ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารยูโอบี (ไทย) ที่ ‘BBB+’ และปรับลดอันดับเครดิตความแข็งแกร่งทางการเงินเป็น ‘bb+’

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating (LTFC IDR)) ของธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด มหาชน (UOB (Thai)) ที่ ‘BBB+’ และปรับลดอันดับเครดิตความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating หรือ VR) ลงมาอยู่ที่ ‘bb+’ จาก ‘bbb-’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Rating) ได้รับการคงอันดับที่ ‘AAA(tha)’ โดยธนาคารมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงอยู่ด้านล่าง อันดับเครดิตของ UOB (Thai) มีพื้นฐานมาจากการถือหุ้นและการให้การสนับสนุนของ United Overseas Bank (UOB; ‘AA-’/Stable) เมื่อพิจารณาถึงชื่อเสียงและฐานะทางการเงินของ UOB ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ UOB (Thai) จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น หากมีความจำเป็น อันดับเครดิตภายในประเทศสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่เห็นว่าหลักเกณฑ์การจำกัดสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติที่ 49% ของประเทศไทย ไม่น่าจะเป็นข้อจำกัดในการเพิ่มทุน เพื่อให้การสนับสนุนบริษัทลูกในประเทศไทยของ UOB ในกรณีที่มีความจำเป็น โดยเฉพาะในช่วงที่ธนาคารประสบปัญหาทางการเงิน การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นผลมาจากความสามารถในการทำกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ที่ค่อน ข้างด้อยกว่า เมื่อเทียบกับธนาคารอื่นๆที่มีอันดับเครดิตอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงข้อจำกัดในด้านความสามารถในการระดมเงินฝาก เนื่องจากเครือข่ายการดำเนินธุรกิจที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก ฟิทช์เชื่อว่าแม้ว่า UOB (Thai) จะสามารถได้รับการสนับสนุนในด้านสภาพคล่องจาก UOB ได้หากมีความจำเป็น แต่ UOB ก็ยังคงต้องการให้ธนาคารระดมเงินทุนด้วยตัวเอง ฟิทช์มองว่าธนาคารน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1-2 ปีในการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ และน่าจะใช้เวลามากกว่านั้นในการเพิ่มศักยภาพด้านการระดมเงินทุน โดยเฉพาะในสภาวะที่มีการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเงินฝาก อันดับเครดิตของ UOB (Thai) สะท้อนถึงระดับการสนับสนุนจากธนาคารแม่ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการพิจาณาอันดับเครดิต ดังนั้นการลดสัดส่วนการถือหุ้นหรือระดับการสนับสนุนของ UOB อาจส่งผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิต นอกจากนี้จากการที่อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOB (Thai) ถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (Country Ceiling) ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของเพดานอันดับเครดิตของประเทศ อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตดังกล่าวของธนาคาร ฟิทช์มองว่าในระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยใดที่จะสนับสนุนให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้รับการปรับขึ้น อย่างไรก็ตามหากเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจมีการปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รวมทั้งคุณภาพสินทรัพย์และระดับของสำรองหนี้สูญปรับตัวดีขึ้น น่าจะเป็นผลดีกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน UOB (Thai) มีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.54% ณ สิ้น เดือนธันวาคม ปี2554 อย่างไรก็ตามอัตราส่วนดังกล่าวลดลงจากที่ระดับ 17.78% ณ สิ้นปี 2553 เนื่องจากการใช้กลยุทธ์การเติบโตของสินทรัพย์ในเชิงรุกมากขึ้น ในระยะยาวธนาคารวางเป้าหมายระดับเงินกองทุนไว้ที่ 14%-15% ซึ่งยังคงเป็นระดับที่สูงกว่าธนาคารอื่นในประเทศและต่างประเทศ แต่อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความเสี่ยงในด้านสภาวะแวดล้อมการดำเนินงานและระดับความเสี่ยงโดยรวมของธนาคาร (risk profile) ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท หรือ 3.96% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้น เดือนธันวาคม ปี 2554 เทียบกับ 8.6 พันล้าน หรือ 5.3% ณ สิ้นปี 2553 แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศ และธนาคารลูกของ UOB ในประเทศอื่นๆในเอเชีย อันดับเครดิตของธนาคารยูโอบี (ไทย) ที่ได้รับการคงอันดับมีดังนี้ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’ - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินปรับลดลงเป็น ‘bb+’ จาก ‘bbb-’ - อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’ -กผ-

ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+ฟิทช์ เรทติ้งวันนี้

BAFS เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ย 4.75 - 5.10% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อแก่ "สถาบัน-รายใหญ่" วันที่ 9 - 14 พ.ค. นี้ รองรับการขยายตัวธุรกิจในอนาคต

BAFS เตรียมออกหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ [ 4.75 5.10 ] % ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ "BBB (tha)" จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เตรียมเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ คาดจองซื้อระหว่างวันที่ 9 และ 13 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative; RWN) ของอันดับเครดิต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท...