ยาคุมฉุกเฉิน “ป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ไม่ได้ป้องกันเอดส์” สมาคมเภสัชฯเตือนหากใช้พร่ำเพรื่อ มีอันตรายกว่าที่คิด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล

สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) เป็นห่วงวัยรุ่นไทย นิยมกินยาคุมฉุกเฉินแบบพร่ำเพรื่อ ชี้หากนำมาใช้ผิดๆ อันตรายกว่าที่คิด เพราะยาคุมฉุกเฉินแค่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่ได้มีฤทธิ์ป้องกันเอดส์หรือโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด และละเลยการใช้ถุงยางอนามัย ทำให้เสี่ยงต่อภาวะติดเชื้อเอดส์ และ โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ซิฟิลิส ภญ.รศ.ดร.บุษบา จินดาวิจักษณ์ อุปนายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกให้ข้อมูลว่า ในทุกปี ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เป็นสาเหตุนำไปสู่การทำแท้ง ที่ไม่ปลอดภัยของผู้หญิงอย่างน้อยจำนวน 20 ล้านคน ซึ่งกว่า 100,000 คนต้องเสียชีวิตลงในที่สุดเพราะเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ และแม้ว่าหลายหน่วยงานจะมีการรณรงค์ให้ความรู้ถึงอันตรายและข้อจำกัดในการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีการใช้ยาคุมฉุกเฉินกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มวัยทำงาน โดยพบว่าส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น หลายคนนำไปใช้เหมือนยาคุมกำเนิดธรรมดา หรือกินทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกและอันตรายมาก เพราะยาคุมชนิดนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินทันทีทันใด โดยตัวยาสำคัญในยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นฮอร์โมนเดี่ยวและเป็นฮอร์โมนเพศหญิง มีชื่อว่า เลโวนอร์เจสเตรล ขนาดเม็ดละ 750 ไมโครกรัม ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่มีในยาคุมชนิดธรรมดา 5 เท่า โดยที่ยาคุมชนิดธรรมดาจะเป็นชนิดฮอร์โมนรวม มีฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิด แต่ละเม็ดมี เลโวนอร์เจสเตรล 150 ไมโครกรัม และ เอสโตรเจน 30 ไมโครกรัม ภญ.รศ.ดร.บุษบา กล่าวเพิ่มเติม การใช้ยาคุมฉุกเฉินควรใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น หากจำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรใช้เกิน 2-3 ครั้งต่อเดือน สำหรับการใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินนั้น หมายถึงกรณีมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้วางแผนป้องกันการตั้งครรภ์ไว้ก่อน หรือพลาด เช่น รับประทานยาคุมกำเนิดอยู่แล้วแต่ขาดยาไปอย่างน้อย 2 วัน หรือใช้ถุงยางอนามัยแล้วถุงยางเกิดฉีกขาดหรือมีรูรั่ว อีกกรณีหนึ่งที่มีการนำยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาใช้คือกรณีที่ถูกข่มขืน โดยประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะดีที่สุดเมื่อรับประทานยา 2 เม็ด และเริ่มเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 95% หากช้ากว่านี้แต่ไม่เกิน 48 ชั่วโมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 85% หรือถ้าช้ากว่านี้อีกแต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะลดลงเหลือเพียง 75% ดังนั้นหากเริ่มยาเม็ดแรกช้ากว่า 72 ชั่วโมง จะมีโอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้นอย่างมาก ส่วนยาเม็ดที่สองให้รับประทานหลังจากยาเม็ดแรก 12 ชั่วโมง หลังจากนั้น 2-3 วันจะมีเลือดคล้ายระดูออกมา ทั้งนี้หากไม่มีเลือดคล้ายระดูภายใน 1 สัปดาห์หลังรับประทานยาเม็ดที่สอง ให้สงสัยว่าตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์ ไม่ควรรับประทานยาซ้ำเพราะไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ การรับประทานยาซ้ำก็ไม่สามารถทำให้แท้ง และไม่ทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ สามารถรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน 2 เม็ดพร้อมกันเลยก็ได้ ที่สำคัญต้องรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ 75% เช่นกัน แต่อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มากกว่าการรับประทานยาครั้งละ 1 เม็ด ห่างกัน 12 ชั่วโมง แต่ไม่ควรรับประทานยาเพียงเม็ดเดียวเพราะให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าการรับประทานยา 2 เม็ด ข้อสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ประสิทธิภาพยาคุมกำเนิดจะลดลงได้หากมีโรคประจำตัวและมีการรับประทานยาบางชนิดร่วมด้วย เช่น ยากันชัก ยารักษาวัณโรค ยาปฏิชีวนะ ดังนั้นจึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ยาเหล่านี้ “อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินบ่อยๆ ในแต่ละเดือน เพราะจะมีการเสียเลือดมากและเกิดภาวะซีด ซึ่งไม่เหมาะที่จะใช้ในการคุมกำเนิดแบบปกติ หากจะมีเพศสัมพันธ์ก็ควรวางแผนป้องกันการตั้งครรภ์ไว้ก่อน การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดธรรมดาเป็นวิธีที่สะดวกและประสิทธิภาพดี ที่นิยมใช้คือยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งมี 2 แบบ แบบหนึ่งเป็นแผง 21 เม็ด อีกแบบเป็นแผง 28 เม็ด มีวิธีใช้คือ รับประทานยาเม็ดฮอร์โมนวันละเม็ดติดต่อกัน 21 วัน หยุด 7 วัน ปัจจุบันมียาคุมชนิดใหม่ที่ให้รับประทานยาเม็ดฮอร์โมนวันละเม็ดติดต่อกัน 24 วัน หยุด 4 วัน ซึ่งป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การป้องกันการตั้งครรภ์ยังทำได้โดยให้คุณผู้ชายใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งมีข้อดีอีกประการหนึ่งคือ ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เอดส์ ได้ด้วย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีหลายคนละเลยการใช้ถุงยางอนามัย เพราะเข้าใจผิดว่า ยาคุมฉุกเฉินจะช่วยป้องกันเอดส์ได้ด้วย อันที่จริงแล้วยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีฤทธิ์ป้องกันเอดส์หรือโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด” ภญ.รศ.ดร.บุษบา กล่าว

ข่าวบุษบา จินดาวิจักษณ์+องค์การอนามัยโลกวันนี้

GSK ร่วมรณรงค์ "สัปดาห์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก 2025" ชูการป้องกันโรคสำหรับทุกวัย

องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ทุกวันที่ 24-30 เมษายนของทุกปีถือเป็น "สัปดาห์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก" ซึ่งเป็นแคมเปญด้านสาธารณสุขระดับโลกเพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยในปีนี้ได้กำหนดธีม "Immunization for All is Humanly Possible" เพื่อย้ำถึงความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันทั่วโลกสำหรับทุกคนว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ ด้วยความมุ่งหวังให้ผู้คนทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ได้รับการปกป้องจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนมากยิ่งขึ้น

เภสัชกรออกโรงเตือน! พ่อแม่ควรรู้วิธีใช้ยาลดไข้ ดูแลลูกน้อยใกล้ชิด ป้องกันโรคชัก พร้อมรักษาไอคิว

เภสัชกรออกโรงเตือน!! พ่อแม่ควรรู้วิธีใช้ยาลดไข้ ดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด และควรระวังเมื่อลูกมีไข้สูงอย่านิ่งนอนใจ ส่งผลให้เกิดโรคชักและลดไอคิวได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน ...

สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาลฯ แนะใส่ใจ 4 ข้อการใช้ยาง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย...

สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาลฯ แนะ!คนไทยหันมาใส่ใจวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของยา โดยเฉพาะยาพื้นฐาน อาทิ ยาหม่อง ยาแก้ไอ และยาคุมกำเนิด เป็นต้น ซึ่งมักจะใช้บ่อยๆ แต่กลับใช้แบบผิดๆ ด้วยเหตุนี้ สมาคม...

สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาลฯ จัดอบรมเสริมทักษะเภสัชกรสาขาโรคมะเร็ง

สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาลฯ เตือนผู้ป่วยมะเร็งอย่ากลัวผลข้างเคียงเคมีบำบัดเกินเหตุ จนไม่กล้ารักษาและปล่อยให้มะเร็งลุกลาม ชี้วงการแพทย์ยุคใหม่มีการคิดค้นสูตรยามะเร็งใหม่ๆช่วยแก้ไขปัญหาผลข้างเคียงรุนแรงจากเคมีบำบัด แนะผู้ป่วยปรึกษาแพทย์และ...

ภาพข่าว: สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาลฯ จัดประชุมคณะกรรมการบริหาร

ภก.วิพิน กาญจนการุณ (นั่งที่ 2 จากซ้าย) นายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) เป็นประธาน ในการประชุมคณะกรรมการบริหารและที่ปรึกษาสมาคมฯ เพื่อวางแผนงานการจัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับสมาชิกให้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของเภสัชกรโรงพยาบาลที่ดี...

ภาพข่าว: แสดงความยินดี นายกสภาเภสัชกรรมคนใหม่

ภก.วิพิน กาญจนการุณ นายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) และกรรมการบริหารสมาคมฯ อาทิ ภญ.รศ.ดร.บุษบา จินดาวิจักษณ์ อุปนายก ภญ.ปรานี ภิญโญวัฒยากร เลขาธิการ และ ภญ.ทิพวรรณ จิตพิมลมาศ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มอบดอกไม้แสดงความยินดีกับ ภญ.รศ.ธิดา นิงสานนท์ นายกสภา...

ภาพข่าว: แสดงความยินดี นายกสภาเภสัชกรรมคนใหม่

ภก.วิพิน กาญจนการุณ นายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) และกรรมการบริหารสมาคมฯ อาทิ ภญ.รศ.ดร.บุษบา จินดาวิจักษณ์ อุปนายก ภญ.ปรานี ภิญโญวัฒยากร เลขาธิการ และ ภญ.ทิพวรรณ จิตพิมลมาศ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มอบดอกไม้แสดงความยินดีกับ ภญ.รศ.ธิดา นิงสานนท์ นายกสภา...

ภาพข่าว: แบ็กซเตอร์ฯ สนับสนุนประชุมวิชาการเภสัชกรรมโรงพยาบาล

บริษัท แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสนับสนุนการจัดงานประชุมวิชาการ ซึ่งคณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล และสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล ได้จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ ของการให้สารอาหารไขมันในผู้ป่วยหนัก และแนะแนวทางแก้...