ก.อุตฯ หนุนโครงการ “รสมือไทยพร้อมปรุง” สร้างมาตรฐานรสชาติอาหารไทยแท้ ดันครัวไทยสู่โลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--กระทรวงอุตสาหกรรม

กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสถาบันอาหาร ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนักวิชาการและภาคเอกชนหลายฝ่ายจัดโครงการ “รสมือไทยพร้อมปรุง”หรือ Taste of Siam หวังสร้างมาตรฐานรสชาติอาหารไทยแท้ให้มีมูลค่าเพิ่มด้วยภูมิปัญญาไทย ทั้งน้ำจิ้ม น้ำปรุงรส น้ำราด-น้ำสลัด น้ำหมัก และน้ำพริกจิ้ม ส่งเสริมเอสเอ็มอีประกวดคิดค้นและผลิตสูตรน้ำปรุงรสสำเร็จรูปด้วยแนวคิด “ไม่ว่าครัวไหนๆ ก็รสชาติเดียวกัน” กระตุ้นผู้ประกอบการตระหนักเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร (Food Safety) และมีการจัดการสุขลักษณะที่ดีตามหลัก GMP และ HACCP ลดปัญหาถูกกีดกันทางการค้าเรื่องคุณภาพสินค้า หวังช่วงชิงตลาดเครื่องปรุงรสที่มีมูลค่ากว่า 11,600 ล้านบาท มีอัตราเติบโตสูงถึงร้อยละ 15.3 ต่อปี ทั้งป้อนตลาดร้านอาหารไทยในต่างประเทศกว่า 14,000 แห่งทั่วโลก แก้ปัญหาขาดแคลนพ่อครัวแม่ครัว ตอบโจทย์ ครัวไทยสู่โลกได้อย่างยั่งยืน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้อาหารไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในผู้บริโภคต่างประเทศอย่างแพร่หลาย ในปีพ.ศ.2552 มีร้านอาหารไทยทั่วโลกกว่า 14,000 แห่ง โดยมีจำนวนร้านมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมา คือ อังกฤษ ออสเตรเลีย เยอรมนี และญี่ปุ่น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้การสนับสนุน พัฒนานวัตกรรมอาหารของประเทศไทยเพื่อสนับสนุนให้ตลาดร้านอาหารไทยเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน อันเป็นแนวนโยบายหนึ่งในการผลักดันครัวไทยสู่โลก ซึ่งแนวทางที่สำคัญประการหนึ่งก็คือการสร้างรสชาติอาหารให้มีมาตรฐานไทยแท้ พัฒนาสินค้าอาหารด้วยภูมิปัญญาไทยทั้งแต่งเติมด้วยความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุด ขณะเดียวกันต้องมีคุณภาพและความปลอดภัยไปพร้อมกันด้วย ดังนั้นโครงการ “รสมือไทยพร้อมปรุง” หรือ Taste of Siam จึงเป็นโครงการที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการตลอดจนเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้พัฒนาน้ำปรุงรสสำเร็จรูปในรูปแบบต่างๆ มานำเสนอภายใต้เอกลักษณ์และรสชาติของอาหารไทยที่มีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับสากลอย่างแท้จริง เป็นเสมือนเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารไทยให้เติบโตต่อไปได้โดยไม่สะดุด ท่ามกลางปัญหาเรื่องการขาดแคลนพ่อครัวแม่ครัว และยังช่วยลดขั้นตอนการประกอบอาหารไทยให้มีความรวดเร็วได้อีกด้วย” นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการรสมือไทยพร้อมปรุง(Taste of Siam) กล่าวถึงรายละเอียดโครงการฯ ว่า “จากการติดตามการดำเนินนโยบาย “ครัวไทยสู่โลก” พบว่าปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการเติบโตของอาหารไทยในต่างประเทศได้อย่างยั่งยืนนั้น คือ การรักษามาตรฐานรสชาติของอาหารไทย เนื่องมาจากการขาดแคลนและคุณภาพของพ่อครัวแม่ครัวที่ทำอาหารไทย และปัญหาการสมัครขอวีซ่าทำงานของพ่อครัวแม่ครัวจากประเทศไทย ดังนั้นโครงการ “รสมือไทยพร้อมปรุง” จึงเกิดขึ้น โดยการส่งเสริมการคิดค้นและผลิตน้ำปรุงรสสำเร็จรูปแต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมในระดับมาตรฐานอาหารไทยที่น่าพอใจ คือการคิดค้นสูตรน้ำปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับอาหารไทยประเภทต่างๆ ได้แก่ น้ำจิ้ม น้ำปรุงรสสำเร็จรูป น้ำราด-น้ำสลัด น้ำหมัก และน้ำพริกจิ้ม โครงการ “รสมือไทยพร้อมปรุง” (Taste of Siam)ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคเอกชนชั้นนำ และภาควิชาการที่มีหน้าที่สนับสนุนด้านเทคนิคและการวิจัยพัฒนาอาหาร ตลอดจนการร่วมมือจากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และประชาชนทั่วไป โครงการนี้จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถและสร้างศักยภาพการแข่งขันด้านอาหารไทยในระดับโลก และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสพัฒนาภูมิปัญญาด้านอาหารไทยให้กลายเป็นสินค้าส่งออกได้ทั่วโลก โดยผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็น บุคคลทั่วไป สัญชาติไทย อายุระหว่าง 20 - 60 ปี และสำเร็จการศึกษา ประถมปีที่ 6 ขึ้นไปหรือ เป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สามารถสมัครได้โดยดาวน์โหลด ใบสมัคร และ แบบฟอร์มสูตรนํ้าปรุง จากทางเว็บไซต์ www.tasteofsiam.net พร้อมกรอกประวัติส่วนตัว และข้อมูลเกี่ยวกับน้ำปรุงรส 1 สูตร พร้อมทั้งส่วนผสมและขั้นตอนการทำโดยละเอียดสำหรับการทำน้ำปรุงรสปริมาณ 1 ลิตร หรือ 1 กิโลกรัม เพื่อนำไปแบ่งสำหรับบรรจุขวดตั้งโชว์และการทดสอบชิมรส ส่งใบสมัครและข้อมูลมาที่ ตู้ปณ. 9 เสนานิคม กรุงเทพฯ 10902 หรือ ทางโทรสาร 0-2561-2493 และ 0-2579-8294 หรือ อีเมลล์: [email protected] หรือ [email protected] ผู้สมัครสามารถสมัครได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยส่งใบสมัครมาที่โครงการตามข้อมูลข้างต้นภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2553 ทางโครงการฯ จะคัดเลือกผู้สมัครเข้ารับการฝึกอบรมและเวิร์คชอปจำนวน 150 ราย และคัดเลือกเหลือ 30 รายเพื่อเข้าประกวดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศต่อไป ทั้งนี้เนื้อหาของการฝึกอบรมจะครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ตามหลักการของ Food Safety เพื่อเพิ่มทักษะให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า 6 วัน โดยเนื้อหาการอบรมได้แก่ เทคนิคการทำอาหาร ความรู้เรื่องเครื่องเทศและสมุนไพรไทย แนวโน้มความนิยมของอาหาร เทคโนโลยีการถนอมอาหารโดยไม่ต้องนำเข้าตู้เย็น การจัดการสุขลักษณะที่ดีตามหลัก GMP และ HACCP มาตรฐานการผลิตอาหารฮาลาล และความรู้เกี่ยวกับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในอาหาร อนึ่ง ในปี 2552 ไทยส่งออกสินค้าในหมวดเครื่องปรุงรสมีมูลค่า 11,600 ล้านบาท มีอัตราขยายตัวต่อเนื่องตลอด 5 ปี โดยเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 5 ปีที่แล้วร้อยละ 94.5 หรือเฉลี่ยร้อยละ 15.3 ต่อปี มีสาเหตุมาจากการขยายตัวของร้านอาหารไทย การอพยพย้ายถิ่นไปอยู่ต่างประเทศของคนไทยและคนเอเชีย การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของชาวต่างชาติทำให้รู้จักอาหารไทยมากขึ้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าในแต่ละตลาดมากขึ้น เช่น แต่เดิมการส่งออกเครื่องปรุงรสจะบรรจุในถุง/กล่องขวดขนาดใหญ่เพื่อเข้าสู่ธุรกิจบริการอาหารในต่างประเทศเป็นหลัก แต่เมื่อพัฒนาให้มีขนาดบรรจุเล็กลงเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือคนโสด หรือการทดลองซื้อ ทำให้เพิ่มช่องทางการตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับผู้ซื้อเพื่อปรับเปลี่ยนสูตรให้มีรสชาติถูกปากของผู้บริโภคท้องถิ่นในแต่ละประเทศมากขึ้น มีการแนะนำสินค้าเพื่อใช้บริโภคควบคู่กับอาหารตะวันตก ทำให้ผู้บริโภครู้จักสินค้ามากขึ้น โดยตลาดส่งออกเครื่องปรุงรสที่สำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อาเซียน สหราชอาณาจักร ฯ

ข่าวสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม+สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยวันนี้

Net Zero ไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่คือโอกาส ผู้บริหารบางจากฯ/กรรมการสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ชี้ทางรอด SME ไทย สู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ บนเวที EARTH JUMP 2025

นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (CCI) รับเชิญเป็นวิทยากรเสวนาในหัวข้อ "Net Zero ทางรอดใหม่ของ SME" ร่วมกับ นางอภิรดี ขาวเธียร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล ผู้อำนวยการ สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน และรองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินรายการโดย นายมนต์ชัย

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. เชิญผู้ประกอบการฟังสัมมนาฟรี !! เจาะตลาดภาครัฐ กับ "THAI SME-GP รัฐพร้อมซื้อ SME พร้อมขาย" — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ขอเชิ...

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว.-สอท. ชวน SME อบรมเสริมทักษะหางานภาครัฐ — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ขอเชิญผู้ประกอบการใน ...

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... เชิญร่วมช้อปสินค้า Made in Thailand จากผู้ประกอบการคนไทย ทางเว็บไซต์ Shopee.com 27 ส.ค.-15 ก.ย.64 — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่ว...