หมอผิวหนังอโศก ชวนคนไทยดื่มน้ำบำรุงผิวและบอกความลับที่เราไม่เคยรู้

10 Jul 2012

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก

พญ.อัจฉราพร ถนอมภูวนาถ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก กล่าวชวนคนไทยหันมาดื่มน้ำ วันละ 8-10 แก้ว ต่อวัน เพื่อบำรุงผิวพรรณ ไม่ให้ผิวแห้ง ดูสดใส และสุขภาพที่ดี ต้านทานโรค ไม่ป่วยง่าย อีกทั้งยังเล่าเรื่องของน้ำให้ฟังว่า “น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย มีอยู่ถึง 2 ใน 3 ของน้ำหนักตัว เป็นองค์ประกอบของทุกอวัยวะที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายของเรา น้ำทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานเป็นปกติ ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยนำพาสารอาหาร และละลายวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ให้ไหลเวียนไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย การดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพมาก รวมถึง สุขภาพผิวหนังด้วยมีคนจำนวนไม่น้อย ที่เสียเงินไปกับเครื่องสำอางบำรุงผิวราคาแพงโดยละเลยสิ่งใกล้ตัวราคาถูก แต่ได้ผลดีมากที่สุดตัวหนึ่งนั้นก็คือ น้ำ ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวหนังของเรา ดังนี้

1. น้ำช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวจากภายใน เมื่อผิวขาดน้ำ จะทำให้ผิวแห้งกร้าน ดูหมอง ไม่กระจ่างใส นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหนังชั้นบนเกิดรอยย่นจากความแห้ง ผิวชั้นหนังแท้ขาดความยืดหยุ่น

2. น้ำเป็นสาระสำคัญที่ชำระล้างสารพิษต่างๆออกจากร่างกาย ถ้าเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ ของเสียจะตกค้างสะสมในร่างกาย ทำให้อวัยวะต่างๆรวมถึงผิวหนังเสียสุขภาพ อีกทั้งสารพิษที่ขับออกทางผิวหนังจะมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวได้

3. การดื่มน้ำ ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น ช่วยลดปัญหาตาโหล รอยคล้ำดำใต้ตาได้

4. ในผู้ป่วยโรคผิวหนังบางโรค เช่น ผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) การดื่มน้ำให้เพียงพออาจช่วยทำให้ผื่นดีขึ้นได้

5. น้ำเป็นตัวช่วยในกระบวนการซ่อมแซมต่างๆของร่างกาย รวมถึงผิวหนังด้วย เมื่อร่างกายของเราประสบภาวะขาดน้ำ จะมีการหลั่งสารที่เรียกว่า Histamine ทำหน้าที่ในการปันส่วนน้ำให้ไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ เช่น สมอง หัวใจ ก่อน ทำให้น้ำมาหล่อเลี้ยงผิวหนังลดน้อยลง เราจะรู้สึกว่า ผิวแห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น หมองคล้ำ อาจเกิดรอยย่นตื้นๆบนผิวหนังได้

ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีเราควรดื่มน้ำประมาณ 8-10 แก้วทุกวัน แต่ไม่ควรดื่มมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดภาวะเกลือแร่ในร่างกายเจือจางผิดปกติได้นะคะ”

ติดต่อ:

[email protected]

02 246 5111 ต่อ 222

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net