ทริสเรทติ้งคงอันดับองค์กร “บ. วีนิไทย” ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--ทริสเรทติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตอยู่บนพื้นฐานจากการที่บริษัทมีเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิตที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง คณะผู้บริหารที่มีความสามารถ และการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ Solvay S.A. ของประเทศเบลเยี่ยม บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและราคาสินค้าที่มีความผันผวนสูง ส่วนกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสายอะเซทิลีน (Acetylene) โดยผู้ผลิตในประเทศจีนอาจส่งผลกระทบต่อราคาตลาด รวมถึงดุลยภาพของอุปสงค์และอุปทานในอนาคต ปัจจุบัน ราคาเอธิลีน (Ethylene) ที่ต่ำส่งผลทำให้การผลิตในสายเอธิลีนมีต้นทุนที่ได้เปรียบกว่า แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงความสามารถในการรักษาโครงสร้างต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปได้และไม่มีปัจจัยที่เป็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมพีวีซี โดยทริสเรทติ้งคาดว่าผู้บริหารของบริษัทจะยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระยะเวลาลงทุน ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทวีนิไทยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโพลีไวนิล คลอไรด์ หรือพีวีซี (Polyvinyl Chloride) รายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ โดยมีกำลังการผลิต 280,000 เมตริกตันต่อปี คิดเป็น 29% ของกำลังการผลิตรวมภายในประเทศ บริษัทได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานจากผู้ถือหุ้นหลักอย่างเต็มที่ โดย Solvay ให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีและการจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างประเทศ ในขณะที่บริษัท ปตท. เคมิคอล เป็นผู้จัดหาเอธิลีน และกลุ่มซีพีเป็นลูกค้ารายสำคัญ บริษัทมีโรงงานผลิตพีวีซีที่มีกระบวนการผลิตครบวงจรซึ่งทำให้บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่สูงกว่าคู่แข่งโดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 17.56% ในปี 2552 เมื่อเทียบกับ 15.78% ในปี 2551 เนื่องจากบริษัทรักษาระดับกำลังการผลิตไว้ได้ในระดับสูงและการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ราคาปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้น และราคาโซดาไฟซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่ลดลง รวมทั้งการหยุดผลิตอย่างกะทันหันในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ทำให้อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ลดลงเป็น 11.80% ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายดังกล่าวจากบริษัทประกันภัย สถานการณ์ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังคงผันผวนเป็นอย่างมากในปี 2553 ตามการขึ้นลงของราคาน้ำมัน โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ราคาเอธิลีนเริ่มปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปจากการที่กำลังการผลิตใหม่จะทยอยเพิ่มขึ้นตามกำหนด ปริมาณการบริโภคพีวีซีของไทยน่าจะมีแนวโน้มที่ดีตามอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานสำหรับตลอดทั้งปี 2553 ของบริษัทดีกว่าในไตรมาสที่ 1 ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ฐานะการเงินของบริษัทวีนิไทยยังคงแข็งแกร่งซึ่งได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและภาระหนี้สินที่ต่ำ แม้ว่าในปี 2552 บริษัทจะมีปริมาณขายเพิ่มขึ้น 13% จากปี 2551 แต่รายได้จากการขายกลับลดลง 11% จากปีก่อนเนื่องจากราคาสินค้าเฉลี่ยปรับตัวลดลง ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 ปริมาณขายของบริษัทลดลงเล็กน้อยราว 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักเกิดจากผลผลิตพีวีซีของบริษัทที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ราคาขายเฉลี่ยของพีวีซีและวีซีเอ็ม (ไวนิล คลอไรด์ โมโนเมอร์ หรือ Vinyl Chloride Monomer) เพิ่มขึ้นประมาณ 40%-50% ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการขายรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นในปี 2552 ส่งผลให้บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานคงอยู่ในระดับ 1,997 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 เงินทุนจากการดำเนินงานปรับลดลงเป็น 372 ล้านบาทจาก 461 ล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 การไม่มีเงินกู้คงค้าง ณ สิ้นปี 2552 และ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 ทำให้บริษัทยังคงสภาพคล่องในระดับสูงซึ่งเห็นได้จากอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมและอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายที่อยู่ในระดับสูง ในปี 2553 บริษัทวีนิไทยได้ริเริ่มโครงการลงทุนใหม่ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาทเพื่อการขยายกำลังการผลิตคลอรีนและโซดาไฟ รวมถึงการผลิตสาร Epichlorohydrin (ECH) ทั้งนี้ โครงการขยายกำลังการผลิตคลอรีนและโซดาไฟได้รับผลกระทบจากคำสั่งของศาลปกครองกลางที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนในการจัดทำการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ (EHIA) ในโครงการทั้งหมดของบริษัทไม่ว่าโครงการนั้นๆ จะเข้าเกณฑ์ที่จะต้องจัดทำการประเมินหรือไม่ก็ตาม ส่วนโครงการผลิตสาร ECH คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2555 ซึ่งโครงการดังกล่าวน่าจะช่วยให้บริษัทมีผลกำไรเพิ่มขึ้นและยังเป็นการขยายไปสู่สายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งนี้ เงินลงทุนบางส่วนของโครงการจะมาจากการกู้ยืม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะเพิ่มขึ้น แต่ก็คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 30% ในช่วงอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนถึงนโยบายการเงินของบริษัทที่มีความระมัดระวังเป็นอย่างมากอันจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่บริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทริสเรทติ้งกล่าว บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) (VNT) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A- แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่) บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2553 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัด อันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating_information/rating_criteria.html

ข่าวเจริญโภคภัณฑ์+ปตท. เคมิคอลวันนี้

GCNT จับมือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงนาม MOU เปิดหลักสูตร "การจัดการเพื่อความยั่งยืน" ระดับปริญญาตรี

สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) นำโดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคม GCNT และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ที่สองจากขวา) พร้อมด้วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ที่สองจากซ้าย) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) จัดตั้ง หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเพื่อความยั่งยืน ระดับปริญญาตรี โดยพิธีลงนามได้รับเกียรติจาก นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ขวา)และ นางคยองซอน คิม

ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งสู่ "ครัวของโลก"ที่มีพั... ซีพีเอฟ นำ Sustainovation ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่ออาหารแห่งอนาคต ตอกย้ำเป็น "ครัวของโลก" — ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งสู่ "ครัวของโลก"ที่มีพันธกิจสร้างความมั่นคงทาง...

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ห... CPF หนุน SME ไทย ก้าวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เพิ่มศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก — บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการ S...

พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เลือกซื้ออ... "โบโลน่าพริก แบรนด์ CP" ผลิตภัณฑ์ปลอดคาร์บอนในกลุ่มอาหารรายแรกของไทย — พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เลือกซื้ออาหาร โดยไม่ได้เน้นแค่เรื่องของรสชาติ และคว...