ชุมชนพอเพียงทำทีมเบญจภาคีกว่า 500 ชีวิต ลงสนามเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียงแบบบูรณาการ ที่ จ.ชุมพร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--โครงการชุมชนพอเพียง

พร้อมร่วมกันประกาศปฏิญญาขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางสำหรับเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โครงการชุมชนพอเพียง เดินหน้าขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจริง ระดมตัวแทนเบญจภาคีและเครือข่ายต่างๆ กว่า 500 ชีวิตร่วมศึกษาแนวทางการดำเนินโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ ภายใต้โครงการ “ฟื้นฟูทะเลไทยจากภูผาสู่มหานทีด้วยพลังเบญจภาคี” กรณีพื้นที่ลุ่มน้ำจังหวัดชุมพร ที่ได้รับความสำเร็จมาแล้ว เพื่อให้เห็นภาพรวมของการบูรณาการ การดำเนินงานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จากลุ่มน้ำสู่มหานที ให้เป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน พร้อมเผยเคล็ดลับความสำเร็จอยู่ที่ชุมชน ภาคี ไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล ย้ำหัวใจภาคีอยู่ที่ความสามัคคี ดร.สุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชุมชนพอเพียง เปิดเผยว่า จังหวัดชุมพรมีการรวมตัวกันในลักษณะเบญจภาคีที่ประกอบด้วย ราชการ วิชาการ ประชาชน ธุรกิจ และองค์กรพัฒนาเอกชนและสื่อ เชื่อมโยงเครือข่ายกันเป็นระบบลุ่มน้ำ ตั้งแต่สังคมคนป่าต้นน้ำ คนกลางน้ำ คนปลายน้ำและคนที่อยู่กับท้องทะเล กลายเป็นสังคมคนทั้งลุ่มน้ำใช้ชื่อว่า เครือข่ายจากภูผาสู่มหานที ผสานกันเข้าจนเป็นเนื้อเดียวกันเป็นเครือข่ายภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งที่สุดในประเทศ มีการทำหน้าที่ร่วมกัน ขับเคลื่อนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ เศรษฐกิจพอเพียง ธนาคารต้นไม้ การท่องเที่ยวโดยชุมชน การอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทะเล เครือข่ายดังกล่าวประสบความสำเร็จในการจัดการกลุ่มร่วมกันโดยผนวกเอาประเด็นเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน และมีการสื่อสารออกไปจนเป็นที่ประจักษ์ในความเชื่อมโยงกันของเครือข่าย จากคนป่าต้นน้ำที่อำเภอพะโต๊ะ คนกลางน้ำที่ตำบลวังตะกอ สวนลุงนิล และคนปลายน้ำที่ป่าชายเลนทุ่งคาสวี ไปจนถึงคนที่อยู่กับทะเลอย่างเกาะพิทักษ์และชุมพรคาบาน่า รวมถึงชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดชุมพร “ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการร่วมมือกันของพลังเบญจภาคี ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ชุมชนอื่นๆ โครงการชุมชนพอเพียง จึงได้เชิญตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ 52 ศูนย์ กับธนาคารต้นไม้ 400 สาขาทั่วประเทศ เครือข่ายจากภูผาสู่มหานที และเบญจภาคีต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ จ.ชุมพร ภาคีภาควิชาการ ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและสื่อ ตลอดจนเครือข่ายเบญจภาคี จ.ชุมพร เป็นแนวร่วมสำคัญ ทั้งนี้เพื่อให้ตัวแทนได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนทัศนะ อีกทั้งยังช่วยกันหาแนวทางในการบริหารจัดการโครงการของแต่ละชุมชน เพื่อให้การดำเนินโครงการของแต่ละชุมชน ประสบความสำเร็จและมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องยั่งยืน” ดร.สุมิท กล่าว ทั้งนี้เครือข่ายจากภูผาสู่มหานที ได้ทดลองฟื้นฟูทะเลไทยด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์เมื่อต้นปี 2552 โดยใช้จุลินทรีย์ก้อนไปฝังไว้ใต้ท้องทะเลที่อ่าวครก อ.หลังสวน จ.ชุมพร ผลที่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ท้องทะเลที่เสื่อมโทรมสามารถฟื้นฟูให้กลับคืนสภาพได้ด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์ อันเป็นองค์ความรู้ของเครือข่าย ทางเครือข่ายจึงใช้แนวทางการทำกิจกรรมของสังคมที่ผูกสัมพันธ์กัน สำหรับกิจกรรม จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 – 21 มิถุนายน ที่จ.ชุมพร ในรูปแบบของการอภิปราย แลกเปลี่ยนความรู้ และปฏิบัติจริง กับชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง การศึกษาวิถีชีวิตของชาวบ้าน (การนอนโฮมสเตย์) พร้อมการลงมือปฏิบัติภารกิจต่างๆ ทั้งการฟื้นฟูต้นน้ำ การบำบัดน้ำ การปฏิบัติการฟื้นฟูทะเลไทย นอกจากนั้นยังมีการร่วมเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ นำโดย อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และแกนนำเครือข่ายจากภูผาสู่มหานที ตลอดจนร่วมกันการประกาศปฏิญญาขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวทางสำหรับเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป “รัฐบาลเห็นความสำเร็จและความเป็นไปได้ ก็พยายามจะให้เกิดการทำงานในลักษณะเบญจภาคีขึ้นโดยหวังจะให้มีความสำเร็จทั่วทั้งประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำแบบเดียวกันนี้ได้ทุกพื้นที่ แต่นี่คือหัวใจสำคัญและเป็นฐานคิดหลักในการร่วมกันขับเคลื่อนปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงให้สำเร็จและเห็นเป็นรูปธรรม ดร.สุมิท กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาจุดอ่อนของการขับเคลื่อนแนวคิดปรัชญาพอเพียงคือแยกกันทำ การแยกกันทำแบบไม่ได้ร่วมแรงร่วมใจทำให้เกิดความอ่อนแอ พลังในการขับเคลื่อนไม่เกิด และการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการทำงานในลักษณะเบญจภาคี ให้เป็นภาพรวมของการบูรณาการนั้น ก็มีจุดมุ่งหมายคือต้องการให้เกิดความสามัคคี ความร่วมมือขององค์กรต่างๆ ซึ่งถือเป็นการพลิกมิติการทำงานแนวใหม่ โดยมีการนำภาคีต่างๆ มารวมพลังในการทำงาน ซึ่งแต่ละจังหวัดอาจไม่จำเป็นต้องทำงานหรือขับเคลื่อนแนวคิดปรัชญาพอเพียงแบบจังหวัดชุมพรก็ได้ เพราะแต่ละจังหวัดมีเอกลักษณ์ มีความหลากหลาย “การขับเคลื่อนแนวคิดปรัญญาเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนนั้น แต่ละพื้นที่ต้องดูความเหมาะสมของตัวเองเป็นหลัก และ ลักษณะการทำงานแบบภาคีไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบใดแบบหนึ่งที่ตายตัว ขอเพียงแต่มีการร่วมมือกันของทุกฝ่ายและทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมและอยู่บนพื้นฐานของการมีชีวิตที่มีความสุข พออยู่พอกินตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อนั้นการขับเคลื่อนก็จะเดินหน้าไปอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน” ดร.สุมิทกล่าวสรุป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2629-9226 [email protected] สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง+ขับเคลื่อนเศรษฐกิจวันนี้

เปิดตัว 15 นักธุรกิจ พอแล้วดี The Creator "ดีพอและพอดี" ในงานพอแล้วดี XP 2568 นำศาสตร์พระราชามาพัฒนานักธุรกิจที่สร้างสรรค์ยั่งยืนและพร้อมก้าวต่อไปในระดับนานาชาติในปี 2569

พอแล้วดี The Creator โครงการที่พัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่ ภายใต้ "ความพอดีที่ดีพอ" ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy SEP) ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ควบคู่ไปกับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) จัดงาน "พอแล้วดี XP 2568" พร้อมแถลงข่าวความสำเร็จของการคัดสรรและพัฒนา 15 นักธุรกิจ ในโครงการพอแล้วดี The Creator รุ่นที่ ๙.๑ ปี ๒๕๖๘ จากทั่วประเทศ พร้อมเล่าเรื่องราวกิจกรรมอื่นๆในปีที่ผ่านมา อาทิ การจัดงานพอแล้วดี XP ใน

ทั้ง คน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สะท... ทรู คอร์ปอเรชั่น ผ่านการรับรองมาตรฐานภาคอุตสาหกรรม มอก.9999 ด้วย 4 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง — ทั้ง คน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สะท้อนองค์กรดิจิทัลต้นแบบ...

กระทรวงแรงงานจัดงานใหญ่ พิธีมอบประกาศเกีย... TCMC รับมอบรางวัลจากกระทรวงแรงงาน — กระทรวงแรงงานจัดงานใหญ่ พิธีมอบประกาศเกียรติคุณสถานประกอบกิจการ และรัฐวิสาหกิจต้นแบบแรงงานพันธุ์ดี ตามวิถีเศรษฐกิจพอ...

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพ... กคช. จัด OPEN HOUSE เปิดบ้าน "บมจ.เคหะสุขประชา" — นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดบ้าน OPEN HOUSE...