กทม. จัดประชุมวิชาการวัคซีนไอพีดีแก่แพทย์ พยาบาลในสังกัด กว่า 400 คน เตรียมรับมือโรคปอดบวม-โรคไอพีดีในเด็ก ยกระดับสุขภาพชาวกทม.

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--กทม.

กทม. จัดประชุมวิชาการแพทย์ และพยาบาลกว่า 400 คน จาก 10 โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร สร้างความรู้เรื่องปอดบวม และโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส รวมทั้งวัคซีนไอพีดี ที่สามารถช่วยป้องกันปอดบวมที่เกิดจากเชื้อนิวโมคอคคัสได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการเตรียมความพร้อมแพทย์ และพยาบาลในการรับมือโรคปอดบวมระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว และหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ เนื่องจากโรคปอดบวมยังคงเป็นโรคร้ายอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตเด็กเล็กทั่วโลกกว่าปีละ 2 ล้านคน นพ.ไกรจักร แก้วนิล รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยระหว่างงานประชุมวิชาการเรื่อง “การฉีดวัคซีนไอพีดีในเด็กกลุ่มเสี่ยงสูง” ซึ่งกรุงเทพมหานครได้จัดขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมี ศ.พญ.อุษา ทิสยากร นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้เชี่ยวชาญระดับ 11 สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และ ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ประธานชมรมโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤตในเด็กแห่งประเทศไทยเป็นวิทยากร การประชุมวิชาการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนข้อมูลของโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส โรคปอดบวม และวัคซีนไอพีดีซึ่งสามารถป้องกันโรคปอดบวมที่เกิดจากเชื้อนิวโมคอคคัส และกลุ่มโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสให้กับแพทย์และพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครกว่า 400 คน จากสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย ทั้งนี้เพื่อเตรียมรับมือโรคปอดบวมที่ระบาดหนักในช่วงปลายฝนต้นหนาว และฤดูหนาวของทุกปี ซึ่งพบว่าเชื้อนิวโมคอคคัสเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคปอดบวมในเด็กมากที่สุด ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรสำหรับการดำเนินงานในโครงการฉีดวัคซีนไอพีดีในเด็กกลุ่มเสี่ยงสูงในพื้นที่กรุงเทพมหานครจำนวน 2,000 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนงานและการสำรวจเด็กใน 4 กลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งประกอบด้วย เด็กเล็กที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เด็กที่มีภาวะลิ้นหัวใจรั่วแต่กำเนิด เด็กที่ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย และเด็กที่คลอดก่อนกำหนดและมีน้ำหนักแรกคลอดไม่ถึง 1,500 กรัม ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจหนึ่งที่สำคัญของกรุงเทพมหานครในการเสริมสร้างสุขภาพดีให้กับประชาชนชาวกรุงเทพฯ ศ.พญ.อุษา ทิสยากร นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่าโรคปอดอักเสบและปอดบวมจากเชื้อนิวโมคอคคัส เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบทั่วโลกในแต่ละปี โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดบวมคือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ถึงแม้ว่าจะเป็นเด็กสุขภาพดีก็ตาม และกลุ่มเสี่ยงสูงได้แก่ เด็กที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นโรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง ซึ่งเชื้อนิวโมคอคคัสเป็นเชื้อที่อาศัยอยู่ในลำคอและโพรงจมูกของคนเรา จากการศึกษาพบว่าในเด็กไทยสามารถพบเชื้อนิวโมคอคคัสในลำคอได้ถึงร้อยละ 35 (หรืออาจพูดได้ว่า ในเด็กเล็ก 10 คน จะมีถึง 4 คนที่มีเชื้อตัวนี้) เชื้อนิวโมคอคคัสสามารถแพร่กระจายได้จากการสัมผัสละอองของน้ำมูก น้ำลายของผู้ที่มีเชื้อดังกล่าว สามารถก่อให้เกิดโรคในระบบต่างๆ ที่สำคัญของร่างกาย เช่น โรคปอดอักเสบ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคหูชั้นกลางอักเสบ (หูน้ำหนวก) ซึ่งหากเด็กเล็กเป็นโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสรุนแรง จะมีโอกาสพิการและเสียชีวิตสูงมาก “การป้องกันโรคอย่างถูกวิธีจะให้ผลประโยชน์คุ้มค่ามากกว่าการดูแลรักษาหลายเท่า ประกอบด้วยการเลี้ยงทารกด้วยนมแม่ การรับประทานอาหารให้ครบหมู่ การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ การสร้างสุขอนามัยด้วยการล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการพาทารกและเด็กเล็กไปในสถานที่แออัด เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ เป็นต้น และที่สำคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ถือเป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากในปัจจุบัน” ศ.พญ.อุษา กล่าว สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร+โรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสวันนี้

SAPPE ร่วมกับสมาคมเครื่องดื่มไทยฯ มอบผลิตภัณฑ์แก่ กทม. เพื่อส่งต่อให้บุคลากรทางการแพทย์

นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ (ขวา) รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย จัดโครงการ 'แบ่งปันน้ำใจ เพื่อสังคมไทยน่าอยู่' ร่วมส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมวิตามิน 'บลู' จำนวน 300 ลัง มูลค่ารวม 144,000 บาท ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสื่อกลางในการรับบริจาคสิ่งของ นำไปส่งต่อให้บุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรในด่านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครและโรงพยาบาลสนาม โดยมี พล.ต.อ

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเ... มูลนิธิโอสถสภามอบรถเข็นความดันลบ ร่วมเป็นพลังสู้โควิด-19 — พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ที่ 3 จากซ้าย) รับมอบรถเข็นความดันลบสำหรับใช...

นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักกา... ดำเนินมาตรการเชิงรุกคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง — นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. เปิดเผยถึงมาต...

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเ... ลดความแออัดใน รพ.สังกัด กทม. - เตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหากโรคโควิด-19 ระบาดระลอก 2 — พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงมาตรกา...

ภาพข่าว: เขตลาดกระบัง ซ้อมแผนฉุกเฉินอุบัติภัยระดับ 2

นายเชาวฤทธิ์ ทรงนวรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง นำเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินอุบัติภัยระดับ 2 กรณี เพลิงไหม้และสารเคมีรั่วไหล ที่บริษัท แอนเซล (ประเทศไทย) จำกัดในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โดยความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชน...

วันนี้ - 21 พ.ค. 53 รพ.กทม. 9 แห่ง ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

รายงานข่าวจากกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 21 พ.ค. 53 โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 แห่ง ยังคงเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยตามปกติ สำหรับศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 68 แห่ง เปิดบริการครึ่งวันเช้า ยกเว้น...

กทม. พร้อมให้ทามิฟลูดูแลผู้ป่วยไข้หวัด 2009

นายแพทย์ไกรจักร แก้วนิล รองปลัดกรุงเทพมหานคร ประชุมระดมสมองผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 4 แห่ง คือ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาล...

โรงพยาบาลสังกัดกทม. ผ่านการรับรองมาตรฐาน HA เพิ่มอีก 4 แห่ง

นายสิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว พบกันจันทร์ละหน คนกับข่าวเรื่อง โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครได้รับมาตรฐาน HA โดยมี ศ.พิเศษ มานิต ศรีประโมทย์ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วม...

เร่งปรับมาตรฐานโรงพยาบาลในสังกัดกทม.เทียบเท่ามาตรฐานสากล

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดงานวันครบรอบ 109 ปี แห่งการสถาปนาโรงพยาบาลกลาง ว่า กรุงเทพมหานครมีนโยบายด้านสาธารณสุขที่มุ่งเน้นให้ความรู้ ส่งเสริมให้ประชาชนสามารถดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้...