“โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” เดินหน้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสานต่อความช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีปัญหาด้านสายตาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

26 May 2011

กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--เวิรฟ

  • จำนวนผู้สูงวัยที่ได้รับบริการไปแล้ว ตั้งแต่ริเริ่มดำเนินโครงการในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 ทั้งสิ้นกว่า 17,000 คน - ในปี พ.ศ. 2554 นี้ทางโครงการฯ ตั้งเป้าที่จะให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยทั่วประเทศเป็นจำนวนกว่า 7,000 คน

ห้างแว่นท็อปเจริญ ร่วมกับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ลงพื้นที่ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นฟรี ให้กับผู้สูงวัยที่ประสบปัญหาทางสายตากว่า 400 คนในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสานต่อโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีปัญหาสายตาในถิ่นทุรกันดาร ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถประกอบอาชีพ เลี้ยงดูตนเองและบุตรหลานได้ดีขึ้น โดยได้รับเกียรติจากนายจิรายุทธ วัจนรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายติรวัฒน์ สุจริตกุล ที่ปรึกษากองงานในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมเป็นประธานเปิดกิจกรรม ร่วมด้วยดาราหนุ่มสุดฮอต เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ มาช่วยสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้สูงวัยในพื้นที่ และชมการสาธิตการทำหัตถกรรมจากภูมิปัญญาผู้สูงอายุที่น่ายกย่อง

นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ห้างแว่นท็อปเจริญ เปิดเผยว่า โครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” เกิดขึ้นจากความร่วมมืออันดีระหว่างห้างแว่นท็อปเจริญและมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เพื่อสนองพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการช่วยเหลือผู้สูงวัยอายุ 45 ขึ้นไป ที่ประสบปัญหาทางสายตาในถิ่นทุรกันดาร เพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้สูงวัย ทั่วประเทศให้ผ่านพ้นอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากสายตา สามารถประกอบอาชีพ เลี้ยงดูตนเองได้ดีขึ้น ด้วยการดำเนินงานตรวจวัดสายตาประกอบแว่นใหม่ให้ฟรีโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัยจากห้างแว่น ท็อปเจริญ รวมทั้งรักษาอาการทางสายตาและดูแลสุขภาพตาให้แก่ผู้สูงวัยในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นสำหรับผู้สูงวัยในจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวน 400 คนที่จะได้เข้ารับการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นฟรีในครั้งนี้และผู้สูงวัยในทั่วทุกภาคของประเทศ

ในเดือนพฤษภาคม 2554 นี้ ทางโครงการฯ ทำการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สูงวัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยได้รับเกียรติจากนายจิรายุทธ วัจนรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายติรวัฒน์ สุจริตกุล ที่ปรึกษากองงานในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมเป็นประธานเปิดกิจกรรมการตรวจวัดสายตา พร้อมด้วยนางไอริณ จิตต์การุณราษฎร์ ผู้แทนมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย และนายบุญส่ง ไตรภูธร ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กล่าวถึงที่มาของโครงการ โดยไฮไลต์พิเศษของกิจกรรมในครั้งนี้ ทางโครงการฯ ได้รับเกียรติจาก คุณเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ ดาราหนุ่มสุดฮอต เดินทางมาร่วมกิจกรรมการกุศล และสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้สูงวัยในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมร่วมชมบรรยากาศกระบวนการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นให้กับผู้สูงวัย และการสาธิตการทำหัตถกรรมจากภูมิปัญญาผู้สูงอายุที่น่ายกย่องอันเป็นมรดกล้ำค่าในแบบของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์

ปัญหาการเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา เนื่องจากผ่านการใช้งานอย่างหนักมาหลายสิบปี ส่งผลให้ผู้สูงวัยในจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนมากต้องประสบปัญหาในการมองเห็น ถึงขั้นประกอบอาชีพตามปกติไม่ได้ ซึ่งอาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้แก่จังหวัด คือ อาชีพเกษตรกรรม และหัตถกรรม อาทิ ทอผ้า จักสาน ฯลฯ ทางโครงการฯ จึงมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การช่วยเหลือตรวจวัดสายตา และประกอบแว่นใหม่ให้กับผู้สูงวัยเหล่านี้ และไม่เพียงแต่จะเป็นการสืบสานหัตถกรรมท้องถิ่นแล้ว ยังจะทำให้พวกเขาพบกับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อีกครั้ง โดยสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ดีขึ้น และไม่เป็นภาระต่อบุตรหลานอีกด้วย

“เพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่ 34 ของการดำเนินงานลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัย โดยในปี พ.ศ. 2554 นี้ทางโครงการฯ ตั้งเป้าที่จะให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยเป็นจำนวนกว่า 7,000 คน และจะมุ่งเน้นการขยายพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยในจังหวัดห่างไกลและถิ่นทุรกันดารเพื่อสนองพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนฯ ซึ่งหลังจากโครงการได้ริเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบันรวมจำนวนผู้สูงวัยที่ได้รับบริการไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 17,000 คน” นายนพศักดิ์ กล่าว

นายนพศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในการช่วยเหลือผู้สูงวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทางโครงการฯ มีการกำหนดเป้าหมายจำนวนผู้สูงวัยทั่วประเทศ ที่จะได้รับบริการไว้รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 คน เมื่อสิ้นสุดการดำเนินการโครงการอย่างต่อเนื่องจนครบทั่วทุกภาคของประเทศตลอดระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2552 – 2557 โดยมีผู้ได้รับบริการในแต่ละพื้นที่ประมาณ 400 คนต่อครั้งต่อจังหวัดในปี จากการพิจารณาคัดเลือกผู้สูงวัย โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่ได้ประสานความร่วมมือกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ของแต่ละจังหวัด

สำหรับผู้สูงวัยที่มีอาการทางสายตา และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดแว่น เช่น มีอาการต้อกระจก ฯลฯ ทางมูลนิธิฯ จะส่งผู้สูงวัยรายนั้นๆ ไปรักษายัง “ศูนย์รักษาตา ท็อปเจริญจักษุ” ซึ่งเป็นศูนย์รักษาตาที่ตั้งขึ้น โดยห้างแว่นท็อปเจริญเพื่อให้บริการแก่ผู้เป็นโรคทางสายตาและโรคตา ศูนย์รักษาตาท็อปเจริญจักษุ จะให้การรักษา ผู้สูงวัยที่พบว่าเป็นโรคตาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่น ตามโครงการนี้ปีละ 100 ดวงตา โดยไม่คิดค่าบริการรักษาแต่อย่างใด

นางชื่น ชานนท์ ปัจจุบันอายุ 69 ปีอาชีพเกษตรกรรม ผู้สูงวัยในพื้นที่ ต.น้ำหนาว อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ที่ได้รับแว่นตาจากโครงการฯ กล่าวว่า “ไม่เคยคิดว่าการมองเห็นจะเป็นสิ่งที่สำคัญกับชีวิตขนาดนี้ จนเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ดวงตาด้านซ้ายมองเห็นไม่ชัดเจน พร่ามัวและปวดแสบเมื่อโดดแสงแดด มองอะไรก็ต้องเพ่งใกล้ๆ ทำให้ประกอบอาชีพไม่สะดวก และใช้ชีวิตประจำวันไม่ปกติ หลังจากที่ได้รับทราบข่าวจากชุมชน จึงได้มาเข้ารับบริการจากโครงการนี้ พร้อมคาดหวังว่าหลังจากได้รับแว่นแล้ว เราจะสามารถกลับมามองเห็นได้ชัดอีกครั้ง และสามารถประกอบอาชีพได้เป็นปกติ และมีความอยู่ที่ดีขึ้นได้”

นางปัน คำยา ปัจจุบันอายุ 70 ปี อาชีพแม่บ้าน และทำเกษตรครัวเรือน ปลูกเห็ด กล่าวว่า ในบั้นปลายชีวิตคนแก่อย่างยาย ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า การที่สามารถดูแลตนเองได้ ไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน อะไรก็ตามที่ช่วยลูกหลานได้ก็อยากช่วย ทั้งการหาผัก เก็บเห็ดมาทำอาหารเลี้ยงชีพ หรือนำออกไปขาย ยายยิ่งอยากทำถึงแม้จะอายุมากแล้ว รู้สึกดีใจมากที่ได้รับแว่นตา และขอขอบคุณมากที่มีโครงการดี ๆ เช่นนี้ ทำให้สายตามองเห็นชัดขึ้นจากแว่นตาอันใหม่ ประกอบกับแรงกายและแรงใจที่ยังมีอยู่ สามารถประกอบการงานและกิจกรรมอะไรได้หลายอย่างด้วยความสะดวก และสามารถต่อสู้ชีวิตบั้นปลายของยายได้ต่อไปอีกด้วย”

ด้านดาราหนุ่มสุดฮอต เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการว่า “รู้สึกดี และภูมิใจมากที่ตนเองได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” นอกจากจะได้มาร่วมสร้างความบันเทิง และมอบความรู้สึกพิเศษๆ ให้กับผู้สูงวัยที่พื้นที่ จ.เพชรบูรณ์นี้แล้ว ยังมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้สูงวัย และรับรู้ถึงชีวิต และความยากลำบากของผู้สูงวัยที่ยากไร้ และประสบปัญหาด้านสายตาอีกด้วย หากมีโอกาสที่ผมจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้ในครั้งต่อไป ผมก็อยากไปร่วมโครงการนี้ในทุกๆ พื้นที่เลยครับ”

ประชาชนทั่วไปผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลกับโครงการ “แว่นตาเพื่อผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” สามารถร่วมบริจาคเงินสมทบทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ผู้สูงวัยที่ต้องการเข้ามารับการรักษาที่ “ศูนย์รักษาตา ท็อปเจริญจักษุ” ได้ โดยสามารถบริจาคได้ที่ห้างแว่นท็อปเจริญ ทุกสาขา และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-612-4170 หรือคลิกเข้าดูเว็บไซต์www.topcharoen.co.th

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนกรุณาติดต่อ : เวิรฟ

คุณภัทรภร ตันตรงภักดิ์ โทร. 02-204-8550

คุณเบญจพร บรรเจิดกิจ โทร. 02-204-8551

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net