โจทย์ที่ท้าทายในปฏิรูปการศึกษา: สอนอย่างไรให้เด็กนำไปใช้ได้จริง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--tcels

ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการสอน แนะแนวทางปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอนในงาน EDUCA 2011 จากการปฏิรูปการศึกษาที่ทั่วโลกและรวมถึงประเทศไทยเองก็ให้ความสำคัญ คือการเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมให้เป็นการจัดการเรียนรู้ที่สามารถสร้างและพัฒนาทักษะ ความสามารถ ตามศักยภาพของผู้เรียนเป็นอย่างบุคคล รศ.ดร.พิมพันธ์ เดชะคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการสอน อดีตหัวหน้าสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาในปัจจุบัน หัวใจหลักสำคัญที่สุดคือ การเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมให้เป็นการจัดการเรียนรู้ที่สามารถสร้างและพัฒนาทักษะ ความสามารถ ตามศักยภาพของผู้เรียนเป็นรายบุคคล รวมทั้งการจัดการเรียนรู้นั้นต้องมีคุณค่าโดยเด็กต้องได้เนื้อหาความรู้ และสามารถนำความรู้นั้นไปใช้ได้กับการปฏิบัติงานหรือในชีวิตจริง รวมทั้งทักษะสำคัญ คือ การการแก้ปัญหา การทำงานร่วมกับผู้อื่น ? การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นความท้าทายต่อครูเป็นอย่างยิ่ง ครูจำเป็นต้องปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอน ซึ่งตนเองได้มีประสบการณ์ตรงในการจัดกิจกรรมพัฒนาครู โดยเฉพาะภายในงาน EDUCA หรือ งานมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครูในครั้งที่ผ่านมา เราพบว่าครูมีความต้องการในด้าน รูปแบบ วิธี และเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นอย่างมาก แต่เดิมครูสามารถจัดการเรียนการสอนได้โดย บอก บรรยาย เนื้อหาให้แก่เด็ก แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือเด็กนำเอาความรู้ไปใช้ไม่ได้ ดังนั้นรูปแบบ วิธี และเทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่จะช่วยให้เด็กเกิดการพัฒนาทักษะ ความสามารถ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ครูต้องการมาก เช่น กิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบสอบ โครงงาน การแก้ปัญหา กรณีศึกษา และบทบาทสมมุติ เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็มีครูบางท่านสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เหล่านี้ได้โดยไม่รู้ว่ามีงานวิจัย หรือทฤษฎีมาสนับสนุน ดังนั้นการปฏิบัตินี้ก็ไม่ยั่งยืน ? สำหรับการปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน ตนเองก็มีหลักอย่างง่ายที่จะช่วยให้ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างประสบความเร็จ โดยครูต้องยึดหลักสามประการคือ "KNOW BE ACT" กล่าวคือ 1) KNOW : ครูต้องลุ่มลึกในเนื้อหา วิชาที่จะสอน 2) BE : ครูต้องมีคุณธรรม รักและเข้าใจเด็ก ครูต้องสามารถวิเคราะห์ และรู้ได้ว่าเด็กคนใดเป็นเด็ก เก่ง กลาง อ่อน เพื่อที่จะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างสนองตามความแตกต่างของเด็กอย่างแท้จริง และ 3) ACT : ครูต้องรู้ศาสตร์ในการสอน สามารถที่จะออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้ โดยสอดคล้องกับเนื้อหา และความแตกต่างของเด็กนักเรียนเหล่านั้น อย่างไรก็ตามในปีนี้ ตนเองและทีมงานได้เตรียมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการภายในงาน EDUCA 2011 หรืองานมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ครั้งที่ 4 ณ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคมนี้ โดยวันที่ 14 ภาคเช้า จะจัดประชุมฯ หัวข้อ "รายวิชาและกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อบริการสังคม (CAS) สอดคล้องกับสาระของโรงเรียนมาตรฐานสากล" ซึ่งในการประชุมฯ หัวข้อนี้จะให่้ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะสามารถพัฒนาผู้เรียนได้เป็นรายบุคคล โดยสร้างเป็นรายวิชา ทั้งสอดแทรกในรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชาเพิ่มเติม ตลอดจนหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานสากล (World Class Standard School) คือนอกเหนือจกทักษะด้านภาษาแล้ว จะสอนอย่างไรให้เด็กเกิดการพัฒนาทักษะการคิด การแก้ปัญหา กระบวนการในการเรียนรู้ ตลอดจนการบริการสังคม มีจิตเป็นสาธารณะ เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน นอกจากนี้ในภาคบ่าย จะจัดประชุมฯ หัวข้อ "กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ" โดยจะชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง กับกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ต่างกันอย่างไร รวมถึงหลักง่ายๆ ในการวิเคราะห์เด็ก และการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเน้นเด็กเป็นสำคัญ และจะเลือกเทคนิค รูปแบบ และวิธีใดในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อสนองต่อความแตกต่างเป็นรายบุคคล สำหรับครูที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมประชุมฯ ได้แล้ววันนี้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.EducaThai.com โทร. 02-748-7007 ต่อ 134 และนอกจากนี้ยังมีการประชุมปฏิบัติการอีกหลายหัวข้อที่น่าสนใจ คลอบคลุมในทุกมิติในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

ข่าวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย+พิมพันธ์ เดชะคุปต์วันนี้

RUN เปิดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม 24 ผลงาน ภายใต้ธีม "เศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่ออนาคตประเทศไทย" ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568

โชว์ศักยภาพ ด้านนวัตกรรม ศิลปวัฒนธรรม ความยั่งยืน พร้อมเวทีเสวนา Soft Power ขับเคลื่อนอนาคตไทย เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (RUN) ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดตัวนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้หัวข้อ "เศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่ออนาคตประเทศไทย" (Creative Economy for Thailand Tomorrow) ในงาน "มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568" ณ

ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ... ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชวนแข่งบอร์ดเกมชิงรางวัล — ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ Tower Tactic Games จัดการแข่งขัน "Chulabook B-Cup 2025" ขอเชิญ...

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดประวัติศาสตร์ควา... จุฬาฯ ผนึก Harvard เปิดประวัติศาสตร์ความร่วมมือระดับโลก ยกระดับองค์ความรู้ไทยสู่เวทีนานาชาติ — จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดประวัติศาสตร์ความร่วมมือกับ Harvar...