ยกนครสวรรค์“ศูนย์กลางข้าว” ผุดเปิดประมูลครั้งแรกในโลก

05 Jul 2010

กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--กระทรวงพาณิชย์

ตั้งเป้างานมหกรรมข้าวภาคเหนือ ผุดสมาพันธุ์โรงสีข้าวอาเซียน ยกระดับความร่วมมือการค้าข้าว พร้อมดันนครสวรรค์เป็น Hub Of Rice ก่อนพัฒนาต่อเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวโลก ยันมีความพร้อมในเรื่องการคมนาคม การผลิตและการรักษา เผยในงานมีเปิดประมูลข้าวครั้งแรกในโลก

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจัดงานมหกรรมข้าวภาคเหนือ ครั้งที่ 1 ที่ท่าข้าวกำนันทรง จ.นครสวรรค์ ระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคมว่า สาเหตุประการแรกที่ให้มีการจัดงานมหกรรมข้าวภาคเหนือก่อนภาคอื่นๆ นั้นเนื่องจากต้องการผลักดันให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นศูนย์กลางของการค้าข้าว หรือเรียกว่า Hub of Rice เนื่องจากเป็นตัวที่ขับเคลื่อนจักรกลต่างๆ ในเรื่องข้าวทั้งหมดของประเทศ โดยมีการวางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยต้องการให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในเรื่องข้าวไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร พ่อค้า โรงสี หรือแม้แต่กระทรวงพาณิชย์ เข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันให้ไปสู่เป้าหมาย

การดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย จึงต้องมีการเล็งหรือเลือกสรรจังหวัดที่จะมาเป็นศูนย์กลางข้าวของประเทศ จึงได้เลือกจังหวัดนครสวรรค์ เพราะว่าข้าวภาคเหนือนั้นมีผลผลิตอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของข้าวทั่วประเทศ หรือประมาณ 9-10 ล้านตัน นอกจากนี้ข้าวภาคเหนือจะมีความหลากหลายกว่าข้าวภาคอื่นๆ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ข้าวหอม ข้าวหอมปทุม ข้าวเหนียว โดยเฉพาะข้าวลืมผัว (ข้าวเหนียวดำ) ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด ทั้งยังมีโรงสีอยู่ประมาณ 200 แห่ง มีคลังเก็บข้าว ไซโล ซึ่งสามารถเก็บรักษาข้าวได้ประมาณ 15 ล้านตันต่อปี ถือว่าเป็นระบบการดูแลรักษาข้าวได้เป็นอย่างดี”

ขณะเดียวกันนครสวรรค์ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งข้าว เนื่องจากมีการขนส่งทั้งทางรถยนต์ และรถไฟ โดยในปี 2555 จะมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นรถไฟรางคู่ สามารถขนส่งข้าวสู่ท่าเรือต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ด้านทางเรือก็จะมีการสร้างเขื่อนยกระดับให้สามารถดำเนินการขนส่งข้าวทางเรือได้ จึงเห็นว่า นครสวรรค์มีความพร้อมในด้านการเป็นศูนย์กลางการค้าข้าวได้ จึงได้มีการจัดงานมหกรรมข้าวภาคเหนือ ครั้งที่ 1 เพื่อให้เป้าหมายที่วางไว้บรรลุผล

“ผมอยากจะอธิบายในประเด็นที่ว่า ทำไมถึงให้เป็น Hub of Rice ของประเทศ ซึ่งหลักๆ ก็คือเป็นตลาดซื้อขายข้าวของประเทศ และได้วางเป้ายกระดับให้เป็นตลาดการซื้อขายข้าวของโลก ทั้งที่เป็นตลาดกลาง ตลาดนัด ตลาดล่วงหน้า หรือแม้แต่เป็นสถานที่ทำข้อตกลงซื้อขาย ดังนั้นในมหกรรมข้าวภาคเหนือครั้งนี้ ก็จะมีการนำผู้ค้าในต่างประเทศที่ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ มาดำเนินการเจรจาหรือซื้อขายข้าวรวมทั้งมีกิจกรรมอื่นๆ รวมอยู่ในงานครั้งนี้”

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้นอกจากจะมีการเจรจาซื้อขายข้าวกับต่างประเทศแล้ว จะมีการจัดประชุมแผนขายข้าวของประเทศ เพื่อเป็นแผนปฏิบัติการในการส่งออกข้าว นอกจากนี้ยังมีการจัดประชุมความร่วมมือในด้านข้าวของอาเซียน และอาจจะมีการเปิดตัวสมาพันธ์โรงสีข้าวอาเซียน ซึ่งจะเป็นความร่วมมือในการด้านการค้า และมีการกำหนดราคาขายข้าวของกลุ่มอาเซียนอย่างชัดเจน รวมทั้งจะมีการเปิดประมูลข้าวเป็นครั้งแรกของโลกอีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-5285151 ทิพวรรณ์ ไชมะโย