สสปน. หนุนรัฐบาลปูทางไทยเจ้าภาพ “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ” มั่นใจไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางการจัดงานระดับโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--สสปน.

สสปน. ประกาศจุดยืน ขอเป็นหนึ่งในองค์กรสนับสนุนภาครัฐ ขึ้นแท่นผู้นำการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าระดับโลก เดินเครื่องเสนอประเทศไทยเป็นเจ้าภาพงาน “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020” ชูจุดขายการเป็นมืออาชีพและศักยภาพการจัดงานระดับโลกของไทยสู้ศึกตลาดไมซ์ต่างประเทศ มั่นใจประเทศได้ประโยชน์เต็มที่ นางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยถึงการจัดงาน The World Exposition Shanghai China 2010 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม 2553 โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายในการจัดทำในรูปแบบของอาคารศาลาไทย (Thailand Pavilion) ภายใต้แนวคิด ”Thainess: Sustainable Ways of Life : ความเป็นไทย วิถีแห่งความยั่งยืนของชีวิต” ว่า งาน World Expo ถือเป็นงานระดับโลกที่มีความสำคัญ ในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศสู่สายตานานาประเทศ และ เป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพของประเทศไทยให้ชาวโลกได้เห็นซึ่งจะสามารถขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยในอนาคต จากที่กระทรวงฯ ได้รับมอบหมายให้ดูแลและดำเนินการอาคารศาลาไทยครั้งนี้ นับว่ามีประโยชน์อย่างมากในแง่ของตัวอย่างกรณีการศึกษาการจัดงานสำหรับประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลกนี้ โดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน การอำนวยความสะดวกการเข้าร่วมงาน การจัดสรรและเลือกพื้นที่การจัดงานงาน บุคลากร การประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนในประเทศตื่นตัวและมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพ ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างงาน และการพัฒนาประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอหากได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและงานแสดงสินค้านานาชาติในภูมิภาคเอเชียต่อไป ด้าน นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)หรือสสปน.(TCEB) เปิดเผยว่างาน World Expo ถือเป็นงานระดับโลกที่มีความสำคัญ ในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศสู่สายตานานาประเทศ ซึ่งส่งผลดีทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว และการลงทุนให้กับประเทศในอนาคต ดังนั้น สสปน. จึงได้ร่วมเป็นหนึ่งในองค์กรสนับสนุนภาครัฐในการนำงานระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนภาครัฐในด้านการศึกษาข้อมูลและผลการวิเคราะห์โครงการ นำเสนอรายงานต่อรัฐบาล รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Expo ในปี 2020 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Creative Economy ของรัฐบาลที่เน้นนำจุดเด่นของประเทศไทย เช่น วัฒนธรรมประเพณี พื้นฐานนิสัยใจคอของคนไทยมาเป็นจุดขายให้เหนือคู่แข่งขันอย่าง ฮ่องกง สิงคโปร์ “การที่สสปน.ต้องการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐผลักดันประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Expo ในปี 2020 ถือเป็นกลยุทธ์การทำการตลาดเชิงรุก และการวางแผนระยะยาว เพื่อมุ่งต่อยอดการนำงานระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องนำไปสู่โอกาสที่ประเทศไทยสามารถสร้างชื่อเสียง รายได้ และประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลในระยะยาว จากการดึงกลุ่มองค์กรจากทั่วโลกที่มีกำลังซื้อสูงและต่อเนื่อง ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 50 % ของตลาดไมซ์ให้เข้ามาจัดงานธุรกิจ (Business Events) ในประเทศไทย เพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพและจุดขายที่ชัดเจนในการเป็นมืออาชีพในการจัดงานประชุมระดับโลก หากแต่ยังไม่เป็นที่รับรู้อย่างเพียงพอและกว้างขวาง และถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ให้ทั่วโลกยอมรับ” นายอรรคพล กล่าว โดยในเบื้องต้น สสปน. ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดอุตสาหกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนา การจัดนิทรรศการและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (ไมซ์) มีหน้าที่สำคัญในการศึกษาความเป็นไปได้ เตรียมข้อมูลในด้านการวางแผน การเตรียมตัวด้านการจัดการ การเสนอพื้นที่ที่เหมาะสมต่อพื้นที่จัดงานงบประมาณในการจัดงาน ตลอดจนวิเคราะห์ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมของประเทศเป็นสำคัญ รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ความเจริญของเมือง หรือ Hosted City ที่จะได้รับ โดยคาดว่าจะจะสามารถทำการศึกษาโครงการดังกล่าวและยื่นประมูลให้แล้วเสร็จพร้อมโครงการฉบับสมบูรณ์ภายในปี 2020 อย่างไรก็ตาม สสปน.จะนำเสนอรายงานแก่รัฐบาลเพื่อตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการประมูลสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo ในปี 2020 หากรัฐบาลตอบรับ สสปน. พร้อมที่จะทำงานทั้งในบทบาทของที่ปรึกษาให้คำแนะนำ แก่คณะทำงานในการดำเนินงาน หรือ ในฐานะร่วมเป็นเจ้าภาพเพื่อเตรียมพร้อมสู่กระบวนการประมูลสิทธิ์ที่ต้องไปแข่งขันกับประเทศต่างๆ จากทั่วโลก

ข่าวกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์+พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์วันนี้

สธ.ยกระดับสถานประกอบการด้านอาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ผ่านมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร "SAN"และ "SAN Plus" "สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน" กว่า 436 แห่ง

นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดมหกรรมสถานประกอบการด้านอาหารเมืองร้อยเอ็ด : กินดี อยู่ดี ด้วยมาตรฐาน SAN และ SAN Plus ภายใต้โครงการการพัฒนายกระดับสถานประกอบการด้านอาหารให้ได้มาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร "SAN" และ "SAN Plus" จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมเป็นเกียรติ พร้อมด้วย นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย นาย

เริ่มแล้ว เวที "สานพลัง ปี 2568" รวมพลังภาคีสร้างเสริมสุขภาพทั่วประเทศ สร้างระบบสุขภาพใหม่ จากฐานรากสู่ชุมชนจัดการสุขภาวะตนเองอย่างยั่งยืน สสส.

ภาคีเครือข่าย 3,658 ชุมชนท้องถิ่น ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สภาพัฒน์ เปิดเวที "สานพลัง สร้างนวัตกรรม สู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน" ยกระดับน...

การเคหะแห่งชาติ เปิดเกมรุก อัดแคมเปญแรง "... การเคหะแห่งชาติรุกอัดแคมเปญ "ฉลองครึ่งปีทองกับการเคหะแห่งชาติ 2568" — การเคหะแห่งชาติ เปิดเกมรุก อัดแคมเปญแรง "ฉลองครึ่งปีทองกับการเคหะแห่งชาติ 2568" ชูดอ...