ยอดขายยาคุมฉุกเฉินพุ่งในกลุ่มวัยรุ่นขอนแก่น

25 Jan 2010

กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--ดีเคที เฮลธ์แคร์

ชมรมร้านขายยาจังหวัดขอนแก่น จับมือ ดีเคที เฮลธ์แคร์และมาซาแล็บ ให้ความรู้แก่ประชาชนในการคุมกำเนิดที่ถูกต้องเพื่อลดปัญหาสังคม ระบุแนวโน้มการใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินพุ่งในกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะร้านขายยาใกล้สถานศึกษา เนื่องจากมีหอพักและสถานบันเทิงเป็นจำนวนมาก

เภสัชกร ประสิทธิ์ วงศ์นิจศีล ประธานชมรมร้านขายยาจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยในงาน การประชุมวิชาการชมรมร้านขายยาจังหวัดขอนแก่น ซึ่งจัดโดย ชมรมร้านขายยาจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ บริษัท ดีเคที เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท มาซาแล็บ จำกัด ณ โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น ว่า วัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ร้านขายยาในจังหวัดขอนแก่นได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ชาวขอนแก่นได้รับรู้ถึงวิธีการรับประทานยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง เพื่อลดปัญหาการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ รวมถึงปัญหาการทำแท้งและอันตรายจากการใช้ยาคุมกำเนิดที่ไม่ถูกต้อง

“สำหรับปริมาณการใช้ยาคุมกำเนิดในจังหวัดขอนแก่น มีแนวโน้มการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากจังหวัดขอนแก่นถือเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาของภาคอีสานซึ่งมีสถานศึกษาและหอพักเป็นจำนวนมาก จึงมีวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่มีการจับคู่ทดลองอยู่ด้วยกันขณะกำลังศึกษา ส่งผลให้ร้านขายยาบริเวณรอบๆ สถานศึกษา มียอดขายยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินยังหาซื้อได้ง่าย วิธีการทานไม่ยุ่งยากและมีราคาถูกเพียงกล่องละ 35-45 บาท เท่านั้น โดยอายุเฉลี่ยที่น้อยที่สุดของผู้ที่ซื้อยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินที่พบ คือ มีตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่นชั้นมัธยมต้น ไปจนถึงระดับอุดมศึกษา จึงถือเป็นปัญหาสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขเยียวยาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้สำหรับผู้ที่นิยมทานยาคุมเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผงส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานที่มีรายได้ประจำและผู้ที่มีครอบครัวแล้ว โดยยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผงมีราคาเริ่มต้นที่ 15 บาท ไปจนถึงเกือบ 500 บาท ซึ่งราคาและสรรพคุณของยาล้วนแล้วแต่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ทั้งสิ้น เพราะปัจจุบันมีการรับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อความสวยงามเช่น การบำรุงผิวพรรณ ลดสิว ลดความอ้วน เป็นต้น

เภสัชกร ประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของชมรมร้านขายยาจังหวัดขอนแก่นเอง ได้มีการให้ความรู้เภสัชกรหรือผู้ประกอบการร้านขายยาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคทุกกลุ่มในการเลือกใช้ยาคุมกำเนิดที่เหมาะสม เพื่อลดปัญหาทางสุขภาพและปัญหาทางสังคมต่อไป

ด้านนาวาเอก แพทย์หญิง สุนี ไมตรีสถิต สูตินรีแพทย์ ด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เปิดเผยในงานเสวนา “บทบาทร้านยากับการคุมกำเนิดในจังหวัดขอนแก่น” ว่า ปัจจุบันร้านขายยาเข้ามามีบทบาทในการคุมกำเนิดมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการหรือเภสัชกรประจำร้าน จะต้องเป็นผู้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภคโดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งยังมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ยาคุมกำเนิดน้อยมาก ในขณะที่พฤติกรรมความเสี่ยงของวัยรุ่นในการมีเพศสัมพันธ์หรือภัยทางเพศเป็นปัญหาที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้เด็กวัยรุ่นหันมาใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินแทนการใช้ยาคุมกำเนิดตามปกติ ทั้งๆ ที่ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินน้อยกว่า ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก อาจส่งผลให้ตกเลือดและแท้งเป็นอันตรายได้

"ในส่วนของร้านยา ซึ่งเป็นสถานบริการสุขภาพที่กลุ่มผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการได้โดยง่ายสะดวกรวดเร็ว ดังนั้นเภสัชกรประจำร้านยาจึงมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาที่เหมาะสมและให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อให้ความรู้ก่อนการตัดสินใจใช้ยาแก่ผู้รับบริการทุกครั้ง”

อนึ่ง บริษัท ดีเคที เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายเวชภัณฑ์ยาคุมกำเนิดคุณภาพระดับสูงภายใต้แบรนด์ “บี-เลดี้ และ “ไมโครเลนิน” มีความปรารถนาที่ต้องการเห็นชาวขอนแก่นและคนไทย มีสุขภาพการเจริญพันธุ์ที่ดี โดยการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องผ่านสื่อแขนงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการวางแผนครอบครัวและชีวิตคู่ ต่อไป

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net