ปภ. รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลกหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด

08 Jun 2012

กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--ปภ.

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ประสบภัย 5 จังหวัด กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ดังนี้

กระบี่ น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ 1 เทศบาลเมืองกระบี่ 29 ตำบล 92 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,227 ครัวเรือน 5,881 คน บ้านเรือนเสียหาย 248 หลัง ถนน 68 สาย สะพาน 3 แห่ง ได้แก่ อำเภอเมืองกระบี่ ลันตา เขาพนม ปลายพะยา อ่าวลึก เหนือคลอง ลำทับ และเทศบาลเมืองกระบี่

ภูเก็ต ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองภูเก็ต กระทู้ ถลาง เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว

ระนอง เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ 14 ตำบล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,521 ครัวเรือน 24,737 คน ได้แก่ อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ สุขสำราญ กระบุรี และละอุ่น

ชุมพร เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ 31 ตำบล 204 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6,468 ครัวเรือน 12,540 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร ท่าแซะ สวี ทุ่งตะโก พะโต๊ะ หลังสวน และละแม

สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 10 อำเภอ 42 ตำบล 235 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 10,611 ครัวเรือน 35,200 คน ได้แก่ อำเภอคีรีรัฐนิคม วิภาวดี ท่าฉาง บ้านตาขุน พนม ไชยา ชัยบุรี พุนพิน เวียงสระ และพระแสง

สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือยาง รถบรรทุก รถเครนรถไฟฟ้าส่องสว่าง รถยูนิม็อค รถตรวจการณ์ เครื่องอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด ERTสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป-กภ-