กรมวิทย์ฯบริการ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยกระดับฟาร์มไข่ผำอินทรีย์สู่มาตรฐาน GAP และ PGS นำร่อง 4 จังหวัดภาคอีสาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ขับเคลื่อนการพัฒนาฟาร์มไข่ผำอินทรีย์ต้นแบบให้ได้มาตรฐาน Good Agriculture Practices (GAP) และ Participatory Guarantee System (PGS) และพัฒนาสู่ฟาร์มไข่ผำให้สอดคล้องเป็นไปตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยนำร่องใน 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ มหาสารคาม ร้อยยเอ็ด กาฬสินธุ์และ ขอนแก่น เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรไทย ระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2568

กรมวิทย์ฯบริการ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยกระดับฟาร์มไข่ผำอินทรีย์สู่มาตรฐาน GAP และ PGS นำร่อง 4 จังหวัดภาคอีสาน

ดร.กนิษฐ์ ตะปะสา ผู้อำนวยการสถาบันห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติ (สอช.) วศ. เปิดเผยว่า ไข่ผำ (Wolffia) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "คาเวียร์เขียว (Green Caviar)" เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งบางสายพันธุ์มีปริมาณสูงถึง 48.6% ทั้งยังได้รับการผลักดันให้เป็นพืชยุทธศาสตร์ในหมวดอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ภายใต้นโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อย่างไรก็ตาม การเพาะเลี้ยงไข่ผำในแหล่งน้ำธรรมชาติบางแห่ง ซึ่งอาจมีความเสี่ยงจากปัญหาการปนเปื้อนจากสารเคมี โลหะหนัก และจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายและส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมวิทย์ฯบริการ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยกระดับฟาร์มไข่ผำอินทรีย์สู่มาตรฐาน GAP และ PGS นำร่อง 4 จังหวัดภาคอีสาน

วศ. ได้ร่วมมือกับ มมส. ในการพัฒนาและยกระดับฟาร์มไข่ผำอินทรีย์ต้นแบบ โดยเน้นการบูรณาการองค์ความรู้จากภาครัฐและเอกชน พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพสามารถผลิตไข่ผำให้ได้มาตรฐาน GAP และ PGS ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตให้มีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในและต่างประเทศ

คณะนักวิจัย วศ. ได้เข้าพบ ดร.ศุภชัย สุทธิเจริญ รองคณบดีคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาฟาร์มต้นแบบ พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจข้อมูลและเยี่ยมชมฟาร์มไข่ผำของกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในสองพื้นที่สำคัญ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ปราชญ์ชาวบ้าน บ้านเชียงงาม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งใช้วิธีเพาะเลี้ยงไข่ผำในบ่อดินโดยใช้แหล่งน้ำธรรมชาติจากเขื่อนลำปาว และวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตและแปรรูปพืชสวนและพืชน้ำสำราญโรจน์ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม ที่ใช้ระบบบ่อปูนซีเมนต์ซึ่งใช้น้ำจากแหล่งน้ำบาดาลในการเพาะเลี้ยง การลงพื้นที่ดังกล่าวช่วยให้สามารถประเมินศักยภาพของระบบการเพาะเลี้ยงแต่ละรูปแบบ และหาแนวทางในการพัฒนาฟาร์มต้นแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรไทยในการแข่งขันในตลาดอาหารแห่งอนาคต ต่อยอดสู่ความยั่งยืนในภาคเกษตรกรรมของประเทศ


ข่าวมหาวิทยาลัยมหาสารคาม+กรมวิทยาศาสตร์บริการวันนี้

STI เปิดโลกการเรียนรู้นอกห้องเรียน ถ่ายทอดประสบการณ์งานก่อสร้างสู่นิสิตสถาปัตย์ ม.มหาสารคาม

โครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน (IPD) โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดต้อนรับคณาจารย์และนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ สาขาสถาปัตยกรรมภายใน จำนวน 49 คน เข้าศึกษาดูงานเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 การศึกษาดูงานในครั้งนี้ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ได้นำทีมโดย นายพิศิษฐ์ จักราบาตร สถาปนิกโครงการงานสถาปัตยกรรมภายใน ถ่ายทอดองค์ความรู้และเล่าประสบการณ์จากการทำงานจริง พร้อมบรรยายแบบงานก่อสร้าง รวมถึงพาชมขั้นตอนการก่อสร้างอาคาร 13 ชั้น ที่ออก

นักศึกษาจากวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึก... นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานีคว้ารองชนะเลิศอันดับ 1 ในการแข่งขันนวัตกรรมการท่องเที่ยว — นักศึกษาจากวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าด้านธุรกิจบริการ...

บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำก... ยิปซัมตราช้าง มอบรางวัลผู้ชนะจาก "โครงการประกวดแบบภายใน บ้านซำบาย สไตล์ยิปซัมตราช้าง" — บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด หรือ "ยิปซัมตราช้าง" น...

เมื่อเร็วๆนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกั... มมส จับมือ ทีซีซีเทค และ ยิบอินซอย ตั้งเป้าสู่การเป็น Digital Learning Hub ในภาคอีสาน — เมื่อเร็วๆนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับ บริษัท ที.ซี.ซี เทคโนโล...