บทวิจัยแนวโน้มตลาดทองคำ ประจำวันที่ 19-26มิ.ย. 52 โดย YLG Bullion International

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น

ราคาทองคำในช่วงต้นของสัปดาห์ปรับตัวลดลง หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากจากเศรษฐกิจยูโรโซนที่ยังไม่ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับสหรัฐและหรือเอเชีย ทำให้ค่าเงินยูโรร่วงรุนแรง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นยังออกมายืนยันถึงความสำคัญของดอลลาร์และยังต้องการถือครองพันธบัตรสหรัฐไม่เปลี่ยนแปลง โดยก่อนหน้านี้ดอลลาร์ได้ถูกสั่นคลอนจาก BRICs ในการลดพอร์ตพันธบัตรสหรัฐแล้วจะไปถือพันธบัตร IMF แทน สำหรับราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลงอย่างต่อเนื่องหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและความกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่า ภาคการผลิตสินค้าตกต่ำลงไปอีกในรัฐนิวยอร์ก ส่งผลลบต่อราคาทองคำอีกทางหนึ่งด้วย ราคาทองคำในช่วงกลางของสัปดาห์กลับมาปิดเพิ่มขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาอ่อนค่าลง หลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด รวมทั้งเศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวมากขึ้นและทำให้ค่าเงินยูโรขยับขึ้นด้วย นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันเพิ่มเติมจาก BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน) ที่พยายามหันไปลงทุนในพันธบัตรของชาติสมาชิกมากขึ้น โดยการลดการถือครองพันธบัตรของสหรัฐลง ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นจากเหตุความไม่สงบในชาติผู้ผลิตสำคัญทั้งอิหร่านและไนจีเรีย ส่งผลให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นด้วย รวมทั้งการที่ S&P ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ รวมทั้งทบทวนปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารสหรัฐ 22 แห่ง หลังอาจขาดทุนมากขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อ แม้การเพิ่มทุนล่าสุดจะช่วยให้ทางธนาคารสามารถชดเชยผลขาดทุนดังกล่าวได้ ขณะที่การทดสอบภาวะวิกฤติบ่งชี้ว่าภาคธนาคารจะเผชิญปัญหามากขึ้นในอนาคตและอาจขาดทุนมากขึ้นสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ในตอนนี้ แต่ S&P ยังระบุด้วยว่า อันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของสหรัฐอาจจะไม่เผชิญกับแรงกดดันในระยะใกล้นี้ ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้นักลงทุนหันมาสู่ทองคำกันมากขึ้น ราคาจึงขยับเพิ่มขึ้นอีก สำหรับช่วงปลายของสัปดาห์ ราคาทองคำขยับปิดลงเล็กน้อยจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังอังกฤษกำลังจะเปลี่ยนแปลงคำนิยามของ LIBOR ซึ่งอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนในการลงทุนในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง การระบายสัญญาของกองทุน เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณเงินเฟ้อในระยะสั้น ซึ่งจะนำไปสู่การอ่อนตัวลงของราคาทองต่อไป นอกจากนี้ ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัฐมนตรีน้ำมันแองโกลากล่าวว่า โอเปกไม่จำเป็นต้องปรับลดการผลิตลงไปอีกในปี 2009 ถ้าหากราคาน้ำมันยังคงทรงตัวที่ระดับปัจจุบัน ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ำมันยังคงไม่แข็งแกร่งพอที่จะรองรับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในระยะนี้ ในขณะที่ตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้นักลงทุนควรเฝ้าติดตามการประชุมของ FED ในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังตลาดขาดความเชื่อมั่น สำหรับการถือครองทองคำของกองทุนทองคำ ETF ของ SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,132.15 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.41 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.4 ล้านออนซ์ ซึ่งการถือครองทองคำของกองทุน ETF ถือเป็นมุมมองที่สำคัญของนักลงทุนและ นักลงทุนบ้านเราควรให้ความสำคัญกับปัจจัยนี้เวลาตัดสินใจลงทุนด้วย การที่ราคาทองคำในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงมามากถึง $64 แต่ทว่าการปริมาณการถือทองคำของกองทุนทองคำ ETF ของ SPDR Gold Trust มิได้ปรับตัวลงสอดคล้องกับราคาทองคำ ทำให้ดูได้ว่าการปรับตัวดังกล่าวคงจะรักษาทิศทางเดิมไว้ได้ไม่นาน เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากการขายออกของนักลงทุน และทำให้ดูได้ว่าการปรับตัวลงของทองคำในช่วงนี้เป็นผลพวงโดยตรงจากการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ และนักลงทุนยังคงมั่นใจในราคาทองคำในระยะกลางและระยะยาว ราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะเจอกับความผันผวนที่น้อยลง เนื่องจากช่วงที่ราคาปรับฐานดูเหมือนจะสิ้นสุดลง แนวรับที่ 927 จะเป็นแนวรับทางเทคนิคที่สำคัญและคาดว่าราคาจะสามารถยืนอยู่เหนือระดับนี้ได้ ทว่าหากราคาปรับตัวต่ำกว่า 927 แนวรับต่อไปของสัปดาห์หน้าจะอยู่ที่ระดับ 912 ทองคำระยะสั้นและระยะกลางดูเป็นตลาด Sideways และราคาจะเคลื่อนตัวขึ้นลงระหว่างแนวรับแนวต้านที่ 927 และ 942 หากสามารถยืนเหนือ 942 ได้เป้าราคาต่อไปจะเป็นที่ระดับ 960 และจะมองว่าการปรับฐานได้สิ้นสุดลงและทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อ หมายเหตุ ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจการลงทุนเกี่ยวกับทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส์ ติดต่อโทร 02-287-1155 หรือ www.ylgbullion.com

ข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง+กระทรวงการคลังญี่ปุ่นวันนี้

รมว. คลัง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ก.ล.ต.

นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แก่ นายอนันต์ แก้วกำเนิด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน นายชาญชัย ชัยประสิทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และนายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายอนันต์ แก้วกำเนิด จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันดำรงตำ

ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภั... สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมเปิดงาน MONEY EXPO 2025 BANGKOK — ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... "รมว.คลัง" เยี่ยมชมบูธกรุงไทย "ALIVE อิสระทางการเงินที่ยั่งยืน" ในงาน Money Expo 2025 — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... ธนาคารกรุงไทย ร่วมฉลองครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง เคียงข้างไทยในทุกก้าวสำคัญ — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียร...

ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิ... ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น" มากสุดเป็นประวัติการณ์ — ออมสิน ท็อปฟอร์ม! คว้า 7 รางวัลรัฐวิสาหกิจ ปี 2567 "ระดับดีเด่น"...

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐม... 19 ปีแห่งความภูมิใจ ปตท. คว้า 6 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น มุ่งดำเนินธุรกิจยั่งยืนอย่างสมดุล — นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค...