ทิวดอร์เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ ณ งานบาเซิลเวิลด์ 2010

19 Mar 2010

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--เกรลิ่ง

ด้วยคุณค่าประหนึ่งเทพแห่งศิลปวิทยาการจากอดีตจวบจนปัจจุบัน นาฬิกาทิวดอร์รุ่นใหม่ นำเรื่องราวอันเป็นอมตะมาเล่าขานอีกครั้ง ทั้งในเรื่องของความสง่างามคู่ประสิทธิภาพ รูปทรงคู่หน้าที่การทำงาน และความยากลำบากแสนสาหัสที่เกิดขึ้นเมื่อเทคโนโลยีในการผลิตนาฬิกาถ่ายทอดออกมาเป็นสไตล์ที่นำหนุ่มสาวเข้าถึงความประณีตสูงส่งได้อย่างมีเอกลักษณ์ ในถ้อยภาษาที่พูดถึงและพูดกับคนรุ่นใหม่ผู้ชื่นชอบบทสนทนาในเรื่องของความงามและความรื่นรมย์ ที่พบได้ในจุดร่วมแห่งดีไซน์และเทคนิค

การดีไซน์เพื่อประสิทธิภาพ วิศวกรรมเพื่อความงามสง่า นาฬิกาทิวดอร์สำหรับปี 2010 คืออีกครั้งหนึ่งของการผสมผสานชั้นครู ระหว่างความงามที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานเป็นเยี่ยม กับคุณภาพที่วางใจได้ ทุกรุ่นทุกเรือนสื่อสารถึงพลังแห่งประวัติศาสตร์และมรดกตกทอดอันยาวนานของแบรนด์ทิวดอร์

วันนี้ นาฬิกาทิวดอร์รุ่นแฟชั่นย้อนยุค เข้าถึงจิตวิญญาณของแบรนด์ซึ่งครองใจหนุ่มสาวที่กล้าแสดงออกและคำนึงดีไซน์ เช่นเดียวกับตัวแบรนด์ มานานกว่าหกทศวรรษ หนุ่มสาวผู้แตกต่างด้วยรสนิยมเฉียบคมเพราะชื่นชมนาฬิกาคุณภาพ ซึ่งดูเหมือนนาฬิกาแนวสปอร์ต แต่ก็ยังเปี่ยมด้วยความประณีตวิจิตร หนุ่มสาวผู้รักในเรื่องราวที่เล่าขาน ผู้มองเห็นความงามและความกล้าท้าทาย หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ สัดส่วนและความเร้าใจในเส้นสายโค้งมนสมบูรณ์แบบ หนุ่มสาวผู้เล็งเห็นได้ในพริบตา ถึงขั้นตอนการผลิตที่มาของประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบ

TUDOR GLAMOUR DOUBLE DATE

จังหวะแทงโก้ การเต้นรำอันเย้ายวนและเร้าใจ อาจกล่าวได้ว่า เป็นลีลาชั้นสูงสุด และยังต้องใช้เทคนิคชั้นสูงสุดอีกด้วย ส่วนดอกกุหลาบ สัญลักษณ์อมตะของที่อยู่คู่แบรนด์ทิวดอร์มายาวนานนั้น เป็นสิ่งที่ปลุกความงาม ความปรารถนาอันร้อนแรง และความสมบูรณ์แบบขึ้นมาได้เสมอ

ด้วยแรงบันดาลใจที่สัมผัสได้จากอารมณ์และความสุนทรีย์ของทั้งสองสิ่งนี้ พร้อมภาพวาดบนสัญลักษณ์อันงามสง่า และเปี่ยมพลังของคอลเล็คชั่นรุ่น TUDOR Glamour นาฬิกา TUDOR Glamour Double Date ใหม่ จึงเป็นที่สุดแห่งการแสดงออกถึงแฟชั่นย้อนยุค ควบคู่กับเสน่ห์เย้ายวนใจ

“เรียบเนียน นุ่มนวล และบอกความนัย” คือถ้อยคำที่อธิบายได้ดีที่สุด ถึงตัวเรือนที่เปรียบเสมือนโล่โลหะวาววับ พร้อมขอบ ตัวเรือนสองชั้นจากเหล็กกล้าขัดมัน ที่เป็นกรอบล้อมหน้าปัดประดับเข็มนาฬิกาทรงใบไม้ลายเส้นโปร่ง และกระจกคริสตัล แซฟไฟร์ โค้งนูน ในขณะที่ยังคงรูปทรงและสัดส่วนเช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆในคอลเล็คชั่นของ TUDOR Glamour แต่รุ่นนี้ เพิ่มขนาดตัวเรือนให้เด่นสะดุดตาขึ้นเป็น 42 มม. เป็นครั้งแรก

หน้าปัดซึ่งมีให้เลือกทั้งสีดำ เงิน และเทาเข้ม แตกต่างด้วยช่องบอกวันที่ที่แบ่งเป็นสองช่องตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา พร้อมการปรากฏตัวเป็นครั้งแรกของเข็มวินาทีเล็กๆตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา ซึ่งนำเอาลวดลายดอกกุหลาบทิวดอร์กลับมาตกแต่งอย่างล้ำลึก คล้ายกับโลโก้ของแบรนด์ในยุคแรกสุด ระหว่างทศวรรษ 1930 ถึง 1940

TUDOR Glamour Double Date กลไกลานอัตโนมัติ และกันน้ำ 100 เมตร (330 ฟุต) มีสายให้เลือกทั้งสายหนัง และสายโลหะ สายหนังมีทั้งหนังตะกวดและหนังลูกวัว อัดเป็นลวดลายหนังจระเข้ ทั้งคู่มาพร้อมหัวพับสายพับซ่อนได้ ส่วนสายโลหะมีให้เลือกทั้งสายเหล็กกล้า และเหล็กกล้าสลับทอง พร้อมหัวพับสายรุ่น TUDOR Glamour

Double Date

ตัวเลขอ้างอิง 57000 และ 57003

นาฬิกาเหล็กกล้า หรือเหล็กกล้าสลับทอง 18 กะรัต

เส้นผ่าศูนย์กลาง 42 มม.

กลไกลานอัตโนมัติ

ตัวเรือนขัดมัน พร้อมขอบตัวเรือนสองชั้น

ช่องบอกวันที่แบ่งเป็นสองช่องที่ 12 นาฬิกา

เข็มเล็กบอกวินาทีที่ 6 นาฬิกา

เข็มนาฬิกาทรงใบไม้ ลายเส้นโปร่ง

กระจกคริสตัล แซฟไฟร์ โค้งนูน

เม็ดมะยมขันเกลียว

กันน้ำลึก 100 เมตร (330 ฟุต)

Date 36 มม.

ตัวเลขอ้างอิง 55020 และ 55023

นาฬิกาเหล็กกล้า หรือเหล็กกล้าสลับทอง 18 กะรัต

เส้นผ่าศูนย์กลาง 36 มม.

กลไกลานอัตโนมัติ

ตัวเรือนขัดมัน

ขอบตัวเรือนสองชั้น ฝังเพชร 60 เม็ด

ช่องบอกวันที่ที่ 3 นาฬิกา

กระจกคริสตัล แซฟไฟร์

เม็ดมะยมขันเกลียว

กันน้ำลึก 100 เมตร (330 ฟุต)

Date 31 มม.

ตัวเลขอ้างอิง 55020 และ 55023

นาฬิกาเหล็กกล้า หรือเหล็กกล้าสลับทอง 18 กะรัต

เส้นผ่าศูนย์กลาง 31 มม.

กลไกลานอัตโนมัติ

ตัวเรือนขัดมัน

ขอบตัวเรือนสองชั้น ฝังเพชร 60 เม็ด

ช่องบอกวันที่ที่ 3 นาฬิกา

กระจกคริสตัล แซฟไฟร์

เม็ดมะยมขันเกลียว

กันน้ำลึก 100 เมตร (330 ฟุต)

TUDOR HERITAGE CHRONO

ที่จุดตัดระหว่างความงามแนววินเทจกับความเร็ว TUDOR Heritage Chrono ใหม่ ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อเสริมคอลเล็คชั่นสปอร์ตของทิวดอร์อย่างเหมาะสมแก่กาลเวลา ด้วยแรงบันดาลใจจาก TUDOR Oysterdate Chronograph ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในช่วงต้นทศวรรษ 1970

หลังจากผ่านไป 40 ปี TUDOR Heritage Chrono 2010 ก็ถือกำเนิดขึ้น เพื่อเป็นบทกวีเฉลิมฉลองการเชื่อมต่อประวัติศาสตร์ และคุณค่าร่วมกันระหว่างแบรนด์ทิวดอร์และพอร์ช รวมทั้งการผนึกกำลังครั้งสำคัญในการเซ็นสัญญาระหว่างทิวดอร์ กับพอร์ช มอเตอร์ สปอร์ต ใน ค.ศ. 2009 ให้ทิวดอร์เป็น “Timing Partner” (พันธมิตรในโลกแห่งเวลา) โดยเป็นผู้จับเวลาให้กับพอร์ช ในการแข่งขันวัน-เม้ค คัพ ทั่วโลก

เพื่อเป็นการนำรหัสการดีไซน์สมัยใหม่มาแนะนำ และยืนยันว่า ทุกสิ่งต้องดีขึ้น เมื่อมีโอกาสครั้งที่สอง ทุกถ้อยคำในเรื่องราวเบื้องหลังนาฬิการุ่นนี้ จึงได้รับการผสมสูตรใหม่อย่างระมัดระวัง เพื่อให้เป็นเสียงสะท้อนแห่งรูปทรงอันประณีตพิถีพิถันของนาฬิกาจับเวลาแบบโครโนมิเตอร์ซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนารุ่นนี้ และสะท้อนถึงสุดยอดรถแข่งนี้ ให้ลึกซึ้งถึงหัวใจในการสร้างสรรค์ ทั้งในมุมมองของประวัติศาสตร์ เทคนิค และความงาม แต่นำเสนอในจังหวะลีลาร่วมสมัย

TUDOR Heritage Chrono 2010 เสมือนกระจกสะท้อนรูปทรงและสัดส่วนต้นแบบของตัวเรือนชิ้นกลาง ขอบตัวเรือน ขาตัวเรือน และสายนาฬิการุ่นทศวรรษ 1970 แต่หากเพ่งพินิจให้ดี จะพบรายละเอียดชุดใหม่ๆของดีไซน์ที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างงดงาม โดยเฉพาะขาตัวเรือนที่ตัดเฉียงและขัดมันจนกลมกลึง บ่าปกป้องเม็ดมะยมมันวาวมีสไตล์ และขอบตัวเรือนหมุนได้ พร้อมปุ่มกดจับเวลาทั้งคู่ที่แกะเป็นร่องหยัก ขนาบเม็ดมะยมที่แกะเป็นร่องหยักเช่นกัน เพื่อให้จับกระชับมือยิ่งขึ้น

หน้าปัดซึ่งมีให้เลือกทั้งสีเทาบนพื้นดำ และสีดำบนพื้นเทา ยังได้รับการเสริมแต่งให้สวยขึ้นอีกขั้นด้วยการใช้สีส้มมาเน้นรายละเอียดให้เด่นสะดุดตา และการใช้เทคนิค 3 มิติมาใช้กับขีดบอกชั่วโมงรูปทรงห้าเหลี่ยม รวมทั้งหน้าปัดเล็กจับเวลาทั้งคู่ แทนการพิมพ์ธรรมดา หน้าปัดเล็กจับเวลารวม 45 นาที จำลองมาจากของเดิมรุ่นทศวรรษ 1970 บังคับโดยโครงสร้างเดิมแท้ๆของกลไกลาน Valjoux 7734 และขนาดตัวเลขที่อ่านง่าย ตัวเรือนที่หนาขึ้น กว้างขึ้น ดูหรูขึ้นของ TUDOR Heritage Chrono ซึ่งเคยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 มม. บัดนี้ขยายขึ้นเป็น 42 มม. ทั้งหมดนี้ช่วยให้ดูร่วมสมัยกับมิติของนาฬิกาโครโนมิเตอร์ในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังนำขอบตัวเรือนหมุนได้ 2 ทาง รุ่น 7033 มาใช้ ซึ่งเดิมนั้น ออกแบบไว้สำหรับนาฬิการุ่นแรกสุดของทศวรรษ 1970 แต่ไม่เคยนำออกมาจำหน่าย วันนี้ ขอบตัวเรือนใหม่ใช้ตัวเลขอ้างอิง 70330 ประดับวงแหวนอะลูมิเนียมรมดำ และมาพร้อมกับสายเหล็กกล้าสามตอน เสริมหัวพับสายใหม่ คู่กับโลโก้โล่ทิวดอร์ นอกจากนี้ยังมีสายผ้าสีดำสลับเทาและส้ม ให้เลือก เสริมด้วยหัวล็อคสายทรงวินเทจพัฒนาใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากหัวล็อคเข็มขัดนิรภัย

TUDOR Heritage Chrono

ตัวเลขอ้างอิง 70330 N

นาฬิกาเหล็กกล้า เส้นผ่าศูนย์กลาง 42 มม. กลไกลานอัตโนมัติ ตัวเรือนผสานเหล็กกล้าขัดมัน กับสัมผัสซาติน ปุ่มกดจับเวลาขันเกลียว 2 ปุ่ม ที่ 2 และ 4 นาฬิกา สำหรับฟังค์ชั่นโครโนกราฟ หน้าปัดเล็กจับเวลารวม 45 นาที ที่ 9 นาฬิกา เข็มเล็กบอกวินาที ที่ 3 นาฬิกา ช่องบอกวันที่ที่ 6 นาฬิกา ขอบตัวเรือนหมุนได้สองทาง ทำด้วยเหล็กกล้าประดับวงแหวนสีดำ กระจกคริสตัล แซฟไฟร์ เม็ดมะยมขันเกลียว กันน้ำลึก 150 เมตร (500 ฟุต)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

เกรลิ่ง (ไทยแลนด์)

ช่อทิพย์ ประมูลผล หรือ วิกานดา พรหมขุนทอง

โทร 02 635 7151-4 โทรสาร 02 635 7155

อีเมล์ [email protected] หรือ [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net