กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับฝีมือดี กับเรื่องราวความรักวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กแต่สะท้อนแง่คิดมุมมองให้กับคนดู ในภาพยนตร์เรื่อง “ฮักนะ’สารคาม”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--สหมงคลฟิล์ม

Q: แนะนำตัวและผลงานที่ผ่านมามีอะไรบ้าง ชื่อ กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ กำกับภาพยนตร์เรื่อง ฮักนะ’ สารคาม สำหรับผลงานที่ผ่านมาส่วนมากจะกำกับภาพยนตร์สั้น และกำกับภาพยนตร์อิสระเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเมื่อปีที่แล้วทำภาพยนตร์เรื่องตายโหง กำกับตอน ศพแท็งค์น้ำ นอกจากนั้นก็เป็นคนเขียนบท รับหน้าที่เป็นแอ็คติ้งโค้ชบ้าง เป็นนักแสดงบ้าง Q: ก่อนอื่นขอถามถึงที่มาของโปรเจ็คต์ “ฮักนะ’สารคาม” ก่อนหน้านี้ทางสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้คิดโปรเจ็คต์ที่จะสร้างภาพยนตร์ ก็นำมาปรึกษากับทางพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว และให้ช่วยหาผู้กำกับให้หน่อย พี่ปรัชก็เลยเรียกเราเข้าไปคุยบอกถึงรายละเอียดของโปรเจ็คต์ครั้งนี้ เราก็เขียนบทมาเสนอ จากนั้นทางสถาบันฯก็นำโปรเจ็คต์พร้อมบทเข้าไปขอทุนไทยเข้มแข็ง ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนให้สร้างภาพยนตร์ ฮักนะ’ สารคามขึ้นมา Q: แนวไอเดียหลักของภาพยนตร์ ทางสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมกำหนดโจทย์มาคร่าวๆก่อนว่าอยากทำหนังที่ต้องการสะท้อนศิลปวัฒนธรรมอีสาน บอกจุดประสงค์หลักมาเพียงเท่านี้ เราก็มานั่งคิดและตีโจทย์ออกมาว่าจังหวัดมหาสารคามมีอะไรเป็นเอกลักษณ์บ้าง พยามจับคาแร็คเตอร์ของมหาสารคามมาเล่าเรื่อง โดยสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของวัฒนธรรมอีสาน ส่วนตัวแล้วเราอยากสร้างภาพยนตร์หรือหนังอีสานให้เป็นแบบร่วมสมัย ทุกวันนี้อีสานก็เป็นแบบร่วมสมัยเด็กวัยรุ่นหน้าตาเกาหลี ญี่ปุ่นกันหมดแต่ยังพูดอีสานกัน หรือแต่งตัวสไตล์เกาหลีไปดูหมอลำ เรียกว่าเป็นวัฒนธรรมสมัยใหม่ที่ร่วมสมัยเก่าอยู่รวมกันและ เราเองก็อยากเล่าผ่านภาพยนตร์ออกมาในแง่มุมนี้ Q: ทราบมาว่าลงทุนไปกินไปนอนไปใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.มหาสารคาม เพื่อเก็บประสบการณ์ในการทำหนังครั้งนี้ ต้องขอบอกว่ากอล์ฟเป็นคนอีสานเหมือนกันแต่ไม่ใช่ จ.มหาสารคาม จบมาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น บ้านเกิดอยู่โคราช (นครราชสีมา) ไม่เคยไปใช้ชีวิตที่มหาสารคามเลย เพราะฉะนั้นพอต้องมาทำหนังที่เกี่ยวกับจังหวัดนี้จึงต้องรีเสิร์ทหาข้อมูล ไปศึกษาอาหารการกิน ไปเรียนรู้วิถีชีวิตที่นั่นแบบจริงจังพยามศึกษาอยู่เป็นเดือน อยากรู้ว่าที่นี่เขาใช้ชีวิตกันอย่างไร เอกลักษณ์ของที่นี่คืออะไร ซึ่งเราก็สังเกตเห็นว่าที่จังหวัดนี้มีสถานการศึกษาเยอะมาก พอช่วงเวลาที่โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยปิดเทอมนะเกือบทั้งจังหวัดจะร้างไปเลยเงียบมาก และจะกลับมาครึกครื้นตอนช่วงที่เปิดเทอม เราเองเลยรู้สึกและสัมผัสถึงชีวิตนักเรียน นักศึกษาเป็นส่วนใหญ่ในความรู้สึกของเราเองนะ จึงเน้นเป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตนักเรียน นักศึกษา และก็คิดอีกว่าบุคลิกลักษณะที่เป็นจุดเด่นของคนอีสาน คือมีความตลกเฮฮา ก็เลยใส่ไอเดียมุมโรแมนติกเรื่องความรักกุ๊กกิ๊กบวกกับความตลก และมุมสะท้อนศิลปวัฒนธรรมอีสานเข้ามารวมไว้ด้วยกัน Q: เขียนบทออกมาแล้ว และเรื่องการเลือกสถานที่ในการถ่ายทำเป็นที่ จ.มหาสารคามทั้งหมดเลยไหม เรื่องโปรดักชั่นดีไซน์เราวางเอาไว้ว่าเราอยากเห็นเป็นโทนสีเขียวทั้งเรื่อง ดังนั้นทั้งเราและทีมงานต้องออกตะเวนหาโลเกชั่นเยอะมาก ก็ไม่ได้เจาะจงที่จ.มหาสารคามอย่างเดียวนะ ก็มีไปจังหวัดใกล้เคียงด้วย สถานที่ตรงไหนดูแล้วสวยดี ดูแล้วเหมาะกับเนื้อเรื่อง เหมาะกับสถานการณ์ของเรื่อง ก็มีหลายจังหวัดเหมือนกันนะ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม โดยดึงสถานที่เด็ดๆ แต่ก็ไม่ถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนไปกัน เป็นสถานที่ธรรมดาแต่เรามาหาความงามในความธรรมดามากกว่า เหมือนกับเนื้อเรื่องจังหวัดมหาสารคามก็เป็นจังหวัดหนึ่งซึ่งเหมือนกับจังหวัดอื่น ในความธรรมดาที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ว่ามีความงามมีชีวิตซ่อนอยู่ จึงอยากนำเสนอโลเกชั่นที่เราผ่านตาทุกวันแต่ไม่เคยเห็นมุมความงามของมันมาก่อน หรือชีวิตที่ดูปกติแต่จริงๆ แล้วมีมุมอะไรที่ซ่อนอยู่ อยากนำเสนอสิ่งเหล่านี้ Q: ฮักนะ’ สารคามเป็นภาพยนตร์แนวไหน เราอยากบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็น แนวโรแมนติก คอมิดี้ อีสาน ที่เรียกแบบนี้เพราะว่า นักแสดงหน้าตาใสๆ แต่พูดอีสานกันทั้งเรื่อง หนังออกมาจะดูมันเขียวๆ แบบสดใส ส่วนมากหนังคอมิดี้อีสานที่เราเห็นก็เรื่อง แหยมยโยธร เราจะเห็นชัดเจนว่ามีความเป็นอีสานในแบบความคิดของทุกคน เราต้องการนำเสนออีกมุมจึงตั้งโจทย์ไว้ว่า นักแสดงต้องหน้าตาน่ารัก หน้าตาดี ดูแล้วสดใส แต่ว่าเว้าภาษาอีสานกันทั้งเรื่อง ทุกวันนี้เทรนด์ญี่ปุ่น เกาหลีมาแรง บ้านเราอาจจะรับวัฒนธรรมร่วมสมัยมาก็จริงนะ ทำหัวสีทองกันบ้างแต่ก็ยังพูดอีสานกันอยู่ Q: แบบนี้คัดเลือกนักแสดงให้เหมาะสมกับบทและคาแร็คเตอร์อย่างไรบ้าง สำหรับนักแสดงตั้งแต่เริ่มโปรเจ็คต์เราคิดถึงตุ๊กกี้ (สุดารัตน์ บุตรพรม) เป็นคนแรกเลย เพราะว่าตุ๊กกี้เรียนจบที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามก็เลยทาบทามตุ๊กกี้มาแสดง แล้วก็นึกถึงว่าตุ๊กกี้จะเป็นอย่างไรในตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย พยามเขียนคาแร็คเตอร์ออกมา รวมถึงคาแร็คเตอร์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นมา และหานักแสดงที่สามารถพูดภาษาอีสานได้เป็นคนอีสานจริงๆ ก็ได้มาเจอน้องมิลค์ (ภาวิณี วิริยะชัยกิจ) ซึ่งเรียนอยู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น น้องหนูจ๋า (อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา) เราเคยเห็นหนูจ๋าเล่นซีรีย์แล้วพูดเป็นภาษาอีสาน พอได้คุยกันปรากฏว่าเป็นคนจังหวัดขอนแก่นทั้งคู่เลย ส่วนนักแสดงที่จะมารับบทเป็นเด็กมัธยมปลายเราหานักแสดงหน้าใหม่หมด ทีมงานก็ตระเวนไปแคสติ้งทั่วภาคอีสาน หลายจังหวัดมากไม่ว่าจะเป็นอุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ไปโรงเรียนมัธยมด้วย ไปมหาวิทยาลัยในภาคอีสานด้วย สุดท้ายก็ได้ตรงตามคาแร็คเตอร์ทั้งหมด อย่างน้องอ้วน (วิภู งามเนตร) มาจากจังหวัดอุบลราชธานี มีความสามารถเล่นดนตรีได้ ร้องเพลงได้แล้วพูดอีสานคล่องมาก ส่วนน้องเกรท (สุมลนาถ คำหว่าน) น้องเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่จริงๆ เป็นคนจังหวัดชัยภูมิ ทีมงานเราไปแคสติ้งแล้วผ่าน สำหรับพระเอกของเรื่องเราเลือกธันวา (ธันวา สุริยจักร) เพราะว่าเราเจอน้องทันลงในข่าวว่าเป็นนายแบบมาจากประเทศลาว ซึ่งหน้าตาตรงกับคาแร็คเตอร์ที่เราตั้งไว้คือออกแนวเกาหลี เรื่องภาษาอีสานก็ได้อยู่แล้ว สุดท้ายก็น้องเต้ (ประภัทรพงศ์ ประสิทธิพงศ์) เป็นหนุ่มเมืองจันทบุรีไม่ได้อยู่โซนอีสาน แต่ที่เราเลือกน้องเต้เพราะว่าคาแร็คเตอร์ในเรื่องจะเปรียบเหมือนเป็นตัวแทนคนที่อยู่อีสานแต่ว่าพูดภาษาอีสานไม่ได้ พ่อแม่อาจจะไม่ได้สอนให้พูด ในบทก็จะไม่มีพูดภาษาอีสานของน้องเต้ Q: เรื่องย่อของภาพยนตร์ “ฮักนะ’สารคาม” เป็นเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นวัยเรียน ในช่วงเทอมสุดท้ายก่อนจะจบการศึกษาโดยจะมีช่วงมัธยมปลาย และช่วงมหาวิทยาลัย สำหรับตัวละครหลักคือ ตุ๊กกี้ ที่จะได้เจอกับทุกตัวละครในเรื่องนี้ ตุ๊กกี้รับบทเป็นอุบล นักศึกษาเอกภาษาอังกฤษชั้นปี 4 ที่ไม่ยอมเรียนจบสักทีเพราะมีเหตุผลบางอย่าง อยู่ในมหาวิทยาลัย...อุบลจะมีลูกน้องคนสนิทชื่อ โส เป็นกระเทยรุ่นน้องที่ร่วมกันวางแผนดึงหนุ่มหล่อเข้าชมรม จึงพยามดึง เทพ หนุ่มหล่อเกาหลีมาจากเมืองกรุง ที่ใครเห็นใครก็ชอบและอยากจะได้เป็นแฟน จนมีผู้ช่วยแสนสวยเป็นรุ่นน้องในคณะคือ รินทร์เข้ามาช่วยวางแผนแต่ก็มีความแอบแฝงเพราะชอบเทพเหมือนกัน ส่วนอีกคนหนึ่งคือ เกษ นักกีฬาเทควันโดเป็นสาวที่เทพสนใจและตามจีบแต่ว่าเรียนอยู่กันคนละที่ เนื่องจากอุบลไม่ยอมเรียนจบแต่ก็ต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง จึงเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษให้กับน้องมัธยมปลายที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้ได้เจอกับมุก และภูมิ ทั้งคู่เป็นแฟนกันและกำลังจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพด้วยกันแต่เกิดมีปัญหาความรัก เพราะแก่นเพื่อนเก่าของมุกได้ก้าวเข้ามา ซึ่งหลากหลายคาแร็คเตอร์ในเรื่องนี้จะเป็นคนอีสาน เราหยิบเรื่องความรัก และสะท้อนเรื่องศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยกับการใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันแต่ยังมีความเป็นอีสานอยู่ ทุกตัวละครจะต้องก้าวข้ามความรู้สึกไม่ว่าจะเรื่องปัญหาความรัก การเรียน และเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ทุกอย่างเกิดขึ้นที่มหาสารคาม ก็เลยกลายเป็น ฮักนะสารคาม Q: เบื้องหลังการถ่ายทำ ต้องยกกองถ่ายไปปักหลักถึงจังหวัดมหาสาราคาม สนุกสานหรือมีปัญหาอย่างไรบ้าง สำหรับเบื้องหลังการถ่ายทำ คือเราไม่สามารถยกกองถ่ายไปๆ กลับๆ ระหว่างกรุงเทพ มหาสารคามได้บ่อยๆ พวกเราเลยต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่นู่นเลย ไม่ว่าจะเป็นทีมกล้อง ทีมไฟ ทีมเสียง ทีมงานทั้งหมดต้องไปอยู่เกือบ 2 เดือน เพราะต้องเตรียมงานไปหาโลเกชั่นไปหานักแสดงที่เป็นคนท้องถิ่นที่นู่น และในหนังจะมีทั้งฉากคอนเสิร์ตหมอลำ ก็เลยทำให้เราต้องไปฝังตัวที่นู่นเพื่อไปหาคนไหนที่สามารถแต่งเพลงหมอลำได้ ร้องเพลงหมอลำได้ หมอลำวงไหนเป็นอย่างไร ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่นู่น กินนอนอยู่ด้วยกันทุกวันทั้งสนุกทั้งผูกพัน ปัญหามีบ้างเพราะมันคือการทำงานที่ต้องอยู่ร่วมกัน และที่สนุกคือเรื่องนี้มีหลากหลายสำเนียงอีสานมาก อย่างน้องเกรทจะเป็นอีสานสำเนียงชัยภูมิ น้องอ้วนสำเนียงอุบล ตุ๊กกี้ก็อีกสำเนียงหนึ่ง น้องมิลค์ น้องหนูจ๋า ธันวา ทุกคนพูดภาษาอีสานคนละสำเนียง ตอนแรกก็คิดว่าจะให้เป็นสำเนียงเดียวกันหมด แต่ว่ามันก็เป็นเสน่ห์ของความหลากหลาย เพราะคนอีสานแต่ละจังหวัดจะมีสำเนียงเป็นของตัวเองเราว่ามันน่ารักดีนะ และที่ทำให้กองครึกครื้นคือ เมื่อไหร่ที่ตุ๊กกี้กับอ.สมคิด (รับบทเป็นโส) เข้าฉากร่วมกัน ต้องกลั้นเสียงหัวเราะตอนนั่งกำกับอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ สองคนนี้ใส่มุกตลกกันไม่ยั้งเลยเมื่อไหร่ที่เข้าด้วยกันฮากันตลอดทั้งกอง สำหรับฉากที่มีปัญหาก็มีนะเพราะว่าเราถ่ายทำช่วงหน้าฝน จะมีฉากหนึ่งที่น้องธันวานั่งอยู่ตรงเชิงเขา แล้วกล้องต้องไหลออกมาให้เห็นทิวเขาสูงๆ สวยๆ ฉากนี้ฉากเดียวถ่ายกันทั้งวันเลย ต้องนั่งรอฝนหยุดเพื่อให้ภาพสวยตามที่อยากได้ Q: บทบาทของ ตุ๊กกี้ ในเรื่องนี้จะความแตกต่างจากเรื่องอื่นอย่างไรบ้าง ตุ๊กกี้เล่นหนังมาเยอะก็จริงนะ แต่สำหรับเรื่องนี้เราให้ตุ๊กกี้แสดงเป็นตัวเอกเลย แสดงนำเดินเรื่องทั้งเรื่อง และพูดภาษาอีสานทั้งเรื่อง เราคิดว่ายังไม่เคยเห็นตุ๊กกี้ในบทบาทแบบนี้นะ เพราะเรื่องอื่นจะมีตุ๊กกี้เป็นสีสันบ้างถูกรับเชิญบ้างหรืออย่างเรื่องตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ รับบทเป็นนางเอกแต่เรื่องนั้นจะเป็นแบบแฟนตาซีเต็มๆ ทั้งเรื่องไม่ใช่แบบเรียลิสต์ (Realist) เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ตุ๊กกี้จะได้เล่นเป็นคนอีสานเต็มตัวและเต็มเรื่อง Q: ส่วนตัวแล้วมีฉากไหนที่ประทับใจในเรื่องนี้ ประทับใจฉากคอนเสิร์ตใหญ่ ซึ่งเป็นฉากที่ยากมากและนักแสดงทุกคนต้องมาเจอกันที่คอนเสิร์ตหมอลำนี้ ต้องใช้ตัวแสดงประกอบเยอะมาก ซึ่งช่วงหัวค่ำตอนเริ่มตั้งเซ็ทฉากเราก็หวั่นใจว่าจะไม่มีชาวบ้านมาดู ทีมงานก็ไปขี่มอเตอร์ไซค์ถือโทรโข่งประกาศ ทำทุกอย่างเพื่อให้ชาวบ้านมารวมตัวกันเข้าฉากคอนเสิร์ตครั้งนี้ ประทับใจมากเพราะชาวมหาสารคามหลั่งไหลกันมาเยอะมากทำให้ฉากเรายิ่งใหญ่อลังการเป็นคอนเสิร์ตหมอลำจริงๆ ก็ประทับใจทั้งชาวมหาสารคามที่ให้ความช่วยเหลือกองถ่าย และประทับใจทีมงานที่ช่วยให้ฉากนั้นเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี เป็นฉากที่ยากและเป็นฉากที่ใหญ่พวกเราพยามทำออกมาให้ดีที่สุดเลยประทับใจฉากนี้ Q: เล่าถึงการร่วมงานกับ “ตุ๊กกี้” นักแสดง, ดาวตลก และพิธีกรหญิงมากความสามารถ ที่กำลังฮ็อตสุดๆ ในยุคนี้ กับตุ๊กกี้ เราเคยร่วมงานกันมาก่อนหน้านี้ ตุ๊กกี้น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย แต่ที่ยากเพราะกองถ่ายเราจะต้องหาคิวตุ๊กกี้ให้ได้เธอคิวแน่นมาก แต่พอได้คิวมาบางครั้งการเดินทางไปและกลับก็ไม่ได้เป็นเครื่องบินทุกครั้งเราเองก็เกรงใจ แต่ตุ๊กกี้มีสปิริตมาก บางทีก็ยอมนั่งรถตู้หลายชั่วโมงกลับกรุงเทพ-มหาสารคามเพื่อทำงานต่อ ตุ๊กกี้ให้ใจเราเยอะมาก ช่วยเหลือเยอะมากช่วยคิดนู่นคิดนี่คิดมุกของตัวเองที่อยู่ในเรื่อง และยังสอนน้องๆ นักแสดงหน้าใหม่ด้วย ช่วยอบรมด้วยบางครั้งเพราะเด็กๆ ยังซนยังดื้อกันอยู่บ้าง (หัวเราะ) Q: แล้วการร่วมงานกับนักแสดงวัยรุ่นหน้าตาสวย หล่อทั้งนั้น แต่หัวใจอีสานเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับน้องธันวามีความตั้งใจในการทำงานสูงมาก บทของเขาเป็นบทที่ยากและไม่เคยเล่นหนังมาก่อนเลย เพราะฉะนั้นต้องมาปรับพื้นฐานการแสดง ส่วนน้องๆ นักแสดงหน้าใหม่ เราดีใจที่คัดเลือกเขามาแล้วตรงกับบทคาแร็คเตอร์ที่เราอยากได้ แต่เราไม่มีเวลามากพอที่จะเวิร์คช็อปเกี่ยวกับการแสดงต้องอาศัยความเป็นตัวเองของพวกน้อง และใส่เทคนิควิธีการแสดงที่เราจะไกด์แนะนำที่เราจะสอนน้องตรงนั้น ซึ่งโชคดีมากที่น้องๆ สอนง่าย ประทับใจมากคือน้องเกรท ด้วยความที่น้องเป็นนักเรียนสายวิทย์ ก็กลัวว่าจะเล่นได้หรือเปล่านะ แต่หน้าตาและคาแรคเตอร์น้องเขาได้ ก็ปรากฏว่าน้องเกรทเล่นออกมาได้ดีมากต้องขอชม ไม่ว่าจะฉากดราม่า ฉากรักกุ๊กกิ๊ก แสดงออกมาได้น่ารัก และมีพัฒนาการในการแสดงสูงมาก และสำหรับน้องมิลค์กับน้องหนูจ๋าต้องยกย่องในเรื่องสปิริตทางการแสดง ในเรื่องมิลค์จะต้องรับบทเป็นนักกีฬาเทควันโด ก็ต้องมีการฝึกและซ้อมออกกำลังแล้วเวลาถ่ายฉากน้องมิลค์เล่นเทควันโด ขาน้องมิลค์ก็เริ่มหมดแรงยกไม่ขึ้น แขนก็ไม่ไหวเพราะว่ามันเหนื่อยจริงๆ นะถ้าเราไม่เคยเล่นมาก่อน พอไม่ได้ไม่สมจริงเราก็จะขอใหม่อีกทีอยู่เรื่อยๆ ต้องถ่ายหลายเทคหลายมุมมาก น้องมิลค์เหงื่อแตกขายกไม่ขึ้นแต่ก็พยามเต็มที่ฝึกจนให้ออกมาดูเป็นนักกีฬามากที่สุด ส่วนน้องหนูจ๋าครั้งแรกที่ติดต่อมาเล่นก็บอกต้องมีฉากลงไปในปลักควายนะกล้าเล่นไหม เพราะว่ามันจะสกปรกนะต้องอยู่ปลักควายจริงๆ หนูจ๋าก็บอกว่าเล่นอยากเล่นโรแมนติกคอมิดี้และพูดภาษาอีสานเลยพอดีกันเลย แล้วตอนถ่ายเนี่ยก็ต้องหลอกล่อควายให้มาอยู่ในฉาก มันจะมีปลักหนึ่งเป็นของหนูจ๋า และอีกปลักหนึ่งเป็นของควาย ด้วยความที่ว่าควายมันดื้อก็ลงไปอยู่ในปลักหนูจ๋าบ้าง ปลักตัวเองบ้าง ทำให้หนูจ๋าพอตอนถ่ายจริงต้องไปอยู่ปลักเดียวกับควาย แล้วก็ต้องถ่ายหลายเทคหนูจ๋าก็ต้องสะบัดผมไปมา ต้องยอมรับว่าสปิริตสูงมากกับการทุ่มเทการแสดงของหนูจ๋า Q: สิ่งที่คาดหวังว่าคนดูจะได้รับจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ความบันเทิง ความสนุกสนานที่หนังเรื่องนี้มีอยู่แน่นอน และสิ่งที่อยากให้คนดูได้กลับไปจากการชมเรื่อง ฮักนะ ‘สารคามคือ การเห็นอีสานในอีกมุมหนึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นมุมแห้งแล้งอย่างเดียว ดูแล้วเราจะซึบซับศิลปวัฒนธรรมและสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมร่วมสมัยของคนอีสานเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย นั่นคือสิ่งที่เราหวังเอาไว้ Q: เสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่อง ฮักนะ’ สารคาม สำหรับเสน่ห์ของหนังอยู่ตรงที่เป็นหนังรักกุ๊กกิ๊กโรแมนติกคอมิดี้ในอีกแง่มุมหนึ่งที่มีความเป็นคนอีสานอยู่ในนั้น จะมีภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและก็เสน่ห์ของภาษาอีสาน คิดว่าทุกวันนี้ไม่ต้องเป็นคนอีสานก็ฟังอีสานออก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ทีวี ก็มีภาษาอีสานให้ฟังกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมาดูหนังเรื่องนี้ไม่ต้องกลัวว่าฟังภาษาอีสานไม่ออกแล้วจะไม่สนุก เรามีซับไตเติ้ลมันส์ๆ แปลได้อรรถรสแน่นอน และมั่นใจว่าต่อให้ฟังอีสานไม่ได้ก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่หนังบอก ไม่ใช่ว่าฉันไม่ใช่คนอีสานแล้วจะดูหนังเรื่องนี้ไม่ได้...ทุกคนสามารถดูและได้รับความบันเทิงอย่างแน่นอน คิดว่าหนังเรื่องนี้จะให้อะไรกับคนที่ไม่ใช่คนอีสานเยอะมากพอสมควร Q: ฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ที่ตั้งใจกำกับเพื่อคนดูทั้งประเทศในครั้งนี้หน่อย ทำหนังเรื่องนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกๆ คนเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน นักแสดง ประชาชนชาวมหาวิทยาลัยมหาสารคามแล้วก็น้องๆ โรงเรียนมัธยมต่างๆ หรือสถาบันต่างๆ ในมหาสารคาม ให้ความช่วยเหลืออย่างดี ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนที่ให้ใจในการร่วมกันสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา และอยากฝากให้คนไทยทุกๆ คนไม่ว่าจะเป็นคนอีสานหรือไม่ใช่คนอีสานไปดูหนังเรื่องนี้ เปิดแง่มุมความบันเทิง ความสนุกสนาน วิวสวยๆ เรื่องราวน่ารักๆ แล้วยังได้เห็นอีกมุมหนึ่งของศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เราสามารถอยู่ได้กับสิ่งที่เป็นความทันสมัยจากต่างประเทศที่นำวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาผสานกันกับวัฒนธรรมของบ้านเราและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้...ฮักนะ’ สารคาม วันที่ 10 มีนานี้ เจอกันในโรงภาพยนตร์ สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวมหาวิทยาลัยมหาสารคาม+ภาพยนตร์เรื่องวันนี้

โก โฮลเซลล์ ลุยเคาะรั้วมหาวิทยาลัย ชี้ช่องตำแหน่งงาน นำร่อง ม.มหาสารคาม เจาะนิสิตเฉพาะทาง เพิ่มผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ตอกย้ำ Brand Core Value

โก โฮลเซลล์ (GO WHOLSALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เร่งค้นหาโอกาสที่สดใหม่ ด้านการเฟ้นหาทรัพยากรบุคคล ลุยชี้แนะนักศึกษาถึงรั้วมหาวิทยาลัย เน้นทำงานตรงสายเสริมแกร่งผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ นำร่องที่แรก 'มหาวิทยาลัยมหาสารคาม'! นางสาวยิ่งลักษณ์ นิพนธ์ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด กล่าวว่า โก โฮลเซลล์ มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอทางเลือกที่สดใหม่

นักศึกษาจากวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึก... นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานีคว้ารองชนะเลิศอันดับ 1 ในการแข่งขันนวัตกรรมการท่องเที่ยว — นักศึกษาจากวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าด้านธุรกิจบริการ...

บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำก... ยิปซัมตราช้าง มอบรางวัลผู้ชนะจาก "โครงการประกวดแบบภายใน บ้านซำบาย สไตล์ยิปซัมตราช้าง" — บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด หรือ "ยิปซัมตราช้าง" น...

เมื่อเร็วๆนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกั... มมส จับมือ ทีซีซีเทค และ ยิบอินซอย ตั้งเป้าสู่การเป็น Digital Learning Hub ในภาคอีสาน — เมื่อเร็วๆนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับ บริษัท ที.ซี.ซี เทคโนโล...