บทวิเคราะห์ mai จากสถาบันวิจัยนครหลวงไทย 6 พ.ย. 2552

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--ตลท.

TNDT - การเร่งรับงานของผู้ว่าจ้างเพื่อให้ทันก่อนปิดงบปี 2552 และการได้รับสิทธิทางภาษีจาก BOI ช่วยหนุนให้ผลประกอบการของ TNDT ใน 3Q/52 เติบโตสูงถึง 19% yoy และ SCRI ประเมินภาพรวมของกำไรสุทธิใน Q4/52 ที่คาดจะขยายตัวกว่า 65% yoy จะทำให้กำไรสุทธิปี 2552 ยังเป็นไปตามคาดการณ์ที่ 63 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2553 แม้อาจมีปัจจัยกระทบระยะสั้นจากการปิด 76 โรงงานในมาบตะพุด อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง คาดจะทำให้ยังมีทางออกที่ช่วยหนุนให้อุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีในประเทศไทยยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับ TNDT มีงานในมือสูงกว่า 288 ล้านบาท ที่รอรับรู้ไปจนถึงปี 2555 และการขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศมากขึ้นผ่านการสนับสนุนของพันธมิตรต่างประเทศ อาทิ KIEC และ Oceaneering จะช่วยผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2553-2555 เติบโตเฉลี่ย 12% CAGR นอกจากนี้ ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งจากการเป็นบริษัทที่เกือบไม่มีหนี้สิน ทำให้สามารถจ่ายเงินปันสม่ำเสมอในอัตราไม่ต่ำกว่าปีละ 6% SCRI คงคำแนะนำ “ซื้อ” 5.20 บาท/หุ้น การเร่งรับงานของผู้ว่าจ้างและผลบวกด้านภาษี ส่งผลให้กำไรสุทธิใน Q3/52 ปรับตัวขึ้น 19% yoy: การเร่งรับงานของผู้ว่าจ้างเพื่อให้ทันปิดงานภายในสิ้นปี จากมูลค่างานในมือ ณ สิ้น Q2/52 ที่อยู่สูงกว่า 462 ล้านบาท (โดยคาดจะรับรู้รายได้ในปี 2552 เท่ากับ 174.5 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 288 ล้านบาท จะรับรู้ในช่วงปี 2553-55) ช่วยหนุนให้รายได้ใน Q3/52 ปรับเพิ่มขึ้น 15% yoy เป็น 74 ล้านบาท โดยปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยเพิ่มรายได้/หัวของพนักงานให้ขยับสูงขึ้น และทำให้บริษัทมีต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง จนทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทสามารถขยายตัวได้จาก 32% ใน Q2/52 เป็น 33% แต่ลดลงจาก 36.1% ใน Q3/51 เนื่องจากสภาพการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ TNDT ยังสามารถใช้ประโยชน์จากการได้รับสิทธิบัตร BOI ในการการยกเว้นภาษีนิติฯเป็นเวลา 8 ปี ปัจจัยดังกล่าว ช่วยหนุนให้กำไรสุทธิใน Q3/52 เติบโตจาก 14.3 ล้านบาทใน Q3/51 เป็น 17 ล้านบาท ประเมินกำไรใน Q4/52 ยังขยายตัวโดดเด่น เพราะไม่ดัได้รับผลกระทบจากประเด็นปิด 76 โรงงานที่มาบตะพุด ผลักดันให้กำไรปี 2552 เติบโต 24% yoy ตามคาด: การเร่งปิดงานเพื่อให้ทันงวดสิ้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับรู้รายได้จากงานตรวจสอบเชิงวิศวกรรม หรือ NDT (Non-Destructive Testing) อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งยังมีสัดส่วนที่สูงกว่า 80% ประกอบกับ การใช้สิทธิจากสิทธิบัตร BOI ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ทิศทางของกำไรใน Q4/52 ในเบื้องต้นคาดจะปรับขึ้น 65% yoy เป็น 24.8 ล้านบาท และทำให้กำไรสุทธิปี 2552 ยังอยู่ในประมาณการที่ SCRI คาดที่ 63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% yoy ธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีที่ยังมีการขยายตัว ประกอบกับการกระจายความเสี่ยงของงานไปยังต่างประเทศมากขึ้น หนุนกำไรสุทธิปี 2553-2555 เติบโต 12% CAGR: แม้ปัจจุบันบริษัทยังมีงานในมือรอรับรู้ในปี 2553 ในระดับสูงกว่า 233 ล้านบาท แต่การระงับงานก่อสร้าง 76 โครงการในมาบตะพุด อาจกระทบความสามารถในการรับงานใหม่ของบริษัทในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาเพื่อหาข้อสรุปที่ไม่กระทบต่อคำสั่งของศาลปกครอง คาดจะทำให้การลงทุนในอุตสาหกรรมธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีของประเทศไทยยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง อีกทั้ง TNDT มีการเตรียมความพร้อมของบุคลาการอย่างสม่ำเสมอ คาดจะทำบริษัทสามารถรับงาน NDT ที่มีอยู่ในระบบเบื้องต้นต่อปีสูงกว่า 1,000 ล้านบาท ได้เพิ่มมากขึ้นและหนุนในมือยังขยายตัวสม่ำเสมอไม่ต่ำกว่าปีละ 300 ล้านบาท นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนงานต่างประเทศ อาทิ ในประเทศเวียดนาม จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียง 1% เป็น 5% ของยอดขายรวมภายในปี 2555 ผ่านการสนับสนุนของพันธมิตรต่างประเทศ อย่าง Oceaneering และ KIEC จะช่วยเสริมให้กำไรสุทธิปี 2553-2555 เพิ่มขึ้น 12% CAGR เป็น 70 78 และ 87 ล้านบาท ตามลำดับ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2553 เท่ากับ 5.20 บาท/หุ้น: งานในมือที่มีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2555 ประกอบกับ การเข้ามาแก้ไขปัญหาของภาครัฐบาล คาดจะทำให้การลงทุนในธุรกิจพลังงาน-ปิโตรเคมี กลับมาสู่ระดับปกติ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับงานเพิ่มขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศมากขึ้น จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนให้กำไรสุทธิปี 2553-2555 ของ TNDT ขยายตัวไม่ต่ำกว่าปีละ 12% CAGR ดังนั้น SCRI แนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเหมาะสมปี 2553 ภายใต้วิธี DDM (Payout 40%, Ke 9.7%, G 3.5%) เท่ากับ 5.20 บาท/หุ้น

ข่าวสถาบันวิจัยนครหลวงไทย+อุตสาหกรรมพลังงานวันนี้

ภาพข่าว: L&E ต้อนรับผู้แทน mai นักลงทุน-นักวิเคราะห์เยี่ยมโชว์รูม LSC

คุณปกรณ์ บริมาสพร (กลางแถวนั่ง) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากตลาดหลักทรัพย์ mai นักวิเคราะห์และนักลงทุน ในโอกาสเข้าเยี่ยมชม "Lighting Solution Center" หรือ LSC โชว์รูมครบเครื่องเรื่องโคมไฟแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ของบริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ชั้น G อาคารภคินทร์ ถนนรัชดาภิเษก อย่างเป็นทางการ ตามโครงการ Company Visit ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์ mai ร่วมกับสถาบันวิจัยนครหลวงไทย (siam city research

บทวิเคราะห์ mai จากสถาบันวิจัยนครหลวงไทย 9 เม.ย. 2553

แม้การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณแยกราชประสงค์จะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม SCRI ประเมินว่าผลกระทบจะไม่มากเท่ากับที่เคยเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีเหตุผลสำคัญ คือ การไม่เกิดความรุนแรง และ ภาวะ...

ภาพข่าว: “วิเคราะห์สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ปี 53”

สุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย รศ.ดร.เอกชัย นิตยาเกษตรวัฒน์ คณบดี คณะบริหารธุรกิจ นิด้า อดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานกรรมการบริหารระดับสูง บ.เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และคุณยงเกียรติ์ กิตะพาณิชย์...

ปฏิทินข่าวธุรกิจประจำวันนี้(3 มีนาคม 2553)

วันพุธที่ 3 มีนาคม 2553 09.00 น. เคทีซี แถลงข่าว ผลประกอบการ ประจำปี 2552 ณ อาคาร สมัชชาวาณิช 2 สุขุมวิท 33 09.00 น. บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน : บมจ.สตาร์ส ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) บมจ.โกลบอล คอน เน็คชั่นส์ บมจ.เด็มโก้ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา บมจ...

ปฏิทินข่าวธุรกิจประจำวันพรุ่งนี้(3 มีนาคม 2553)

วันพุธที่ 3 มีนาคม 2553 09.00 น. เคทีซี แถลงข่าว ผลประกอบการ ประจำปี 2552 ณ อาคาร สมัชชาวาณิช 2 สุขุมวิท 33 09.00 น. บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน : บมจ.สตาร์ส ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) บมจ.โกลบอล คอน เน็คชั่นส์ บมจ.เด็มโก้ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา...

ตลท. จัดเสวนา Crisis Watch ครั้งที่ 2/2553 หัวข้อ “จับตาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ภายใต้วิกฤตความเชื่อมั่นค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น”

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับคณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และสถาบันวิจัยนครหลวงไทย ขอเรียนเชิญท่านหรือผู้แทนเข้าร่วมงานเสวนา Crisis Watch ครั้งที่ 2 ประจำปี 2553 หัวข้อ...

บทวิเคราะห์ mai จากสถาบันวิจัยนครหลวงไทย 8 ม.ค. 2553

สถาบันวิจัยนครหลวงไทยแนะนำ เข้าลงทุนในหุ้นตระกูล T (TRT / TPAC/ TNDT) ที่คาดจะประกาศผลการดำเนินงานโค้งสุดท้ายภายใต้ในกลุ่ม mai ออกมาโดดเด่น และมีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงเฉลี่ย 5-10% ต่อปี TRT: การส่งมอบงานที่คงค้างมาจากใน Q3/52 ประกอบกับการรับรู้ราย...

บทวิเคราะห์ mai จากสถาบันวิจัยนครหลวงไทย 11 ธ.ค.2552

QLT แม้คำสั่งศาลที่ประกาศระงับการก่อสร้างโครงการใหม่ที่มาบตาพุด จะทำให้เกิดความล่าช้าและอาจกระทบต่อการหาฐานลูกค้าใหม่ของบริษัทในอนาคต แต่ทางกลับกันความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยโรงงานอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจตรวจสอบเชิงวิศวกรรมแบบไม่ทำลาย...

บทวิเคราะห์ mai จากสถาบันวิจัยนครหลวงไทย 4 ธ.ค. 2552

แม้รัฐบาลจะเร่งการเบิกจ่ายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภค ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ดังเห็นได้จาก GDP ใน Q3/52 ที่เริ่มปรับตัวขึ้นจากใน Q2/52 ที่ -3.7% เป็น -2.8% แต่โครงสร้างธุรกิจของบริษัทในกลุ่ม mai ส่วน...