นักลงทุน 73% คาดว่าจะขยายพอร์ตโฟลิโอ 59% เล็งลงทุนในต่างประเทศ(เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกงและสิงคโปร์เป็นเป้าหมายในการลงทุนในเอเชีย)
ผู้ตอบแบบสำรวจกระแสความรู้สึกของนักลงทุนทั่วโลกของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลส่วนใหญ่ระบุว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เกือบทั่วโลกผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างขาขึ้น ดูเหมือนว่านักลงทุนในเอเชียจะมีทัศนคติเชิงบวกมากเป็นพิเศษ โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 91% แสดงความปรารถนาซื้อสินทรัพย์ในพื้นที่ภายในประเทศของพวกเขา และ 73% พิจารณาขยายพอร์ตการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
เซี่ยงไฮ้ในประเทศจีน ตามด้วยฮ่องกงและสิงคโปร์เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับนักลงทุนชาวเอเชียที่กำลังมองหาพื้นที่สำนักงานในช่วง 12 เดือนนับจากนี้ เซี่ยงไฮ้อยู่ในช่วงฟื้นตัว คาดว่าตลาดสำนักงานในฮ่องกงและสิงคโปร์จะแกว่งตัวสูงขึ้นไปอีก นักลงทุนประเภทบุคคลทั่วไปบอกว่ามีความตั้งใจจะไขว่คว้าโอกาสในการลงทุนในที่พักอาศัยในเมืองชั้นสองของจีน ได้แก่ นานกิงและหังโจว
นาฬิกาอสังหาริมทรัพย์โลกเขยื้อนจาก 6 นาฬิกาในไตรมาสที่ 1 จน ณ วันนี้ นักลงทุนชาวเอเชียมองว่าเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 7 นาฬิกากว่าๆ 12 เดือนนับจากนี้ คาดการณ์ว่าตลาดเอเชียจะขยับไปอยู่ที่ระหว่าง 8 ถึง 9 นาฬิกา ในทั้งสองกรณี ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มใหญ่ที่สุดเห็นว่าตลาดเติบโตในอัตราที่เร็วกว่าเดิม
"การสำรวจแสดงให้เห็นว่านักลงทุนชาวเอเชียเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานด้านมหภาคในภูมิภาค" คุณปิแอร์ส บรุนเนอร์ ซีอีโอ เอเชียกล่าว "หนี้ส่วนบุคคลและบริษัทอยู่ในระดับต่ำ อัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบกับสภาพคล่องสูง ทัศนคติในเชิงบวกของตลาดยิ่งแข็งแกร่งขึ้นโดย 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียกล่าวว่าไม่น่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเป็นคำรบสอง"
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนชาวเอเชียยังมีความกังวลใจบางประการ เช่น ความผันผวนของนโยบายรัฐบาลในการบรรเทาสภาวะตลาดที่ร้อนแรงเกินไป การเปลี่ยนแปลงสภาพคล่องในตลาดและการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนชาวเอเชียคาดว่าจะขยายพอร์ตการลงทุนเพิ่มขึ้น
มองไปอีก 12 เดือนข้างหน้า นักลงทุนชาวเอเชียกลุ่มใหญ่ที่สุด (73%) คาดว่าจะขยายพอร์ตการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ตัวเลขนี้สูงขึ้นจาก 65% ที่ระบุไว้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มใหญ่รองลงมา (18%) คาดว่าจะปรับสมดุลย์ขนาดพอร์ตในปีหน้า
ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเอเชียยังมีสูง
ความต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเอเชียใในหมู่นักลงทุนชาวเอเชียยังคงพุ่งสูงขึ้น ผู้ตอบแบบสอบถาม 91% แสดงความปรารถนาซื้อสินทรัพย์ในภูมิภาคภายในประเทศของตน เมื่อเทียบกับ 78% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 เปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นอาจอธิบายได้ว่าเป็นผลจากคาดว่าอัตราการเติบโตในเอเชียจะสูงขึ้น โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากตลาดจีน
ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกเพียง 30% เท่านั้นคิดลงทุนในตลาดนอกประเทศ ผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชีย 59% ระบุว่ามีความปรารถนาจะซื้อสินทรัพย์ในต่างประเทศ โดยกลุ่มนี้เลือกประเภทสำนักงานในซิดนีย์และทรัพย์สินย่อยในบริสเบน ออสเตรเลีย บ้างก็คิดถึงสินทรัพย์ประเภทสำนักงานในนิวยอร์กและชิคาโก้เป็นจุดเริ่มเข้าสู่ตลาดที่ดีในช่วงที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
ทัศนคติเชิงบวกแตะระดับใหม่โดยเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกแกว่งตัวขึ้น
ในระดับโลก ผู้ตอบแบบสำรวจกลุ่มใหญ่ที่สุดให้นาฬิกาอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคของตนอยู่ที่ 8 นาฬิกา กลุ่มใหญ่เป็นอันดับสองและสามอยู่ที่ 6 และ 7 นาฬิกาตามลำดับ คำตอบดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าตลาดแทบทุกแห่งในโลกอยู่ในช่วงแกว่งตัวสูงขึ้น และมีลักษณะเด่นตรงอุปสงค์เพิ่มขึ้น อัตราการมีอยู่และการว่างลดลง และอัตราค่าเช่าทรัพย์สินเด่นๆ เพิ่มสูงขึ้น นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจากการสำรวจกระแสความรู้สึกนักลงทุนของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ให้ตลาดท้องถิ่นของตนอยู่ระหว่าง 5 ถึง 6 นาฬิกา
ผลสำรวจสำคัญอื่นๆ จากการสำรวจกระแสความรู้สึกนักลงทุนของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2553 มีดังต่อไปนี้:
- 90%ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่ามีแผนเพิ่มหรือรักษาระดับปริมาณอสังหาริมทรัพย์ที่ถืออยู่จากเดิมภายใน 1 ปี
- นิวยอร์ก ชิคาโก้ ซานฟรานซิสโก วอชิงตัน ลอนดอน ซิดนีย์ สิงคโปร์และฮ่องกงเป็นจุดมุ่งหมาย สำคัญในการลงทุนนอกประเทศ ตลาดเกิดใหม่ที่ถูกกล่าวถึงได้แก่ โปแลนด์ ยูเครนและบราซิล
เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์คิดว่าสามารถกู้ยืมได้ง่ายขึ้นในช่วง 12 เดือนนับจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามที่บอกว่าเชื่อว่าต้นทุนเงินกู้จะสูงขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้ามีจำนวนลดลงจากไตรมาสที่ 1 ปี 2553 เล็กน้อย โดย 44 เปอร์เซ็นต์คาดว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ 52 เปอร์เซ็นต์เมื่อหกเดือนก่อน
ผลการสำรวจสำคัญในแต่ละภูมิภาค
- ในยุโรปตะวันตก ผู้ตอบแบบสำรวจ 62% ในครั้งนี้มีความประสงค์จะลงทุนนอกประเทศ สูงขึ้นจาก 30% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 อย่างชัดเจน
- ในสหรัฐอเมริกา นักลงทุนจำนวนมากพอสมควร (65%) บ่งชี้ว่ากำลังพิจารณาขายสินทรัพย์ภายใน 12 เดือนข้างหน้าเมื่อเทียบกับ 23 เปอร์เซ้นต์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2553
- ในอีก 12 เดือนข้างหน้า นักลงทุนในแปซิฟิก (ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) ที่คาดว่าจะขยายพอร์ตด้านอสังหาริมทรัพย์มีจำนวนลดลง (46%) เมื่อเทียบกับ 68% ที่คาดว่าจะขยายการลงทุนในไตรมาสที่ 1 ปี 2553
- ในบรรดานักลงทุนจากตะวันออกกลาง และแอฟริกา 63% ระบุว่ากำลังค้นหาวิธีลดระดับความเสี่ยง โดย 25% บ่งชี้ว่าต้องการเพิ่มการกระจายการลงทุนในพอร์ต ส่อให้เห็นถึงระดับการบริหารความเสี่ยงโดยรวม
- ทั่วยุโรปกลางและตะวันออก บริเวณทำเลเป้าหมายของนักลงทุนค่อนข้างหลากหลาย แม้ว่าวอร์ซอว์จะยังคงเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสำนักงาน เป้าหมายยอดนิยมอื่นๆ ที่มีการกล่าวถึงได้แก่ เคียฟ ปราก มอสโก และบูดาเปสต์
- ในบรรดานักลงทุนชาวละตินอเมริกา 69% ของผู้ตอบแบบสำรวจแจ้งว่าจะไม่ลดระดับความเสี่ยงลง
- 67 เปอร์เซ็นต์ของนักลงทุนที่ทำการสำรวจใน แคนาดา คิดว่าอัตราค่าเช่าทรัพย์สินชั้นดีอย่างแท้จริงในตลาดสำนักงานหากไม่ลดลงสู่จุดต่ำสุดภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 ก็ไปถึงจุดต่ำสุดแล้ว สำหรับตลาดอุตสาหกรรม 78 เปอร์เซ็นต์ของนักลงทุนคิดว่าถึงจุดต่ำสุดไปแล้วหรือจะถึงจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 และเปอร์เซ็นต์เพิ่มสูงขึ้นเป็น 83 เปอร์เซ็นต์ในภาคค้าปลีก
การสำรวจกระแสความรู้สึกของนักลงทุนโดยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2553 จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 15 สิงหาคมถึง 7 กันยายน 2553 โดยทำการสำรวจนักลงทุนประเภทสถาบันและเอกชนรายใหญ่ทั่วโลก วัตถุประสงค์หลักในการสำรวจครั้งนี้คือเพื่อให้เข้าใจทัศนคติที่นักลงทุนทั่วโลกมีต่อสภาวะตลาดปัจจุบันทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคได้ดีขึ้น รวมถึงนักลงทุนมองอนาคตในอีก 12 เดือนข้างหน้าอย่างไรด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
นายแอนโทนี พิคอน | ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย
โทร (662) 656 7000
อีเมลล์ :
[email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net