คต. จัดสัมมนา “ส่งออกสดใสภายใต้ AFTA/FTA อาเซียน-อินเดีย และ อาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์” ณ จังหวัดขอนแก่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--คต.

นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้จัดสัมมนาเรื่อง “ส่งออกสดใสภายใต้ AFTA/FTA อาเซียน-อินเดีย และอาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์” ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2553 ณ ห้องออคิดบอลรูม โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลง ตลอดจนมาตรการและความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรี (กองทุน FTA) ซึ่งการสัมมนา ดังกล่าวมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง ให้ความสนใจเข้ารับฟังการสัมมนาในครั้งนี้กว่า 150 คน นายวิจักร กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยที่จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดใหญ่และเป็นเมืองยุทธศาสตร์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นศูนย์กลางขนส่งและกระจายสินค้า อีกทั้งยังได้เปรียบในด้านที่ตั้ง ซึ่งอยู่ตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นบริเวณจุดตัดของเส้นทางขนส่งสินค้าสายหลักของประเทศ 2 สาย คือ ทางหลวงหมายเลข 2 และทางหลวงหมายเลข 12 ภายใต้โครงข่ายพัฒนาเส้นทางเศรษฐกิจแนวตะวันออก – ตะวันตก (East – West Economic Corridor : EWEC) ที่เชื่อมระหว่างพม่า –ไทย – ลาว – เวียดนาม ทำให้จังหวัดขอนแก่นมีความพร้อมที่จะเป็นประตูเศรษฐกิจในการส่งสินค้าต่อไปยังจีนตอนใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน จึงนับเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จะเสริมศักยภาพและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ สามารถขยายการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์ภายใต้เขตการค้าเสรีได้อย่างสูงสุด เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) ได้ลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็นศูนย์แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 โดยสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ จะเป็นฐานการผลิตและเป็นตลาดเดียวกันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และจะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community หรือ AEC) ในปี 2558 หรือในอีก 5 ปี ข้างหน้า อาเซียนจึงนับเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย โดยในปี 2552 มีมูลค่าประมาณ 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าที่ไทยส่งออกโดยใช้สิทธิภายใต้ AFTA สูงได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ รถปิกอัพ รถจักรยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และ อาหารปรุงแต่ง เป็นต้น สำหรับตลาดอาเซียนที่ไทยส่งออกโดยใช้สิทธิพิเศษฯ สูง 3 อันดับแรก คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย นอกจาก อาเซียนแล้ว ไทยยังได้ทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - อินเดีย (ASEAN- India Free Trade Agreement : AIFTA) โดยมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ไทยได้ทำ FTA สองฝ่ายกับอินเดีย แต่ครอบคลุมสินค้าเพียง 82 รายการ ที่สองประเทศเห็นว่าควรจะเร่งลดภาษีเป็นศูนย์ก่อน การที่ไทยได้ขยายการทำความตกลง FTA เป็นอาเซียน- อินเดีย โดยครอบคลุมสินค้ากว่า 4,700 รายการ จึงนับเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายการค้า เนื่องจากอินเดียเป็นตลาดใหญ่ ที่มีประชากรกว่าพันล้านคน โดยในปี 2552 ไทยกับอินเดีย มีมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 4,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าสำคัญที่จะได้รับประโยชน์ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์และของใช้ตกแต่งบ้าน อัญมณีและเครื่องประดับ ด้ายและเส้นใยสังเคราะห์ เป็นต้น สำหรับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (ASEAN-Australia-New Zealand Free Trade Area : AANZFTA) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มีนาคม นี้ จะทำให้ไทยได้รับประโยชน์เพิ่มเติม จากการที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เปิดตลาดเพิ่มมากขึ้น/เร็วขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าสิ่งทอและครื่อง นุ่งห่ม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองเท้า กระเป๋าหนัง ชิ้นส่วนยานยนต์ เคมีภัณฑ์และอุปกรณ์ไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดตลาดภายใต้ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ นอกจากนี้ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกที่จะนำเข้าวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำจาก 12 ประเทศ คือ อาเซียน 10 ประเทศและออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาขอใช้สิทธิภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ได้ นายวิจักร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2553 กรมการค้าต่างประเทศมีโครงการที่จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โดยการจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการในการใช้สิทธิประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการที่ประเทศคู่ค้าได้เปิดตลาดภายใต้ความตกลง FTA ต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ ผู้ประกอบการและผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการสัมมนาได้ที่ www.dft.go.th หรือสอบถามที่สำนักสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ ผ่านทางสายด่วน 1385

ข่าวกรมการค้าต่างประเทศ+วิจักร วิเศษน้อยวันนี้

ไทยยูเนี่ยน เปิดบูธต้อนรับ กระทรวงพาณิชย์ นำคณะรัฐมนตรีสปป.ลาว เยี่ยมชมนวัตกรรมอาหารทะเลยั่งยืนในงาน ThaiFex Anuka Asia 2025

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU นำโดยนายชู ชง ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านกิจการกลุ่มบริษัท และนางสาวเพียรภัค อรุณไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด แผนกการตลาดต่างประเทศ ให้การต้อนรับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะรัฐมนตรีจากสปป.ลาว นายมะไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า นายไชชะนะ ไชยะกอน อธิบดีกรมเจรจาและร่วมมือเศรษฐกิจสากล และนางมะนีวอน วงไช อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ พร้อมคณะผู้แทนหอการค้าไทย ร่วมชมและชิมนวัตกรรมอาหารทะ

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดสัม... กรมการค้าต่างประเทศ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เสริมพลัง SMEs เกษตรนวัตกรรมไทยสู่สากล — กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "เสริมพลัง...

กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ผนึกกำลังหน่วยง... คต. เดินหน้าดันต่อยอดงานวิจัย หวังสร้างมูลค่าสินค้าเกษตรไทยบุกตลาดเชิงพาณิชย์ — กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ผนึกกำลังหน่วยงานพันธมิตร จัดงาน "Agri Inno-Tech...

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวั... ไต้หวัน เอ็กซ์โป 2023 ประกาศความสำเร็จจัดงานในไทย — กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (BOFT) และสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) ...