการรณรงค์ Tcktcktck เป็นการรวมตัวขององค์กรภาคเอกชนที่ไม่แสดงหาผลกำไรด้านต่างๆ เช่น ศาสนา สหภาพการค้า และบุคคลต่างๆ ที่เห็นตรงกันว่าช่วงเวลานี้จำต้องมีการเรียกร้องให้รัฐบาลบรรลุข้อตกลงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อปกป้องโลกจากผลกระทบที่ทำลายความเป็นอยู่และชีวิตมนุษย์ ในขณะที่ผู้นำชาติต่างๆ เตรียมตัวเจรจาเรื่องนี้ที่โคเปนเฮเกนในเดือนธันวาคม ทีมงาน Tcktcktck จะเป็นกระบอกเสียงให้ผู้คนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อว่าข้อตกลงนานาชาติชิ้นใหม่นี้จะเห็นผลชัดเจน เป็นธรรมและมีเป้าหมายที่สะท้อนความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ เวลานั้นใกล้หมดแล้ว คุณสามารถสนับสนุนเราได้โดยการเยี่ยมชม ของเราและเข้าร่วมเป็นสมาชิกที่ www.tcktcktck.org

ข่าวประชุมโลกร้อน+ภาวะโลกร้อนวันนี้

'เวฟ บีซีจี' ผนึก 'พีทีจี เอ็นเนอยี' พลิกนาข้าวลดภาวะโลกร้อน ร่วมพัฒนาเกษตรกรไทย ส่งเสริมโครงการ "ปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง" บนที่นา 500 ไร่ จ.สุพรรณบุรี

ลดการปล่อยก๊าซมีเทนและต่อยอดเป็นคาร์บอนเครดิต หนุนภาคเกษตรกรรมและองค์กรเติบโตยั่งยืน บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (WAVE BCG) ผู้ให้บริการ Climate Solution ครบวงจร เดินหน้าโครงการ Climate พัฒนา "การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง" นวัตกรรมการเกษตรยุคใหม่บนที่นากว่า 3,300 ไร่ มุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมถึงช่วยเพิ่มผลผลิต นำร่องความร่วมมือกับ 'บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี' เปิดโครงการ "ข้าวยั่งยืน ลดมีเทน ด้วยนาเปียกสลับแห้ง" ผนึกกำลังกลุ่มเกษตรกร จ.สุพรรณบุรี

องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ... ภาพข่าว: ประชุมโลกร้อน — องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) สำนักงานภาคพื้นเอเชียและองค์กรภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันจัดกิจกรรม green-Y...

กรีนพีซ - ออกซ์แฟม รณรงค์ "ปกป้องรักษาสภาพภูมิอากาศ ปกป้องรักษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้""ปกป้องรักษาสภาพภูมิอากาศ แก้ไขปัญหาโลกร้อน"

นักกิจกรรมแนวร่วมแห่งอาเซียนเพื่อข้อตกลงที่เป็นธรรม มุ่งมั่นและมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย (Asean for a Fair, Ambitious and Binding Global Climate Deal) หรือเอ-แฟบซึ่ง...

กรีนพีซ อ็อกซ์แฟม WWF เรียกร้องอาเซียนให้ลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศและประชาชนในภูมิภาค ณ การประชุมโลกร้อนที่แคนคูน

กรีนพีซ อ็อกซ์แฟม กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ภายใต้การรวมกลุ่ม A-FAB (ASEAN for a Fair, Ambitious, and Binding global deal) หรือ อาเซียนเพื่อข้อตกลงที่เป็นธรรม มุ่งมั่นและมีผลบังคับ...

กรีนพีซมอบรางวัลแชมป์โลกร้อนให้แก่ผู้นำโลกที่ล้มเหลว

นักกิจกรรมกรีนพีซกว่า 75 คนจากประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์จัดกิจกรรมรณรงค์หน้าสถานฑูตสหรัฐอเมริกาในกรุงเทพฯ โดยมอบรางวัลแชมป์โลกร้อนเพื่อประจานผู้นำโลกที่ล้มเหลวในการประชุมโลกร้อน ณ กรุงโคเปนเฮเกนเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา...

ก.พลังงานแถลงเรื่องการประชุมโลกร้อนที่โคเปนเฮเก้น

ก.พลังงาน ร่วมประชุม สหประชาชาติว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCC) ยัน มาตรการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน และเร่งรัดประหยัดพลังงาน เป็นทางออกที่คุ้มค่าที่สุดในการช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทย เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน มั่นใจการลงทุน...

กรีนพีซ กองทุนวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทย แนวร่วมแห่งโลกเพื่อปกป้องภูมิอากาศ จัดโครงการ “เดินกับช้าง ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง”

ก่อนหน้าการประชุมโลกร้อน ที่กรุงเทพฯ (Bangkok Climate Talk 2009) ในวันที่ 28 กันยายน ถึง 9 ตุลาคมนี้ กรีนพีซ กองทุนวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทย แนวร่วมแห่งโลกเพื่อปกป้องภูมิอากาศ ขอ...

กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดเวทีแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็น เรื่อง ”แบบจำลองสภาพภูมิอากาศอนาคตในลุ่มน้ำบางปะกง”

ในวาระที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุม Bangkok Climate Change Talks 2009 ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ องค์การสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 28 กันยายน-9 ตุลาคม...